
💉 วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉีดได้ทุกช่วงตั้งครรภ์
🫁 RSV เสริมภูมิลูกน้อย ลดเสี่ยงติดเชื้อหลังคลอด
🤰 คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ฉีดไตรมาส 3 ลดอันตราย
👩⚕️ แพทย์แนะฉีดก่อน 36 สัปดาห์ ป้องกันโรครุนแรง
📺 รายการ “ครูก้อยพบแพทย์” EP.109 ให้ข้อมูลครบ
#วัคซีนคุณแม่
#ตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย
#ภูมิคุ้มกันลูกน้อย
#แม่มือใหม่ต้องรู้
#ครูก้อยพบแพทย์
การเตรียมตัวเป็นคุณแม่ในยุคนี้ ไม่เพียงแค่ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเท่านั้น แต่ยังต้องวางแผน “การฉีดวัคซีน” ที่จำเป็นระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์ ซึ่งมีผลช่วยลดความเสี่ยงจากโรคที่อันตรายต่อทั้งแม่และเด็กในระยะตั้งครรภ์ รวมถึงช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอดที่ภูมิคุ้มกันของทารกยังอ่อนแอ
ในรายการ “ครูก้อยพบแพทย์” EP.109 โดย ครูก้อย – นัชชา ลอยชูศักดิ์ ผู้ก่อตั้งเพจให้ความรู้ด้านการเตรียมตั้งครรภ์ BabyAndMom.co.th ได้เชิญ พญ.กมลภัทร วิจักขณ์พันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ จากโรงพยาบาลวิชัยยุทธ มาให้ข้อมูลเจาะลึกเกี่ยวกับ 3 วัคซีนสำคัญที่คุณแม่ควรฉีดในระหว่างตั้งครรภ์
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่ – สามารถฉีดได้ทุกช่วงของการตั้งครรภ์ โดยแพทย์มักหลีกเลี่ยงการฉีดในไตรมาสแรกเพราะคุณแม่มักกังวลเรื่องผลข้างเคียง เช่น ไข้หรืออ่อนเพลีย หากเป็นไปได้ ควรฉีดก่อนตั้งครรภ์ หรือในช่วงไตรมาส 2–3 เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ ไข้สูง และลดความเสี่ยงการคลอดก่อนกำหนด
- วัคซีน RSV (Respiratory Syncytial Virus) – เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หลอดลมฝอยอักเสบและปอดอักเสบ โดยเฉพาะในทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือนที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน การฉีดวัคซีน RSV ในคุณแม่ตั้งครรภ์ ช่วงอายุครรภ์ 24 – 36 สัปดาห์ จะช่วยให้ร่างกายคุณแม่สร้างแอนติบอดี และส่งต่อภูมิคุ้มกันผ่านรกไปยังลูก ช่วยลดความเสี่ยงอาการรุนแรงในทารกแรกเกิดได้
- วัคซีนคอตีบ – บาดทะยัก – ไอกรน (Tdap) – แนะนำให้ฉีดในช่วงไตรมาส 3 หรือช่วงอายุครรภ์ 27 – 36 สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้คุณแม่ และถ่ายทอดสู่ลูกในครรภ์ได้ทันที โดยเฉพาะการป้องกันโรคไอกรน ที่อันตรายกับทารกแรกเกิด หากติดเชื้ออาจไอหนัก หายใจลำบาก จนอาจเสียชีวิตในกรณีรุนแรง
พญ.กมลภัทร ยังกล่าวถึงกรณีวัคซีนบาดทะยักเพิ่มเติมว่า หากคุณแม่ได้รับวัคซีนมาครบตั้งแต่วัยเด็กตามโปรแกรมของไทยแล้ว แต่ผ่านมาเกิน 10 ปี ควรฉีดกระตุ้นอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ สำหรับคุณแม่ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน จำเป็นต้องฉีดให้ครบ 3 เข็มภายใน 6 เดือน โดยควรเริ่มก่อนตั้งครรภ์หรือตั้งแต่ไตรมาสแรก
ครูก้อย สรุปว่า การฉีดวัคซีนในระหว่างตั้งครรภ์นอกจากจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้คุณแม่ปลอดภัยแล้ว ยังเป็นวิธีสำคัญในการส่งต่อภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อยทันทีที่คลอด โดยไม่ต้องรอให้ทารกรับวัคซีนเอง ซึ่งมักต้องใช้เวลาถึง 6 เดือนกว่าร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันเองได้อย่างเพียงพอ
ดังนั้น สำหรับคุณแม่ที่กำลังเตรียมตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนที่เหมาะสมตามช่วงเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมให้ทั้งตัวคุณแม่และลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรงตั้งแต่ก่อนคลอด
ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์

Leave a Response