ขอนแก่น วอนล่าตัวคนร้ายขโมยจักรยาน หวั่นก่อเหตุที่อื่นอีก (มีคลิปวงจรปิด)

วงจรปิดจับภาพคนร้ายย่องเงียบกลางดึก ขโมยรถจักรยานซื้อมือสองมาราคา 5,000 บาทหลบหนีไปอย่างลอยนวล วอนตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี หวั่นไปก่อเหตุซ้ำที่อื่นอีก


นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบ้านเลขที่ 207 ซอยหน้าเมือง 13 ถนนรอบเมือง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น บันทึกภาพคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม สูงประมาณ 160-170 ซม. สวมเสื้อยืดสีขาวแล้วสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำทับอีกชั้น กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีดำสวมหน้ากากอนามัยสีแดงเลือดหมู เดินมาจากกลางซอยแล้วมาด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้าน ก่อนจะย้อนกลับไป ผ่านไปประมาณ 20 นาที คนร้ายรายนี้เดินกลับมาแล้วเข้าไปภายในบ้านของผู้เสียหายแล้วยกเอารถจักรยานยี่ห้อไจแอ้นท์ที่ผู้เสียหายซื้อมามือสอง ในราคา 5,000 บาทปั่นหลบหนีไปอย่างลอยนวล โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 26 มี.ค.2565 ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าของรถจักรยานได้นำภาพและคลิปโพสต์ลงในโซเชียลมือเดียตามเพจต่างๆเพื่อแจ้งเตือนและขอทราบเบาะแสคนร้ายให้ทางตำรวจติดตามจับกุมตัว

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 1 เม.ย.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุพบกับนาย เชาวรินทร์ ฤทธิเดช อายุ 43 ปี พาผู้สื่อข่าวดูจุดที่จอดรถจักรยานเอาในภายในบ้าน พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า วันเกิดเหตุนั้นได้จอดรถจักรยานคันที่หายเอาไว้ภายในบ้านหลังนี้ตามปกติ โดยปกติจะปิดรั้วหน้าบ้านเอาไว้แต่จะไม่ได้ล็อค เพราะจะจอดรถจักรยานยนต์และรถยนต์ไว้ที่หน้าบ้าน และไม่คิดว่าจะมีขโมย กระทั่งคืนเกิดเหตุได้ยินเสียงสุนัขที่เลี้ยงไว้เห่า พี่ชายตนเองออกมาดูแต่ไม่เห็นความผิดปกติจึงคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร และผ่านไปก็ยังไม่มีใครเอะใจว่ารถจักรยานหายไปไหน กระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมาจะนำรถจักรยานไปปั่นพบว่าหายไป จึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดดูพบว่าคนร้ายได้เดินมาสำรวจดูลาดเลาเอาไว้ และเปิดประตูรั้วเอาไว้ก่อนจะเดินกลับไปหลบเพื่อดูว่าจะมีคนออกมาหรือไม่ ผ่านไปประมาณ 20 นาทีคนร้ายรายนี้ก็ย้อนกลับมาแล้วเข้าไปยกเอารถจักรยานไป จึงนำคลิปมาโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียพร้อมทั้งนำไปเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น ให้ทางตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายเชาวรินทร์ กล่าวอีกว่า คนร้ายรายนี้จากการตรวจสอบคาดว่าไม่ใช่คนในชุมชน มีการมาดูลาดเลาเอาไว้ล่วงหน้าก่อนก่อเหตุ ตอนนี้ต้องการให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนต่างๆได้ระวังทรัพย์สินของตัวเอง และอยากสื่อไปยังเจ้าหน้าที่ ให้มีการตรวจความเรียบร้อยให้ประชาชนด้วย ส่วนรถจักรยาน ยี่ห้อที่หายไปนั้น ได้ซื้อรถมือสองมาในราคา ห้าพันกว่าบาทเพื่อนำมาปั่นออกกำลังกาย ถ้าเป็นมือหนึ่งราคาหมื่นกว่าบาท วอนทางตำรวจช่วยเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อจะได้ไม่ไปก่อเหตุซ้ำกับประชาชนรายอื่นอีก

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง