เจ้าของร้านอาหารตามสั่งในอำเภอภูเวียง ร้องเรียนผ่านโซเชียลมีเดีย ถูกคนร้ายพกทั้งปืน ทั้งมีด บุกร้าน บอกพ่อสั่งให้มาฆ่า เจ้าของร้านใช้ความไวเข้าต่อยหน้ายื้อปืนจิกหัวกระแทกกับเสาปูนหน้าร้าน จนลูกค้าและผู้ช่วยต้องมาห้ามกลัวจะทำคนร้ายตาย แจ้งความคดีไม่คืบ ทั้งที่คนร้ายทิ้งทั้งรถทั้งโทรศัพท์มือถือ ตำรวจให้หาหลักฐานเองก็หามาพร้อมทั้งพยานอีก 5 คน ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงว่าคนร้ายจะย้อนมาอีกตอนไหน
ที่ร้านครัวบ้านนา บ้านหัวฝาย 5 หมู่ที่ 5 ต.นาชุมแสง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น นายศุภเศรษฐ์ อยู่ดี เปิดโพสต์โซเชียลระบุว่า เมื่อ วันที่ 25 ตุลาคมเป็นวันที่เกิดเหตุคนร้ายได้นำปืนกับมีดพกที่เอวมาถามหาที่ร้าน ถามว่าคนชื่อโจอยู่ไหน ตนจึงบอกว่าผมเองที่ชื่อโจมีอะไรครับ คนร้ายเลยบอกว่าพ่อสั่งมาฆ่า โดยคนร้ายได้นำปืนออกมา จะยิงใส่เลยกระโดดทำร้ายคนร้าย จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป โดยคนร้ายได้ทิ้งรถจักยานยนต์ และโทรศัพท์ที่หล่นไว้หน้าร้าน จากนั้น ตนได้โทรแจ้ว191ประมาณป่ายโมงครึ่งตำรวจได้มารับรถมอไชค์กับโทรศัพท์ที่เป็นของกลางแล้วบอกตนให้ไปแจ้งความที่ ส.น. ตนจึงได้เดินทางไปแจ้งความพอแจ้งความบอกเหตุการทุกอย่าง แต่ตนไม่รู้ชื่อคนร้ายแต่รู้ว่าคนร้ายอยู่บ้านไหน จึงบอกว่าคนร้ายอยู่บ้านหนองโพดแต่ตำรวจบอกว่าไม่รู้ชื่อก็นำหมายเรียกจับไม่ได้ต้องไปหาชื่อมา พอเช้ามาตนจึงได้เดินทางกับพ่อไปขอชื่อคนร้ายกับผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองโพดได้ชื่อคนร้ายมาแล้วพอสามวันหรือสี่วัน ตำรวจบอกตนไปชี้รูปผู้ต้องหา พอไปก็บอกว่าขอพยานคนแรก พอมาอีกสี่ห้าวันขอพยานอีกคน ตนก็ส่งไปให้ปากคำอีก
ตนจึงโพสต์ขอร้องให้หน่วยงานไหนที่เกี่ยวข้อง ขอความช่วยเหลื่อด้วย ตำรวจก็ทำงานดีให้คำปรึกษาดีแต่อยากจับคนร้ายได้เร็วๆกลัวคนร้ายกลับมาทำร้ายอีกครับถ้ามีหน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยตำรวจอาจตำรวจจะจับผู้ร้ายมาลงโทษได้เร็วขึ้น เพราะตนไม่อยากให้คนร้ายลอยนวล และยังบอกอีกว่าถึงวันนี้ก็ยังไม่มีหมายเรีอกออกมาจับผู้ร้าย
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่ร้านที่เกิดเหตุ ร้าน ครัวบ้านนา ตั้งอยู่ริมถนน สาย หนองแก-นาชุมแพ พื้นที่บ้านหัวฝาย หมู่ 5 ต.นาชุมแสง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายอาหารตามสั่งในหมู่บ้าน และได้พบกับนาย ศุภเศรษฐ์ อยู่ดี อายุ 34 ปี เจ้าของร้าน พร้อมผู้ช่วย จัดเตรียมวัตถุดิบทำกับข้าวคอยบริการลูกค้าตามปกติ พาผู้สื่อข่าวเดินดูจุดที่คนร้ายรายนี้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีขาว-ดำ หมายเลขทะเบียน 2กค ระยอง 4598 มาจอดที่หน้าร้านแล้วก่อเหตุ
พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันที่ 25 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนเองอยู่หลังร้านเตรียมของสำหรับทำอาหาร โดยมีผู้ช่วยและพ่ออยู่หน้าร้านคอยรับลูกค้าซึ่งมาทานอาหารที่ร้านจนเต็มทุกโต๊ะรวมกว่า 10 คน มีชายวัยรุ่นคนหนึ่ง อายุประมาณ 20-25 ปี ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจอดที่หน้าร้าน แล้วเดินเข้ามาในร้านถามหาคนชื่อโจ คนไหนคือโจ ตนเองเดินมาจากหลังร้านพอดีผู้ช่วยจึงบอกว่านู่น คนนั้นชื่อโจ ตนเองจึงถามว่ามีอะไรครับ คนร้ายบอกับตนเองว่า พ่อกูสั่งให้มาฆ่ามึง ตนเองก็งงว่ามันคืออะไร ก็ถามคนร้ายว่ามีเรื่องอะไรต้องฆ่ากัน มีอะไรก็เรียกพ่อมาคุย ผิดใจอะไรก็มาคุยกันก่อนไม่เห็นต้องมาฆ่ากันเลย
โดยคนร้ายเดินไปที่รถจักรยานยนต์แล้วเปิดเสื้อขึ้นมา โดยมีมีดพกเหน็บที่เอว และปืนพกสั้นไม่ทราบยี่ห้อสีดำเหน็บอยู่ที่เอวข้างกัน คนร้ายได้หยิบเอาปืนขึ้นมาแล้วเล็งมาที่ตัวเอง ตนเองจึงรีบวิ่งเข้าไปต่อยคนร้ายแล้วจับหัวโขกเข้ากับเสาหน้าร้าน พร้อมทั้งจับแขนเหวี่ยงใส่เสาให้ปืนหลุดแต่ปืนไม่หลุด ตนเองพยายามต่อสู่เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัย แต่ลูกค้าและผู้ช่วยได้เข้ามาห้ามตนเองเอาไว้ก่อน เพราะกลัวว่าคนร้ายจะตาย ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยจังหวะนี้วิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างๆไป โดยทิ้งรถจักรยานยนต์ที่ขับมาไว้หน้าร้าน พร้อมทั้งโทรศัพท์มือถือที่ทำหล่นไว้
หลังเหตุการณ์เริ่มคลี่คลาย ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงตนเองจึงโทรศัพท์ไปที่ 191 เพื่อแจ้งตำรวจ กระทั่งสายตรวจมาแล้วตนเองก็ได้รวบรวมหลักฐานเป็นภาพถ่ายรถ และโทรศัพท์มือถือส่งมอบให้กับตำรวจ โดยมีผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และอบต.นาชุมแสง เป็นพยาน ก่อนเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชัยยันต์ คุณรักษ์ สว.(สอบสวน) สภ.ภูเวียง ต่อมาก็ได้เข้าให้การกับตำรวจ แต่คดีไม่มีความคืบหน้าจึงสอบถามกับร้อยเวร ก็บอกแต่ว่ายังตามจับไม่ได้เพราะไม่ทราบตัวคนร้ายว่าเป็นใคร ต้องมีชื่อ ตนเองจึงสงสัยว่าว่าตำรวจมีหน้าที่สืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายไม่ใช่หรืออย่างไร ตนเองจึงไปหาพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุเป็นลูกค้าและผู้ช่วยรวม 5 คนมาให้ตำรวจ พร้อมทั้งหาชื่อคนร้ายซึ่งจำได้ว่าเคยเห็นอยู่ครั้งหนึ่ง มาเอาหญ้าในที่นาตนเองที่อยู่หลังร้าน แต่ตนเองก็ไม่ได้หวงไม่ได้ห้ามและไม่ได้พูดอะไร จึงไปสืบมาเองกระทั่งทราบชื่อสกุล และรูปจากในเฟซบุ๊กของคนร้าย คาดว่าอายุประมาณ 20-25 ปี ชื่อนายนา (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) ชาวบ้านหนองโพด เขตพื้นที่ อ.ชุแพ จ.ขอนแก่นซึ่งเป็นหมู่บ้านรอยต่อกัน ตนเองก็นำข้อมูลไปให้ตำรวจ ผ่านไป 1 เดือนก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นสอบถามไปถึงหมายเรียกก็ยังไม่มีการออกหมายเรียกมาสอบปากคำแจ้งข้อหา ตนเองจึงชวนกันทีแรกว่าจะเดินขบวน แต่ก็ไม่ทำ จึงแยกย้ายกันเพราะคนที่เป็นพยานสำคัญก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างตรงกัน
นายศุภเศรษฐ์ เจ้าของร้าน บอกอีกว่า ตอนนี้มีความกังวลหลายอย่างเพราะคนร้ายยังไม่ถูกจับกุม ทั้งที่ก่อเหตุอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย พกทั้งมีดทั้งปืนไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจ กลัวว่าจะย้อนกลับมาก่อเหตุอีก หลังแจ้งความก็ไม่มีความคืบหน้าในทางคดี ไม่มีการออกหมายเรียกมาสอบปากคำทั้งที่มีข้อมูลชี้ชัดว่าคนร้ายเป็นใครควรจะออกหมายเรียกมาสอบปากคำและแจ้งข้อหาได้แล้วภายใน 4 วัน แต่ตอนนี้ผ่านเป็นกว่า 1 เดือนก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วถ้าเกิดกฎหมายพึ่งพาไม่ได้ ตนเองก็อยากจะทำกลับคืนเหมือนที่คนร้ายคนนี้มาทำกับตนเองแทนได้หรือไม่ ถ้ากฎหมายที่ตนเองเชื่อมาตลอดว่าศักดิ์สิทธิ์ ไม่สามารถทำอะไรคนทำผิดกฎหมายได้
ทั้งนี้สาเหตุที่นายนามาทำนั้น ตนเองคิดไม่ออกเลยแม้แต่สาเหตุเดียว เพราะไม่เคยรู้จัก ไม่เคยพูดคุย เห็นแค่ครั้งเดียวตอนที่นายนามาเอาหญ้าในที่นาแล้วก็ขับรถออกไปพร้อมพ่อของนายนา ส่วนที่นายนาบอกว่าพ่อสั่งมาฆ่านั้น ตนเองก็ยิ่งงงไปใหญ่ เพราะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับพ่อของนายพนา หรือแม้แต่ทุกคนในหมู่บ้าน ตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ไม่เคยมีเรื่องชกต่อยกับใคร ไม่เคยมีศัตรูที่ไหน แม้ว่าตนเองย้ายมาได้ไม่นานก็ไม่คิดว่าจะเกี่ยวกับนายนา เพราะนายนาก็ไม่ได้มีธุรกิจร้านอาหาร หรือธุรกิจอื่นๆในพื้นที่ ตอนนี้หวาดกลัวอยากให้ตำรวจช่วยติดตามทำคดีให้เกิดความเป็นธรรมหรือมีหน่วยงานไหนที่พอจะช่วยเหลือได้อยากจะให้เข้ามาช่วยเหลือตนเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขอนแก่น คืบคนร้ายชักปืนเล็งเจ้าของร้านอาหารบอกพ่อสั่งฆ่า (มีคลิป)
Leave a Response