ขอนแก่น “หมูหันหมูหยอง” คู่หูหมูแคระจอมป่วนพร้อมรับนักท่องเที่ยว (มีคลิป)

01

หมูหัน หมูหยอง คู่หูหมูแคระแห่ง “อินสไปริ่ง ฟาร์ม” ใจกลางเมืองขอนแก่น พร้อมรับนักท่องเที่ยวเข้ามาชมความน่ารักและป้อนนม พร้อมร่วมกิจกรรมที่สามารถทำได้ทั้งครอบครัว ได้ความรู้เชิงเกษตรและความสนุกสนานจากกิจกรรมDIY รับประกันความสะอาดไร้เชื้อโรค

        ในสถานการณ์ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ ทำให้หลายๆธุรกิจอาชีพต้องปิดตัวลง แต่ก็มีอีกหลายๆคนที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เพื่อความอยู่รอด โดยเฉพาะที่ อินสไปริ่ง ฟาร์ม ริมถนนกลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ห่างจากวัดหนองแวงพระอารามหลวง เพียง 500 เมตรเท่านั้น ซึ่งเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาศึกษา หาความรู้ ได้จากการสัมผัสและลงมือทำของจริง ภายใต้คอนเซ็ปต์ของฟาร์มว่า “Learning & Doing” ซึ่งในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็สามารถเข้าเที่ยวชมในแบบครอบครัว และเป็นหมู่คณะ ภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ซึ่งบรรยากาศภายในฟาร์มแห่งนี้เมื่อนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยี่ยมชมก็จะได้พบกับ 2 คู่หูสุดป่วนประจำอินสไปริ่ง ฟาร์ม คือ น้องหมูหยอง และ น้องหมูหัน ซึ่งเป็นหมูแคระเพศผู้ทั้งคู่ ที่จะเดินเพ่นพ่านคอยอ้อนขอกินนมและสร้างสีสันให้กับนักท่องเที่ยวได้มีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มประทับใจตลอดการเที่ยวชมฟาร์ม ซึ่งคู่หูหมูหยองและหมูหันนั้น เป็นหมูแคระที่มีความเชื่องและขี้อ้อนคน จนเป็นไฮไลท์ของอินสไปริ่งฟาร์ม ที่จะคอยดึงดูดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมด้วย

        ซึ่งภายในฟาร์มจะมีฐานให้ความรู้ทางการเกษตรด้านต่างๆ แก่เด็ก เยาวชนจำนวน 4 ฐาน คือฐานเมล็ดพันธ์ ที่สามารถเรียนรู้เรื่องเมล็ดพันธุ์ของพืชผักชนิดต่างๆมากมาย ฐานสมุนไพร ก็เรียนรู้ตัวอย่างสมุนไพรต่างๆ เช่น ตะไคร้หอม ที่จะได้ทำการสกัดน้ำตะไคร้หอมได้ด้วยตัวเอง นำกลับไปใช้เพื่อฉีดพ่นป้องกันยุงได้ด้วย ฐานความหวาน ซึ่งในจุดนี้ ฟาร์มได้มีการปลูกอ้อยในหลายสายพันธุ์ ซึ่งเป็นอ้อยที่นำมาทำน้ำอ้อยดื่มและขายได้ด้วย ทำสมุดจากกระดาษชานอ้อย ฐานเทคโนโลยี จะได้ชมการพัฒนาการใช้เทคโนโลยี ในการประหยัดน้ำ ประหยัดไฟและช่วยลดพลังงาน ฐานการปลูกพืชในโรงเรียน ซึ่งในจุดดังกล่าว จะได้เห็นต้นคราม ที่นำมาหมักและทำน้ำคราม มาย้อมสีผ้าได้ นอกจากนี้ทางฟาร์มยังมีกิจกรรมที่สามารถลงมือทำ เช่นการทำแบตเตอรี่จากดิน สนสกัดน้ำมันหอมระเหย เพนท์กระเป๋าสีสมุนไพร ปลูกเมล็ดพันธุ์ และการทำพิซซ่าเตาดิน สมุดจากการดาษชานอ้อย ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ ทำได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สร้างความรักความสามัคคีให้กับครอบครัวที่ได้ร่วมกันทำกิจกรรมภายในฟาร์มแห่งนี้

        นายศักดิ์สิทธิ์ ศิริประยูรศักดิ์ เจ้าของอินสไปริ่ง ฟาร์ม กล่าวว่า อินสไปริ่ง ฟาร์ม มีเนื้อที่ 16 ไร่ ทำเป็นฟาร์ม 10 ไร่ และในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น การมาเที่ยวนอกบ้าน ซึ่งอยู่ใกล้ๆเขตเมือง เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนยังทำได้ ซึ่งฟาร์มได้ปฏิบัติตามมาตรฐานของสาธารณะสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในทุกขั้นตอน เพราะความปลอดภัยต้องมีให้กับทุกคน ทั้งพนักงานและนักท่องเที่ยวด้วย โดยฟาร์มจะแบ่งการรับนักท่องเป็น 2 กลุ่มคือ ครอบครัว ทุกคนอยู่บ้านด้วยกันคือกลุ่มเดียวกัน ไม่ได้สัมผัสกับใคร มาที่ฟาร์มก็จะมีคนในครอบครัว และกลุ่มนักท่องเที่ยว ถ้าเป็นกลุ่มใหญ่ ก็จะรับเพียงกลุ่มเดียว ส่วนจุดดึงดูดความสนใจให้คนเข้ามาเที่ยวชม คือ การเดินเที่ยวในฟาร์มที่บรรยากาศปิดและโปร่ง ทำสมุดทำมือจากกระกาษชานอ้อย ให้นมหมูแคระ เก็บไข่ไก่ และทำพิซซ่าเตาดิน ปลูกผักจากเมล็ดพันธุ์ การทำน้ำยาพ่นกันยุงจากตะไคร้หอม ซึ่งนักท้องเที่ยวสามารถนำกลับบ้านได้ด้วย

        นอกจากนี้ในฟาร์มยังสามารถเรียนรู้การทำลูกประคบ เพ้นท์กระถาง พิซซ่าเตาดิน จัดสวนขวด ทำเทียน ปั้นดิน ในส่วนของเด็กๆ ก็มีการให้ความรู้ขั้นพื้นฐานทางการเกษตรมีกิจกรรมให้ความรู้มากมาย และในส่วนของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวในฟาร์ม และอยากร่วมทำกิจกรรมต่างๆเช่น ทำพิซซ่าเตาดิน เป็นกิจกรรมละ200บาท หรือจัดสวนขวด เพ้นท์กระถาง ทำเทียน ปั้นดิน คนละ100 บาท และถ้ามาเป็นกลุ่มๆละ 10 คนขึ้นไป คนละ100บาท และในสถานการณ์โควิดระบาด ฟาร์มมีการปรับตัว ด้วยการขายและสอนออนไลน์ โดยพนักงานจะทำสื่อการสอนเป็นคลิปไว้ สอนและขายผ่านออนไลน์ นอกจากนี้ทางฟาร์มก็ได้ปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเองจากการเกษตร ด้วยการขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่นการขายผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ด้วยการปลูกผักสลัดขายส่งตามโรงแรม ร้านค้า และการปลูกฟ้าทลายโจร ปลูกกระชาย ปลูกขิงขาย มากกว่าการให้ความรู้ทางวิชาการ

นายศักดิ์สิทธิ์ ศิริประยูรศักดิ์ เจ้าของอินสไปริ่ง ฟาร์ม
นายศักดิ์สิทธิ์ ศิริประยูรศักดิ์ เจ้าของอินสไปริ่ง ฟาร์ม

        ขณะที่ นายชุตยาเวศ สินธุพันธ์ อายุ 45 ปี นักท่องเที่ยว ที่เข้ามาเที่ยวชมภายในฟาร์ม และเดินชมฐานต่างๆเรียบร้อยแล้ว กล่าวว่า เป็นความโชคดี ที่ขอนแก่น มีสถานที่ท่องเที่ยว ในลักษณะของฟาร์ม ที่ให้ความรู้ มีการแนะนำด้านต่างๆ จึงเหมาะที่จะมาเที่ยวชมกันเป็นครอบครัว ได้ความรู้เรื่องการเกษตร ซึ่งทุกคนควรรู้ว่า อาหารที่เราได้กินนั้นมาจากอะไร ได้มาอย่างไร ทุกคนควรรู้ไว้เป็นความรู้เบื้องต้น และเด็กๆควรจะมี และมาศึกษา ซึ่งในสถานการณ์การระบาดโควิด -19 นั้น ต้องยอมรับว่า ทางฟาร์มมีการบริหารจัดการที่ดี เพราะรับเฉพาะกลุ่มปิด ถ้ามาเที่ยว รักษาตัวเองดีๆ เพราะบรรยากาศเปิดเหมาะแก่การมาเยี่ยมชม มารับความรู้ ดีกว่าการเที่ยวในสถานที่ปิดอย่างห้างสรรพสินค้าต่างๆ และสถานที่ปิดอื่นๆด้วย

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง