❤️‍🩹 8 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “เอดส์” และผู้ติดเชื้อ HIV ที่คุณควรรู้

_d9fec5bb-9705-4434-93c1-a0f706088ddf

🧬 HIV กับเอดส์ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
💊 ติดเชื้อ HIV ยังมีโอกาสรอด
❌ ไม่ติดง่ายจากการใช้ชีวิตร่วมกัน
🤝 ผู้ติดเชื้อไม่ใช่คนสำส่อน
👨‍👩‍👧‍👦 ผู้ติดเชื้อสามารถมีครอบครัวได้

แม้ “โรคเอดส์” และ “เชื้อ HIV” จะเป็นประเด็นด้านสุขภาพที่ถูกพูดถึงมายาวนาน แต่ในสังคมไทยยังคงมีความเข้าใจผิดอยู่ไม่น้อย ซึ่งก่อให้เกิดการตีตราและการเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์จึงรวบรวม 8 ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคเอดส์และผู้ติดเชื้อ HIV เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจใหม่อย่างถูกต้อง

1. โรคเอดส์ กับเชื้อ HIV ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
HIV คือเชื้อไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ส่วนโรคเอดส์ (AIDS) เป็นภาวะที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่องจากผลของการติดเชื้อ HIV มาเป็นระยะเวลานานจนร่างกายอ่อนแอและติดเชื้อฉวยโอกาสได้ง่าย

2. เป็นเอดส์ ยังมีโอกาสรอด
แม้ยังไม่มียารักษาให้หายขาด แต่ยาต้านไวรัสสามารถช่วยควบคุมปริมาณเชื้อ HIV ในร่างกายไม่ให้ลุกลามจนกลายเป็นโรคเอดส์ได้ หากตรวจพบไวแต่เนิ่น ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการมีชีวิตยืนยาวมากขึ้น ประเทศไทยยังมีสวัสดิการให้ยาต้านฟรีเมื่อเข้าร่วมโครงการกับโรงพยาบาลที่เข้าร่วม

3. ติดเชื้อ HIV ไม่จำเป็นต้องมีแผลตุ่ม หนองขึ้นเต็มตัว
อาการที่เห็นเป็นตุ่มหรือแผล คือผลของโรคฉวยโอกาส เช่น วัณโรคหรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่แสดงออกเมื่อภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอมากแล้ว ซึ่งไม่ใช่อาการเฉพาะของผู้ติดเชื้อ HIV ทุกคน

4. ไม่ใช่ทุกคนที่ติดเชื้อ HIV จะมีพฤติกรรมสำส่อน
เชื้อ HIV สามารถติดต่อจากแม่สู่ลูก ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือแม้แต่มีเพศสัมพันธ์กับคู่ครองคนเดียวที่ติดเชื้อก็มีโอกาสติดเชื้อได้เช่นกัน ไม่ควรเหมารวมว่าผู้ติดเชื้อคือผู้มีพฤติกรรมทางเพศเสี่ยงเสมอไป

5. เชื้อ HIV ไม่ได้ติดต่อกันง่ายเหมือนไข้หวัด
ไม่สามารถติดเชื้อผ่านการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น กอด จูบ (ที่ไม่มีแผลในปาก), การใช้ช้อนส้อมร่วมกัน, ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน, หายใจร่วมห้อง หรือใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน การติดเชื้อจะเกิดเมื่อสารคัดหลั่งหรือเลือดจากผู้ติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านแผลสด

6. ผู้ติดเชื้อ HIV อาจไม่ต้องทานยาต้านไวรัสไปตลอดชีวิต
หากผู้ติดเชื้อรับประทานยาต้านไวรัสตรงเวลาและดูแลสุขภาพอย่างดี เชื้อไวรัสในร่างกายอาจลดลงถึงระดับตรวจไม่พบ แพทย์อาจพิจารณาหยุดยาได้ แต่ยังต้องติดตามผลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

7. ผู้ติดเชื้อ HIV สามารถมีชีวิตปกติได้
ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ปัจจุบัน ผู้ติดเชื้อที่ดูแลสุขภาพอย่างดีและรับประทานยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอสามารถมีชีวิตยืนยาวได้เทียบเท่าคนทั่วไป หรืออาจยืนยาวกว่าคนที่เป็นโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น เบาหวาน ความดัน หรือหัวใจ

8. ผู้ติดเชื้อ HIV สามารถมีครอบครัวและลูกได้
การมีครอบครัวสำหรับผู้ติดเชื้อไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป ด้วยการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ และการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่น การเลือกเวลามีบุตรให้ปลอดภัย หรือการทำเด็กหลอดแก้ว ผู้ติดเชื้อสามารถมีลูกที่ไม่ติดเชื้อได้

ท้ายที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ทัศนคติ” ของสังคม เพราะ HIV ไม่ได้ทำให้ผู้ติดเชื้อกลายเป็นคนน่ารังเกียจ พวกเขาคือมนุษย์เช่นเดียวกับเราทุกคน หากได้รับการดูแลและกำลังใจอย่างเข้าใจจากคนรอบข้าง ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพไม่ต่างจากใคร

#HIVไม่ใช่จุดจบชีวิต
#หยุดตีตราผู้ติดเชื้อ
#รู้ทันเอดส์
#ยาต้านฟรีมีจริง
#ผู้ติดเชื้อก็มีครอบครัวได้

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์


Leave a Response

เรื่องล่าสุด