ชาวบ้านไผ่เดือนร้อนหนักถูกคนร้ายขโมยแผงโซล่าร์เซล ปั้มน้ำ ไม่ถึง 1 เดือน โดนไป 4 ราย แจ้งตำรวจรวบได้ทันควันพบเป็นคนติดยาไม่มีงานทำ รับตระเวนลักทรัพย์สินในไร่นาชาวบ้านเสียหายหลายหมื่นบาท พร้อมรวบคนรับซื้อ ตำรวจเชื่อทำเป็นขบวนการ

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจาก สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ได้ทำการจับกุมนายเมธา ใสวงษา(เสื้อเหลือง) อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 4 ตำบลบ้านลาน อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น และนายถิ่น นรินทร์(ใส่เสื้อลาย) อายุ 42 ปีอยู่บ้านเลขที่ 23/3 หมู่ 3 ตำบลบ้านลาน อำเภอบ้านไผ่ โดยทั้งสองมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดและลักทรัพย์ โดยก่อนหน้านี้นางพรนพา พงศ์พิริยะกาญและสามี ชาวบ้านกุดเชือก ตำบลบ้านลานได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ว่า ถูกคนร้ายลักขโมยทรัพย์สินได้แก่ แผงโซล่าเซลล์จำนวน 2 แผงและปั๊มน้ำบาดาลพร้อมชุดอุปกรณ์ควบคุม 1 ชุดที่สวนเกษตรของตน 2 ครั้ง คือวันที่ 31 สิงหาคม และวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เสียหายหลายหมื่นบาท

และต่อมาวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ก็ได้รับแจ้งจากนางกนกวรรณ เชิดโกทา ชาวบ้านสว่าง ว่าถูกคนร้ายขโมยแผงโซล่าเซลล์ไปอีก 1 แผงที่สวนเกษตรของตนเมื่อคืนวันที่ 10 กันยายน 2566 และในวันเดียวกัน นางเดือน พืชผักหวาน ชาวบ้านผักหวาน ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกรายได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านไผ่เช่นกันว่าที่สวนของตนก็ถูกคนร้ายเข้าไปขโมยปั๊มน้ำในสวนเกษตรของตน เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา

พันตำรวจเอกไพโรจน์ ไทยพุทรา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น รักษาการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านไผ่ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของ สภ.บ้านไผ่ออกหาเบาะแสของคนร้ายกลุ่มนี้โดยการนำของพันตำรวจโทมนตรี สุปะตำ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.บ้านไผ่ และพันตำรวจตรีปรีชา สะบก สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.บ้านไผ่พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามจนกระทั่งทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายเมธา ใสวงษา หรือ กั๊ก เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการจับกุมซึ่งนายเมธาฯ ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์จริง โดยได้นำทรัพย์สินที่ขโมยมาไปขายให้นายถิ่นฯ ซึ่งมีอาชีพรับจ้างติดตั้งชุดอุปกรณ์สูบน้ำด้วยพลังแสงอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปเข้าทำการจับกุมนายถิ่นฯ ได้ที่บ้านลานหมู่ 3 พร้อมอุปกรณ์ที่ถูกขโมยนำส่งพนักงานสอบสวน โดยทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง ซึ่งเหตุจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้

นายเมธาฯ ผู้ต้องหา เล่าว่าตนไม่มีอาชีพ จึงตระเวนหาหลักทรัพย์ตามทุ่งนา ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเกษตร นำไปขายนำเงินมาใช้จ่ายประจำวันและซื้อยาบ้ามาเสพ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายเมธาฯ ฐานลักทรัพย์และเสพยาเสพติด ส่วนนายถิ่นฯ แจ้งข้อหารับซื้อของโจร โดยนายถิ่นรับสารภาพว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรกแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ หลังจากสอบสวนได้นำส่งทั้งสองคนให้พนักงานสอบสวนส่งดำเนินการตามกฎหมายและจะได้ขยายผลหาเครือข่ายแก๊งขโมยทรัพย์สินทางการเกษตรของชาวบ้านต่อไปส่วนทางด้านผู้เสียหายนางพรนภาฯ หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า รู้สึกดีใจมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่ขโมยทรัพย์สินของตนไปและขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บ้านไผ่เป็นอย่างมาก ซึ่งตนไม่คิดว่าจะได้ทรัพย์สินดังกล่าวคืนมา