ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน กรณีหญิงรายหนึ่งอ้างว่าถูกตำรวจในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ 5 คน บุกห้องพักอุ้มตัวยัดยาเสพติด เอาเงิน 5 หมื่นแลกปล่อยตัว ยืนยันให้ความเป็นธรรม

จากกรณีคลิป ชายฉกรรจ์ 5 คน บุกห้องพักหญิงสาวรายหนึ่ง ในจังหวัด กาฬสินธุ์ พร้อมอ้างตัวว่าเป็นตำรวจชุดเฉพาะกิจ ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมทั้งค้นห้องพัก แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย พบเพียงเงินสด 20,000 บาท ก่อนที่ชายทั้ง 5 คน จะพาหญิงรายดังกล่าวออกจากห้องไป พร้อมกับชี้ว่ากระดาษทิชชูสีขาวที่วางอยู่บริเวณโคนต้นไม้หน้าห้องเป็นของ น.ส.เอ ซึ่งเธอได้ปฏิเสธ แต่กลุ่มชายทั้ง 5 ได้บอกให้เธอชี้พร้อมกับถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้นชาย 5 คน ได้พาเธอขับรถออกจากรีสอร์ทขับวนทั่วเมืองกาฬสินธุ์ ระหว่างที่นั่งรถอยู่ชายทั้ง 5 ได้กล่อมให้เธอยอมรับว่าเป็นเจ้าของห่อกระดาษสีขาว เรื่องจะได้จบ แต่เธอยังปฏิเสธ ชายทั้ง 5 จึงเสนอว่าต้องการเงิน 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกยัดข้อหา เธอจึงขอยืมเงินจากน้องชาย 30,000 บาท รวมกับเงินที่ตรวจเจอก้อนแรก 20,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,000 บาท มอบให้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่หน้าวัดประชานิมิตร อ.เมือง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดเมื่อเวลาประมาณ 18.20 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยกับสื่อมวลชน กรณี ที่ข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกกล่าวหาว่ายัดยาเสพติดให้หญิงสาวรายหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า เรื่องดังกล่าวนั้น ผู้ที่ถูกกล่าวหา ทั้ง 5 คนเป็นข้าราชการตำรวจจริง และยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวอีกว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวนั้น มีพล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4 เป็นหัวหน้าคณะฯ ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบให้เสร็จภายใน 7 วัน ก็จะได้ข้อสรุป เพราะหลังจากทราบเรื่อง ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา เพื่อทำการตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องที่ปฏิบัติตามนโยบายของตำรวจภูธรภาค 4 ที่ต้องการปราบปรามยาเสพติด แต่การปฏิบัติสวนหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ก็ต้องซื่อสัตย์ด้วยและโปร่งใส ซึ่งเมื่อถูกร้องเรียนถึงพฤติกรรมเจ้าของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง