ชาวขอนแก่น เตือนภัยสาวหล่อทำทีมาซื้อของแต่ไม่มีเงินสดติดตัว ขอโอนเงินเข้าบัญชีแต่เกินกว่าสิ่งของ และขอเงินส่วนต่างคืน   พบแม่ค้าหลายรายหลงเชื่อ สูญทั้งเงิน เสียทั้งของ 

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่นได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่หน้าร้านขายเนื้อวัวสด ริมถนนทางเข้าบ้านโคกสำราญ ม.15 ต.โคกสำราญ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์หญิงรายหนึ่งตัดผมสั้นคล้ายผู้ชาย สวมเสื้อแขนยาวมีฮู้ดด้านหลังสะพายกระเป๋าสีดำขับขี่รถฮอนด้าเวฟสีดำเทาหมายเลขทะเบียน 2 กธ-9657 ขอนแก่นมาจอดบริเวณหน้าร้านทำทีเป็นคุยโทรศัพท์ก่อนจะเดินมาหยิบเอาขวดบรรจุน้ำมันที่ทางร้านแบ่งขายไปเติมรถจักรยานยนต์ของตนเอง จากนั้นพูดคุยกับเจ้าของร้านทำทีเป็น ถามราคาเนื้อวัวก่อนจะซื้อเนื้อวัวครึ่งกิโลแล้วขอจ่ายเงินแบบโอนเงิน โดยขอโอนเกินและขอเงินส่วนต่างเป็นเงินสด เมื่อได้ตามต้องการก็ขับรถออกไปเหมือนปกติ โดยเจ้าของร้านมาทราบภายหลังว่าไม่มีการกดยืนยันการโอน เสียทั้งเงินและเสียทั้งของ

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านค้าขายเนื้อดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ริมถนนทางเข้าหมู่บ้านโคกสำราญ พบกับ น.ส.อรอุมา เจียวาปี อายุ29 ปี เจ้าของร้าน และเป็นผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีหญิง รายหนึ่งตัดผมสั้น เหมือนผู้ชายอายุประมาณ 25-30 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้านโดยทำที่เป็นคุยโทรศัพท์ ก่อนที่จะขอซื้อน้ำมันที่วางขายอยู่หน้าร้านโดยหยิบขวดน้ำมันราคา 40 บาทมาเติมที่รถ ก่อนที่จะถามราคาเสือร้องไห้ ตนจึงตอบไปว่ากิโลละ300 บาท สาวทอมดังกล่าวจึงสั่งเสือร้องไห้ครึ่งกิโลในราคา 150 บาท จึงแจ้งราคารวมค่าน้ำมันและเสือร้องไห้ เป็น 190 บาท 

“สาวทอมบอกกับตนว่า ตนเองไม่มีเงินสดติดตัว มีเงินอยู่ในบัญชี 410 บาท จึงจะขอโอนเงินเข้าบัญชีร้านเกินจำนวนของที่ซื้อ และขอรับเงินส่วนต่างที่โอนเข้าไปเป็นเงินสดแทน เพื่อที่ตนเองจะได้มีเงินสดติดตัว โดยสาวทอมโอนให้ในยอด 400 บาท และทางร้านต้องเอาเงินสดให้คืน 210 บาท ตนเอง เห็นว่าเป็นยอดเงินที่ไม่สูงมาก จึงตกลง จากนั้นสาวทอมจึงทำทีเป็นสแกน QR Code เพื่อจ่ายเงินก่อนที่จะยื่นโทรศัพท์มาให้ตนดูว่าชื่อร้าน และยอดโอนถูกต้อง ก่อนที่จะดึงโทรศัพท์กลับไป ตนเองไม่ได้มองละเอียด และไม่เคยถูกใครโกงมาก่อน จึงแจ้งไปว่าถูกต้องและนำเงิน 210 บาททอนให้กับสาวทอมคนดังกล่าวไป“

น.ส.อรอุมา กล่าวต่ออีกว่า จากนั้นตนมาเช็คโทรศัพท์ปรากฏว่าไม่มียอดโอนเงินเข้ามาในโทรศัพท์ จึงรู้ว่าโดนสาวทอมหลอกแล้ว เมื่อเข้ามาพูดคุยในเพจคนบ้านไผ่ จึงพบว่ามีผู้ที่โดนแบบตนหลายรายโดยมีการกระทำลักษณะเดียวกันทุกร้านจึงอยากฝากเตือนถึงร้านค้าต่างๆให้ระมัดระวังบุคคลลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ตนเองยังไม่ได้เข้าแจ้งความโดยยังให้โอกาสนำเงินทอนมาคืนและนำเงินมาจ่ายค่าสินค้าที่ซื้อไป แต่หากไม่นำมาคืนก็จะดำเนินการเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดต่อไป 

“ฝากถึงผู้ก่อเหตุ อย่าหาทำสิ่งไม่ดีแบบนี้เพราะเงินทองนั้นหายากทุกคนก็จำเป็นต้องใช้ต้องจ่ายแต่มาชุบมือเปิบมาหลอกกันแบบนี้มันทำให้เสียหายเสียความรู้สึกเงินยิ่งหาได้มาด้วยความยากลำบากควรขยันทำมาหากินน่าจะดีกว่า รวมถึงฝากถึงร้านขายของต่างๆให้ระวังบุคคลลักษณะดังกล่าว พร้อมทั้งให้ตรวจสอบยอดเงินว่าเข้าบัญชีของตนเรียบร้อยแล้ว ยอดถูกต้องแล้ว จึงอนุญาตให้ลูกค้าออกจากร้าน ไม่อยากให้ใครต้องมาโดนแบบตนเอง “