สลดลูกชายทำร้ายพ่อเสียชีวิต น้อยใจคิดเองว่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน

เกิดเหตุลูกชายวัย 37 ปี ทำร้ายร่างกายพ่อ ทั้งเตะ ทั้งต่อย ทั้งถีบ ก่อนจับพ่อเหวี่ยงลงพื้นเตะซ้ำสองทีจนพ่อสลบ ก่อนที่ญาติๆจะเห็นเข้ามาช่วยแต่ไม่สามารถยื้อเอาไว้ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนสาเหตุน้อยใจคิดไปเองว่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน ให้เงินพี่สาวมากกว่า คิดว่ารักพี่สาวมากกว่า สุดท้ายมีปากเสียงกับพ่อจนกลายเป็นเหตุสลด

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 22 พ.ค.2566 ร.ต.อ.ประยูร หินวิเศษ รอง สว.(สอบสวน)หนองนาคำ ได้รับแจ้งเหตุลูกทำร้ายพ่อที่หน้าบ้านเลขที่ 73 บ้านคึมชาด ม.8 ต.ขนวน อ.หนองนาคำ จ.ขอนแก่น ได้รับบาดเจ็บสาหัสหมดสติ หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ จุดหนองนาคำไปทำการตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบนาย บุญเลี้ยง คำจันดี อายุ 71 ปี นอนไม่มีชีพจรอยู่ภายในบ้าน โดยมีภรรยาและญาติๆเฝ้าอยู่ข้างๆ ก่อนจะประสานแพทย์โรงพยาบาลหนองนาคำร่วมชันสูตรพบว่าเสียชีวิตแล้ว พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองนาคำ ได้เข้าควบคุมตัวนาย มนตรี คำจันดี อายุ 37 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ที่เกิดเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน และไม่ได้ขัดขืนการเข้าควบคุมตัวของทางเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

จากการสอบถามภรรยาผู้เสียชีวิต แม่ของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ที่ผ่านมาไม่รู้ว่าลูกชายยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ แต่ลูกชายจะดื่มเหล้าเมาทุกวัน มักจะพูดทำนองน้อยใจ คิดไปต่างๆนานาว่าพ่อแม่ไม่รัก รักพี่มากกว่าตัวเอง และบอกว่าพ่อแม่ทำไม่ถูกให้เงินพี่มากกว่า ทั้งที่พ่อแม่หาเงินมาก็ให้ลูกใช้ พี่สาวส่งเงินมาก็แบ่งให้ลูก ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นมีปากเสียงกันครั้งหนึ่ง น้อยใจว่าพ่อแม่เอาเงินให้แต่พี่สาว ทั้งที่เป็นเงินแฟนพี่สาวส่งมาให้ ทำร้ายพ่อล้มลงหัวฟาดพื้นสลบ ญาติๆที่เห็นรีบเข้ามาช่วยแต่ไม่สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ โดยลูกชายทั้งถีบ ทั้งใช้มือตี ทั้งเหวี่ยงลงพื้น ทั้งเตะพ่อซ้ำอีก 2 ครั้ง จนพ่อสลบ ซึ่งญาติๆช่วยกันพากลับมาที่บ้าน ซึ่งยังหายใจ แต่หายใจรวยรินแล้ว โดยได้เรียกตา ตา ตา แต่ก็นิ่งไป และพบว่ามีเลือดที่ฝ่ามือ แผลถลอกตามร่างกายบวมช้ำ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึงทำการตรวจสอบดูบอกว่าไม่มีชีพจรแล้ว และก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุผู้เสียชีวิตก็ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน และโรคไต แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ฟอกไตเพราะไม่มีเงิน

ส่วนเรื่องที่มีปัญหากันนั้นผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกชายมีแต่พูดทำนองน้อยใจ คิดไปเองว่าพ่อแม่มีแต่เอาเงินให้พี่สาว ไม่ให้ตัวเอง รักพี่มากกว่าตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องเงินขายรถกระบะเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ธกส. แต่ขายได้ก็แบ่งให้ทั้งพี่สาวและผู้ก่อเหตุ โดยลูกชายที่ก่อเหตุได้เงินน้อยกว่าพี่สาว ซึ่งพี่สาวที่ได้เงินเยอะกว่านั้นต้องนำเงินไปจ่ายหนี้ธกส. น้องชายคิดไปเองว่าพ่อแม่ให้เงินพี่สาวมากกว่า ทำให้เกิดความไม่พอใจ เข้าใจผิดและกลายเป็นปัญหาเรื่อยมา กระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองนาคำ ได้ควบคุมตัวลูกชายผู้เสียชีวิตที่ก่อเหตุไปทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ก่อนทำสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง