ชาวบ้านรอลุ้น หลังเห็นตัวเลขจากมนุษย์ยุคเหล็กอายุ 2,500 ปี-1,500 ปี โดยมีร่างทรงประทับ บอกชาวบ้านไม่อยากอยู่ต่างบ้านต่างเมืองขออยู่ที่นี่ ให้เจ้าของที่กับชาวบ้านร่วมทำบุญใหญ่ก่อนขุดขึ้น ด้านเจ้าของที่นาหวั่นน้ำท่วมขังนาน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขุดขึ้นไปไว้ด้านบน

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 มีนาคม 2566 ที่บริเวณที่นา ของนางสาว ณัฐกาณฑ์หรือวิ คำชมภู อายุ 52 ปี 332 ม.1 บ.แวงน้อย ต.แวงน้อย อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งอยู่ทางด้านทิศใต้ของหมู่บ้านแวงน้อย ซึ่งเป็นจุดที่พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ อายุ 2,500 ปี นั้น ได้มีร่างทรงปู่ภุชงค์นาคราชมหานาคี ซึ่งเป็นร่างทรงที่เดินทางมาดูบริเวณนา ในวันที่รถแมคโครกำลังขุดดินปรับพื้นที่ และห้ามรถแมคโครขุดต่อ พร้อมกับชี้จุดว่าที่นาดังกล่าวมีโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ซึ่งก็พบว่ามีจริง และการเดินทางมาของร่างทรงในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เพื่อประกอบพิธี กราบไหว้บูชา โครงกระดูกโบราณ พร้อมทั้งมอบโชคลาภให้เจ้าของที่นาและผู้ที่ร่วมในพิธีครั้งนี้ รับโชคไปด้วยน่าตาสดใสทุกคน โดยในการทำพิธีนั้น ประกอบด้วยการนำข้าว อาหาร และถาดใส่ดอกไม้ธูปเทียน หมากพลู พร้อมทั้งจุดธูป 39 ดอก ขอขมาพระแม่ธรณีและให้ทุกคนไหว้เจ้าที่ ไหว้ฟ้าดินขอโชคลาภตามที่ต้องการ ซึ่งในขณะก่อนที่ พ่อปู่ภุชงค์นาคราชมหานาคี จะประทับร่างทรงพร้อมกับมีลมกระโชกแรงพัดผ่านมา ซึ่งทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าร่างทรงประทับร่างแล้ว โดยภายหลังจากทำพิธีประทับร่างทรงเสร็จ ก็ได้มีการขอตัวเลขจากโครงกระดูกซึ่งแต่สายตาของแต่ละคนว่าจะได้โชคด้วยเลขอะไร มีทั้ง 14 24 03 33 เพราะร่างทรงใช้ชิ้นส่วนของฟันจำนวน 3 ซี่ มาทำนายโชคลาภในครั้งนี้

และช่วงที่ประทับร่างทรงนั้น ปู่ภุชงค์นาคราชมหานาคี กล่าวว่า จุดที่พบโครงกระดูกนั้น หากขุดอีกก็จะพบอีกจำนวนมาก แต่ไม่ให้ขุด ให้หยุดเพียงเท่านี้ เพราะถ้าร่างไหน หรือโครงกระดูกร่างใดอยากให้คนในยุคปัจจุบันพบเห็นก็จะโผล่ขึ้นมาเช่นเดียวกับร่างแรก เพราะการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปนั้นเป็นเรื่องตามธรรมชาติเกิดขึ้นตั้งแต่โบราณมาจนถึงปัจจุบัน แต่สิ่งที่ต้องการคือ รักบ้านเปิด เกิดและแก่ตายที่ใดก็อยากอยู่ในที่ตรงนั้น ไม่อยากย้ายไปที่ไหน ขอให้เจ้าของที่นา ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้และให้ขอกับทางราชการว่าไม่ให้ย้ายโครงกระดูกไปไว้ที่อื่น และห้ามขุดค้นในที่นาอีก

หลังเสร็จสิ้นการประกอบพิธี ร่างทรง หรือนางชลิตา แก้วคูนอก อายุ 50 ปี ซึ่งเดินทางมาจากบ้านคำมะอุ ต.หนองหว้า อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้น อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคน หากคนที่เชื่อและปฏิบัติตามที่พูดคุยกันก็จะเป็นสิริมงคลกับชีวิตและครอบครัว และการที่มาทักท้วงหรือชี้จุดที่พบโครงกระดูกในที่นาแห่งนี้ ก็ไม่เคยมา ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอะไรใต้ดิน กระทั่งเจ้าของที่นาติดต่อไปและส่งโฉนดที่ดินที่นาไปให้ดู ปู่เข้าทรงดูก็พบว่าเป็นที่ที่มีประวัติศาสตร์ มีโครงกระดูกอยู่ใต้ดิน จึงเดินทางมาชี้จุดที่โครงกระดูกฝังอยู่ พร้อมทั้งห้ามขุดที่นาต่อเด็ดขาด

ขณะที่ นางสาว ณัฐกาณฑ์หรือวิ คำชมภู อายุ 52 ปี กล่าวว่า สื่งที่ร่างทรงปู่ปู่ภุชงค์นาคราชมหานาคี สื่อสารออกมาและขอให้ทำคือ ห้ามขุดต่อ และขอให้รักษาพื้นที่นาเอาไว้ ห้ามคนอื่นมาบุกรุก เพราะจะเกิดความเสียหาย และขอให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ พร้อมทั้งให้เอาโครงกระดูกไว้ในที่นา ไม่ให้ขุดขนย้ายไปเก็บที่อื่น จึงจะได้หารือกับทางกรมศิลปากรว่าจะสามารถดำเนินการเก็บรักษาโครงกระดูกไว้ในบริเวณที่นาดังเดิม ด้วยการสร้างพื้นที่ให้มิดชิดป้องกันน้ำท่วม และป้องกันการถูกลักขโมยชิ้นส่วนของโครงกระดูกได้หรือไม่ รวมถึงจะขออนุญาตทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้โครงกระดูกดังกล่าวด้วย