ตำรวจ สภ.น้ำพอง คุมตัวพี่ชายวัย 21 ปี ใช้ไม้หน้า 3 ทุบหัวน้องวัย 17 ปี ตายคาบ้าน ฉุนโดนแย่งโทรศัพท์มือถือไปเล่น พ่อแม่และตำรวจต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานจนยอมรับสารภาพว่าใช้ไม้หน้าสามที่อยู่ข้างบ้านฟาดหัวน้องจนตาย แล้วขับรถจักรยานยนต์ญาติหลบหนีเข้า กทม. สุดท้ายไม่รอดตำรวจตามจับได้เมื่อคืนที่ผ่านมา

[ คลิป ]

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภินันท์ รักศิลป์ รองผกก.สอบสวนสภ.น้ำพอง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.น้ำพอง ร่วมกันควบคุมนายชาติชาย หรือนายบอล อายุ 21 ปี ชาวบ้านกุดดุก ต.ทรายมูล อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ถาวร เหลาแพง สว.(สอบสวน)สภ.น้ำพอง รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนถูกฆ่าตายในบ้านที่ บ้านกุดดุก ต.ทรายมูล อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่า บ้านเลขที่ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพ นายภานุพงษ์ หรือนายแบงค์ อายุ 17 ปี นอนตายอยู่กลางบ้าน ในสภาพถอดเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกทำร้ายที่หูข้างซ้าย ใบหน้าบวมช้ำ แต่ไม่พบคนร้าย

พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุและชันสูตรศพคนตาย แล้วได้สอบสวนมารดาของคนตายทราบว่า ช่วงสายของวันที่ 13 ก.พ.นั้นได้ไปรับน้องบอลลูกชายคนโต ที่ริมถนนมิตรภาพ หน้ารพ.น้ำพอง เพราะน้องบอลไปทำงานที่กรุงเทพฯและกลับมาบ้าน เพื่อมารับหมายเรียกเข้ารับการคัดเลือกทหารในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ หลังรับลูกชายคนโตแล้วก็แวะซื้อก๋วยเตี๋ยวมารับประทานกันที่บ้าน และช่วงที่รับประทานก๋วยเตี๋ยวลูกชายคนเล็กคือน้องแบงค์ ได้พูดเรื่องเพื่อนที่ถูกจับยาบ้า แม่จึงห้ามไม่ให้พูดและไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวด้วย นายแบงค์หงุดหงิดโมโหให้แม่ และขอเงินแม่ 100 บาท แต่แม่ไม่มีให้ นายแบงค์จึงอาละวาด ปาขวดใส่แม่ แม่กลัวจึงออกจากบ้านไปหาพ่อ ที่ทำงานอยู่นอกบ้าน เพื่อไปเอาเงินมาให้นายแบงค์

จากนั้นช่วงบ่ายโมง นายบอลก็โทรไปบอกแม่ว่า ไม่ต้องเข้ามาแล้ว น้องไปกับเพื่อนแล้ว แม่จึงไม่เข้ามาที่บ้าน จนกระทั่งเลิกงานตอนเย็นพ่อจึงกลับมาที่บ้าน และมาพบไม้หน้าสามวางอยู่ที่ครัวและพบร่างลูกชายคนเล็กนอนตายอยู่กลางบ้าน จึงแจ้งตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบนายบอล ซึ่งทราบจากชาวบ้านว่า นายบอลยืมรถชาวบ้าน ขับออกจากหมู่บ้านไปตั้งแต่ช่วงบ่ายโมง และพบรถจักรยานยนต์คันที่นายบอลยืมไปจอดทิ้งไว้ที่ริมถนนมิตรภาพ จึงเชื่อว่านายบอลน่าจะเป็นคนฆ่าน้องชายตัวเองตายแล้วหลบหนีไป จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดขอนแก่น ออกหมายจับ จับกุมนายบอล ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย

ผกก.กล่าวอีกว่า หลังทราบรายละเอียด จึงได้ให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแสของนายบอล ซึ่งเชื่อว่าหลบหนีเข้ากทม.แล้ว จึงได้ทำการติดตามจับกุมนายบอลในที่ห้องเช่าภายในพื้นที่หนองแขม กทม.นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

จากการสอบสวน นายบอลให้การรับสารภาพว่า ทำร้ายน้องชายตัวเองจริง แต่ไม่ทราบว่าน้องตาย เพราะหลังก่อเหตุได้รีบหลบหนี โดยสาเหตุมาจากการที่น้องชาย แย่งเอาโทรศัพท์ไปเล่น ห้ามก็ไม่ฟัง ขอคืนก็ไม่ให้ จึงมีการถกเถียงกัน ด้วยความโมโห จึงไปหยิบไม้หน้าสามที่ใต้ต้นมะม่วงมาตีที่ศีรษะน้องเข้าที่ขมับซ้าย 1 ครั้ง จนล้ม และตีซ้ำเข้าที่ลำคอ 1 ครั้ง จากนั้นก็เก็บเอาโทรศัพท์มือถือแล้วรีบออกจากบ้านไปยืมรถจักรยานยนต์เพื่อนบ้านหลบหนีเข้ากทม.จนกระทั่งถูกจับกุมตัวได้

ขณะที่นายสงบ อายุ 63 ปี บิดาของนายแบงค์ ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของนายบอล กล่าวว่า นายบอลเป็นลูกติดมารดา หลังเลิกกับสามีเก่าก็มาอยู่กินกับตนจนมีลูกชายอีก 1 คนคือนายแบงค์ แต่ลูกชายสองคนนิสัยต่างกัน นายบอลจะเป็นคนเงียบ นายแบงค์ดื้อ และเรียนหนังสือไม่จบเพราะเกเร ปัจจุบันยุ่งเกี่ยวกับยาบ้า และก่อเหตุอาละวาดบ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาระงับเหตุบ่อยครั้งเช่นกัน เคยสอบถามลูกชายเรื่องเสพยาบ้า ลูกชายบอกว่า เสพวันละ 30-40 เม็ด ส่วนการก่อเหตุของนายบอลในครั้งนี้ น่าจะมาจากสาเหตุของลูกชาย ที่เสพยาบ้ามาก่อน จึงฉุนเฉียว เมื่อถูกขัดใจจึงอาละวาดแม่ และก่อกวนพี่ชาย จนเกิดเหตุทะเลาะกัน พี่ชายจึงพลั้งมือทำร้ายน้องชายจนตาย ตนในฐานะพ่อเลี้ยงก็ให้อภัย เพราะน้องชายก็ไม่ใช่คนดี เนื่องจากอาละวาด ทำร้ายพ่อแม่มาตลอด