หดหู่ หลายชายแท้ๆวัย 28 ปี เมาเหล้าไปขอเงินยายวัย 83 ปี ก่อนใช้ไม้ตียายตัวเองจนล้มแล้วใช้เท้ากระทืบหน้าอกยายซ้ำจนยุบผิดรูปเสียชีวิตคาที่ ก่อนตายยายร้องขอชีวิตบอกหลานอย่าทำพร้อมเรียกตาให้ช่วย แต่ตาก็อายุมากไม่สามารถช่วยอะไรได้
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 ธ.ค.2565 พ.ต.ท.อภินันท์ รักศิลป์ รองผกก.(สอบสวน)สภ.น้ำพอง ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันมีผู้เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 13 บ้านโนนศรีสวัสดิ์ ม.3 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยและแพทย์เวรโรงพยาบาลน้ำพอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ทำการเกษตร อยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน มีบ้านชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง หน้าบ้านพบศพ นางลอย ประสมพล อายุ 83 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.3 ต.ม่วงหวาน สภาพศพนอนหงาย มีบาดแผลและรอยช้ำตามแขนขา สวมเสื้อคอกระเช้ามีเสื้อคลุมทับ นุ่งผ้าซิ่น เสียชีวิตเหลือออกปาก หน้าอกยุบผิดรูป พร้อมทั้งพบผู้ก่อเหตุเป็นหลานชายแท้ๆของผู้เสียชีวิต ชื่อนายอรรถพล ประสมพล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเดียวกันกับผู้เสียชีวิต ใกล้กันพบไม้คานที่นายอรรถพลใช้ตียาย ในสภาพไม้หักสองท่อน พร้อมทั้งมีท่อนเหล็กที่นายอรรถพล ใช้เป็นอาวุธตียายอีกชิ้นหนึ่งสภาพหักงอ โดยทางตำรวจได้เก็บเป็นหลักฐานส่งตรวจหา DNA จากคราบเลือดที่ติดอยู่ไม้คานและท่อนเหล็กมาประกอบสำนวน เนื่องจากเจ้าตัวยังให้การวกวนและปฏิเสธ ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก ในขณะที่ศพของผู้เสียชีวิตนั้น หลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ ก็ได้นำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลก่อนส่งต่อร่างให้กับญาติๆรับไปประกอบพิธีทางศาสนา
พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า จากการลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน ทราบว่า ผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุ เป็นยายหลานกัน อาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังเกิดเหตุรวม 3 คน โดยมีตาอีกคนซึ่งคุณตาสามีผู้เสียชีวิตนั้น อายุมาก หูตาไม่ค่อยดี มองไม่ค่อยชัดเห็นเพียงลางๆ ต้องใช้ไม้เท้าในการเดินทางไปไหนมาไหน ช่วงก่อนเกิดเหตุนั้น นายอรรถพลที่อยู่ในอาการเมาสุรามาขอเงินยาย ซึ่งปกตินายอรรถพลนั้นมักจะมาขอทุกวันเพื่อนำไปซื้อสุรามานั่งดื่ม โดยนายอรรถพลซึ่งอยู่ในอาการเมาสุรา อ้างว่ายายถือไม้ในมือจะมาตีตัวเอง ซึ่งก็เป็นคำกล่าวอ้างของผู้ก่อเหตุ จึงไปหยิบเอาไม้คานที่อยู่ใกล้ๆกระหน่ำตียายจนล้มลงลากยายมาใช้เท้ากระทืบซ้ำที่หน้าอกยายหลายครั้งจนหน้าอกของยายหักยุบลงไปผิดรูป
โดยคุณตา สามีผู้เสียชีวิตซึ่งก็อายุมาก เคลื่อนไหวตัวลำบาก ดวงตาก็มองไม่ค่อยชัด หูก็ไม่ค่อยดี แต่ได้ยินเสียงยายร้องขอชีวิตจากหลานชายว่าอย่าฆ่ายาย อย่าฆ่ายาย และยังเรียกตาให้ช่วย บอกว่า พ่อใหญ่มาช่วยฉันหน่อย ซึ่งตาต้องรีบคว้าไม้เท้าแล้วลงมาจากบ้านพักซึ่งห่างไปจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5-6 เมตร แต่ยายถูกทำร้ายจนเสียชีวิตไปแล้ว ก่อนที่ตำรวจจะได้รับแจ้งและลงพื้นที่ตรวจสอบก่อนจะควบคุมตัวนายอรรถพล หลานชายที่ก่อเหตุฆ่ายายมาสอบปากคำที่โรงพัก ก่อนจะยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่ายายจริง
ส่วนสาเหตุจูงใจนั้น ยังไม่ชัดเจน แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นสาเหตุหลักมาจากการเมาสุราชัดเจน แต่ยาเสพติดตรวจฉี่แล้วไม่พบ จึงได้นำตัวส่งตรวจหาสารเสพติดอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เนื่องจากนายอรรถพลเคยถูกจับในคดีเสพยาเสพติดเมื่อปี 2562 เมื่อพ้นโทษออกมาก็มาอยู่บ้านกับตายาย ซึ่งทางตำรวจและทางผู้ใหญ่บ้านได้สุ่มเข้าตรวจฉี่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 จนปัจจุบันประมาณ 2 ปีไม่พบว่านายอรรถพลหวนกลับไปยุ่งกับยาเสพติด แต่จะมีพฤติกรรมคลั่ง โวยวาย หลังจากดื่มสุราทุกครั้ง หลังสอบปากคำเสร็จก็ได้แจ้งข้อหา ฆ่าบุพการี ให้นายอรรถพลทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Leave a Response