ขอนแก่น รวบมือฆ่าชิงทรัพย์แม่ค้า ขณะพยายามฆ่าตัวตายในบ้านพัก (มีคลิป)

news2021_Facebook1

ตำรวจตามรวบนายประสิทธิ์ มือฆ่าชิงทรัพย์แม่ค้าที่ขอนแก่น พร้อมพวกขบวนการโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติ รวม 6 คน ขณะที่นายประสิทธิ์หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวไปถึง จ.ตากที่บ้านอดีตภรรยา พบว่ากินยาหวังฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่ต้องนำส่งโรงพยาบาล ยังไม่สามารถให้การได้

        เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ก.ค.2564 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสภ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายประสิทธ์ จาลา หรือสมชาย อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 ม.8 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหารายสำคัญที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นางกันนิกา จำปา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125/1 ม.11 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยตำรวจเข้าจับกุมขณะที่นายประสิทธิ์พยายามกินยาฆ่าตัวตายภายในบ้านพักในเขต อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งขณะนี้ได้ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตาก ท่ามกลางการดูแลของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบอย่างใกล้ชิดเนื่องจากผู้ต้องหาอาจจะคิดสั้นได้ รวมไปถึงการจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการได้อีก 5 ราย ประกอบด้วยนายทศพร แทนประเสริฐ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 237 ม.12 ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว, นายศุกล หนุนสุขศุภโชค อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/7 ถ.กม.5 ฝั่งซ้าย ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว,นายพนม อุ่นผาง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.4 ต.เหล่า อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม, นายวรวิทย์ ชูแก้ว อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ถ.พุทธมณฑลสาย 2 ซ.21 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ และนายศราวุธ คิ้วสูงเนิน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 322/2 ม.8 ต.โค้งยาง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ทั้งหมดถูกควบคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.สส.ภ.4

        พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบต.ตร. กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นชุดสืบสวนร่วม บช.ภ.4,บช.ภ.2 และ กองปราบปราม ได้ประสานข้อมูลการทำงานโดยหลังจากที่มีผู้มาพบศพผู้เสียชีวิต ภายในป่าเขตพื้นที่ บ.เหล่า ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ชุดสืบสวนจึงแกะรอยเริ่มจากทรัพย์สินของผู้ตายที่หายไปตามคำให้การของครอบครัวคือเงินสดประมาณ 100,000 บาท รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนท์ หมายเลขทะเบียน ผจ-4512 นครปฐม และโทรศัพท์มือถือ จึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยพบว่า รถยนต์กระบะของผู้ตายนั้นได้วิ่งเข้ามาภายในซอยศรีจันทร์ 39 ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านของนายประสิทธิ์ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่าสมชาย จากนั้นพบรถยนต์คันดังกล่าวซึ่งขับผ่านด่านตรวจนาโน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแกน เมื่อวันที่ 10 ก.ค.โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดของจุดตรวจสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจนชุดสืบสวนจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยพบว่ารถคันดังกล่าวหลังจากที่ผู้ตายขับเข้ามาภายในซอยศรีจันทร์ 39 ในวันที่ 9 ก.ค. แล้วนั้น จากนั้นก็มาพบอีกครั้งในจุดใกล้กับพบศพผู้ตาย และในช่วงเย็นวันเดียวกันนายประสิทธิ์จึงได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาที่ร้านแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองขอนแก่น ก่อนที่นายพนม จะมาขับรถคันดังกล่าวไปจอดไว้ที่บริษัทฯอีกแห่งหนึ่ง จนกระทั่งวันที่ 11 ก.ค. นายพนม จึงได้พานายศราวุธ,นายวรวิทย์และนายทศพร มาดูรถและขับรถออกจากบริษัทฯแห่งหนี้ก่อนที่จะไปจอดรถเติมน้ำมันที่ อ.บ้านไผ่ และ ขับผ่านจุดตรวจนาโน ซึ่งล่าสุดพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวนี้นั้นได้ถูกส่งมอบให้กับนายเพียบ ชาว กัมพูชา ที่ จ.สระแก้ว เพื่อส่งขายในต่างประเทศตามแนวทางการสืบสวนที่พบว่ากลุ่มดังกล่าวนี้นั้นจัดอยู่ในแกงค์โจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติราใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก

        “นายประสิทธิ์ หลังก่อเหตุและส่งมอบรถให้กับนายพนมแล้วนั้น ได้หลบหนำไปที่บ้านภรรยาเก่า ซึ่งเปิดร้านขายข้าวมันไก่ที่ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวนได้แกะรอยและเฝ้าติดตามพฤติกรรมและสามารถจับกุมตัวได้ขณะพยายามกินยาฆ่าตัวตายเมื่อเช้านี้ภายในบ้านพัก ทำให้ต้องส่งต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้ยังคงไม่สามารถให้การใดๆได้ จึงยังไม่สามารถควบคุมตัวมาสอบสวนที่ จ.ขอนแก่นได้ ขณะที่มูลเหตุเชื่อว่าน่าจะเป็นการชิงทรัพย์ ที่นายประสิทธิ์ มีหนี้สินและเป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ด้วยการสนิทมักคุ้นกับผู้ตาย จึงโทรศัพท์นัดกันให้มาพบในช่วงเช้าของวันที่ 9 ก.ค. ก่อนที่จะออกไปด้วยกันจนกระทั่งมีผู้มาพบศพผู้ตายถูกทิ้งไว้ที่ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น อย่างไรก็ตามตำรวจยังคงไม่ปักใจเชื่อว่าคนร้ายก่อเหตุฆาตกรรมเพียงคนเดียวแต่ขณะนี้เจ้าตัวยังไม่สามารถให้การใดๆได้ จึงต้องรอให้อาการดีขึ้นจึงจะควบคุมตัวมาสอบสวนว่าซัดทอดไปถึงใครและคนใดบ้าง ซึ่งหากสาวถึงใครตำรวจจะควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด”

        รอง ผบ.ตร. กล่าวต่ออีกว่า นายประสิทธิ์ และ นายพนม นั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน หลังจากที่นายประสิทธิ์ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์มาแล้วนั้น จึงมีการนำรถยนต์มาจอดทิ้งไว้และขายต่อให้กับกลุ่มขบวนการโจรกรรมรถยนต์รายใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยที่นายพนม มีหน้าที่มารับรถที่ชิงทรัพย์มาได้ขายต่อเป็นทอดๆ จนกระทั่งถึงปลายทางคือที่ประเทศกัมพูชา ดังนั้นแนวทางการสืบสวนสอบสวนจึงแกะรอยมาจากผู้ต้องหาทั้ง 5 คน จากากรนำรถไปขายต่อจนได้มีการสืบสนสอบสวนขยายผลได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามแม้ในขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 6 คนที่ถูกจับตัวได้ จะถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร แต่หากนายประสิทธิ์ ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีให้การได้และซัดทอดไปถึงใครก็จะดำเนินการตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น เพิ่มเติม รวมไปถึงการสืบสวนเส้นทางการเงินว่าเงินที่ได้จากการชิงทรัพย์นั้นโอนไปที่ใคร ทรัพย์สินที่ชิงทรัพย์ไปนั้นจำหน่ายหรือส่งต่อไปที่ใด ทั้งหมดจะต้องถูกจับกุมมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างไม่มีละเว้น ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฝาง ได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว ส่วนรถของผู้ตายอยู่ระหว่างการนำกลับมาที่จังหวัดขอนแก่น

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง