กำนันลุยเอง! หลังโจรงัดบ้าน4หลังรวดฉกเงินสด ไม่เอาทอง ชาวบ้านผวาไม่กล้าอยู่บ้าน เกรงเกิดเหตุซ้ำ อาจถูกทำร้ายบาดเจ็บและตายได้ ด้านตำรวจสภ.น้ำพองเร่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยสอบปากคำ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 สิงหาคม 2565 นายฉัตรชัย โลหะมาตย์ กำนันตำบลหนองกุง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอน้ำพอง นายมานิตย์ พลสุวรรณ กำนันตำบลน้ำพอง พร้อมด้วยนายสมพงษ์ สีดาแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองโน ม.11 ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 174 ม.11 บ้านหนองโน ซึ่งเป็นบ้านของนางสมควร โพธิ์สิงห์ อายุ 52 ปี และเป็นผู้เสียหายที่ถูกโจรงัดบ้านเข้าไปขโมยทรัพย์สิน เมื่อคืนวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
นายฉัตรชัย โลหะมาตย์ กำนันตำบลหนองกุง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอน้ำพอง กล่าวถึงการลงพื้นที่มายังบ้านผู้เสียหายในครั้งนี้ว่า เนื่องจากเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เขียนจดหมายถึงตน โดยแจ้งว่า เป็นชาวบ้าน บ้านหนองโน หมู่ที่ 11 อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 174 ต.น้ำพอง อ.น้ำพองได้รับความเดือดร้อนเสียหายในทรัพย์สิน เนื่องจาก คืนวันที่ 30 กรกฎาคม 65 ที่ผ่านมา ได้มีโจรมางัดบ้าน ขโมยทรัพย์เป็นเงินสดจำนวนหนึ่ง หน้าต่างเสียหายเพราะถูกโจรงัดแงะ ข้าวของ ตู้เสื้อผ้ามีร่องรอยถูกโจรรื้อค้น และนอกจากบ้านหลังดังกล่าวแล้ว ในคืนเดียวกัน ยังมีบ้านอีก 3 หลังที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ถูกโจรงัดแงะ รื้อค้นข้าวของ ได้รับความเดือดร้อนเสียหายอีกเช่นกัน จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว และบ้านของชาวบ้านอีก3หลัง ได้ลงบันทึกประจำวัน ไว้ที่สภ.อ.น้ำพอง เรียบร้อยแล้ว ในวันอาทิตย์ ที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจ เป็นภัยต่อทรัพย์สิน และความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน จึงขอร้องทุกข์ มายังกำนัน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ เป็นกระบอกเสียง ติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ให้ชาวบ้านคนอื่นๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย
ในขณะที่ นายสมพงษ์ สีดาแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองโน ม.11 กล่าวว่า ในคืนเกิดเหตุ เป็นคืนที่ในหมู่บ้านมีมหรสพ หมอลำซิ่งมาแสดงในงานบุญของชาวบ้าน คนร้ายสบโอกาสในคืนดังกล่าวมาก่อเหตุ งัดแงะบ้านชาวบ้านจำนวน 4 หลังเข้าไปขโมยเอาทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่คนร้ายเอาแต่เงินสด ส่วนทองรูปพรรณ คนร้ายไม่เอา หลังทราบเรื่องก็พาชาวบ้านรไปแจ้งความกับตำรวจสภ.น้ำพอง โดยเจ้าของบ้านเลขที่ 174 ม.11 บ้านหนองโน บ้านของนางสมควร โพธิ์สิงห์ เสียหายมากกว่าหลังอื่น จึงขอให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนจับกุมคนร้ายมาดกำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนอีก 3 หลังเสียหายเล็กน้อย จึงลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น ขณะนี้ได้ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้าน ระวังรักษาทรัพย์สินและบ้านเรือนของตัวเองให้ดี เพราะเกรงว่าคนร้ายจะมาก่อเหตุซ้ำ และอาจทำร้ายชาวบ้านด้วยก็เป็นไปได้
ขณะที่ นางสมควร โพธิ์สิงห์ เจ้าของบ้าน หลังเกิดเหตุ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนและลูกได้เดินทางไปทำธุระที่จังหวัดชัยนาท 3 วัน ที่บ้านเหลือเพียงนายคำพร โพธิ์สิงห์ สามีคนเดียว ซึ่งทำงานที่โรงเหล้า และต้องเข้าเวรกะดึก โดยช่วงสายวันที่ 31 กค.สามีโทรศัพท์ไปบอกว่า มีโจรงัดบ้าน เข้าไปขโมยเอาทรัพย์สินในบ้าน จากนั้นจึงให้สามีแจ้งตำรวจสภ.น้ำพองมาตรวจที่เกิดเหตุ
ตำรวจมาตรวจที่บ้านที่เกิดเหตุ พบว่า ประตูทางออกหลังบ้าน เปิดอ้าทิ้งไว้ บานหน้าต่างกระจกอลูมิเนียมของห้องครัว และห้องนอน ถูกคนร้ายงัดจนพังเสียหาย และคนร้ายก็ใช้ราวตากผ้าไปตั้งชิดขอบหน้าต่าง ปีนเข้าไปในห้องนอนหลาน รื้อค้นเอาทรัพย์สิน ซึ่งเป็นกระปุกออมสินรูปขวดนม และรื้อลิ้นชักตู้เสื้อผ้า ได้เงินสดไปร่วมสามหมื่นบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังพบขวดออมสินของหลานที่คนร้ายทิ้งไว้ที่ทางเดินหลังบ้าน รวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปครั้งนี้ เป็นเงินประมาณ 36,000 บาท ส่วนทองรูปพรรณคนร้ายไม่เอาไป เชื่อว่าโจรคงคิดว่าเป็นของปลอมจึงไม่เอาทอง
นางสมควร โพธิ์สิงห์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่สามี เข้าแจ้งความตั้งแต่วันที่ 31 กค.จนถึงวันนี้ สอบถามตำรวจก็ไม่มีความคืบหน้า เพียงแต่บอกว่า ให้หาดูผู้ต้องสงสัยในหมู่บ้าน และผู้ต้องสงสัย ให้เฝ้าดูพฤติกรรมไว้ แล้วให้แจ้งตำรวจ ตำรวจจะได้ไปเอาตัวมาสอบสวน ซึ่งเมื่อฟังแล้ว เกิดความไม่สบายใจ เพราะในความเป็นจริงคนเสียหายก็ให้รายละเอียดไปหมดแล้ว ว่าสงสัยใคร หน้าที่การสืบสวนควรจะเป็นตำรวจดำเนินการ เนื่องจากสงสัยว่าเป็นชายอายุ 25-30 ปี คนในหมู่บ้านที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพคิด และเคยถูกจับคดียาเสพติดมาแล้ว น่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของคนในบ้าน และรอจนสามีไปเข้ากะดึก และคนในละแวกเดียวกันไปดูหมอลำซิ่ง จึงสบโอกาสเข้ามาก่อเหตุ รื้อค้นเอาทรัพย์สินไปได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ให้ตำรวจไปหมดแล้ว เมื่อไม่มีความคืบหน้า จึงแจ้งให้กำนันทราบ เพื่อให้เป็นตัวแทนของผู้เสียหายทั้ง 4 ราย ในการติดตามความคืบหน้ากับตำรวจ เพราะขณะนี้ทุกบ้านเกิดความหวาดผวา ไม่กล้าอยู่บ้านคนเดียว เพราะกลัวคนร้ายมาก่อเหตุ แล้วคนร้ายเจอคนในบ้าน อาจทำร้ายจนบาดเจ็บและเสียชีวิตได้
ทางด้าน พ.ต.อ. พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า หลังทราบเรื่องจากพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.น้ำพองก็ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตพร้อมกับพนักงานสอบสวน และเก็บชิ้นส่วนออมสินที่เป็นขวดนมที่คนร้ายรื้อค้นออกมาจากในบ้าน ส่งให้ สพฐ. 4 ขอนแก่น ตรวจหาลายนิ้วมือคนร้าย รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในหมู่บ้าน เพื่อหาเบาะแสคนร้าย และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยาน หลักฐาน ที่จะออกหมายเรียกบุคคลต้องสงสัยมาสอบสวน หากพบว่ามีความผิดก็จะจับกุมมาดำเนินคดีในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 10,000 บาท
Leave a Response