ชาวชุมแพร้อง!โดนมิจฉาชีพหลอกสูญเงิน 5 แสน

มิจฉาชีพก่อเหตุหลอกหญิง วัย 60 ปี ชาว อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ขอยืมเงินอ้างมีไม่พอจ่ายค่าธรรมเนียมเพราะเอาที่ดินมูลค่าร้อยล้านไปจำนองกับธนาคาร จะให้ค่าตอบแทนพร้อมเงินที่ยืม พอหลงเชื่อสูญเงินสดรวมกว่า 500,000 บาท พร้อมเป็นหนี้สินที่หาหยิบยืมมาให้มิจฉาชีพที่ตรวจสอบแล้วไม่มีที่ดินตามที่อ้าง


เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านเลขที่ 107 หมู่ 3 บ้านโคกงาม ต.หนองเขียด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ภายหลังจากที่นางคำพวง ฟองสังข์ อายุ 60 ปี ได้ร้องเรียนว่าถูกมิจฉาชีพหลอกยืมเงินอ้างยืมจ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อที่จะเอาที่ดินไปจำนองกับธนาคาร พร้อมจะให้ค่าตอบแทนและเงินต้นคืน และได้ใช้วาจาโน้มน้าวจนทำให้หลงเชื่อสูญเงินกว่า 5 แสนบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ยืมคนในหมู่บ้านและเอาที่ดินของตัวเองไปจำนอง ก่อนตรวจสอบไปมาพบผู้ก่อเหตุเคยมีคดีชิงทรัพย์มาก่อน

นางคำพวง ฟองสังข์ อายุ 60 ปี ผู้เสียหายเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตนเองได้ไปนวดให้กับแม่ยายของชายผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง จากนั้นนายทวีศักดิ์ (มิจฉาชีพ) และภรรยา จึงได้มาคุยกับตนเองว่าจะเอาที่ดินมูลค่ากว่า หนึ่งร้อยล้านไปจำนองกับธนาคารแต่ธนาคารเรียกค่าธรรมเนียมนายทวีศักดิ์ไม่มีจึงได้มาขอยืมกับตนเองพร้อมกับบอกว่าถ้าดำเนินการแล้วเสร็จจะเอาเงินต้นพร้อมกับเงินค่าตอบแทนให้ ตนเองจึงหลงเชื่อจึงโอนเงินให้รอบแรก 20,000 บาท

แต่พอผ่านไปนายทวีศักดิ์ก็ได้มาขอยืมเงินกับตนเองอีกบอกว่าค่าธรรมเนียมไม่พอพร้อมกับอ้างต่างๆนาๆและใช้คำพูดโน้มน้าวให้ตนเองยอมตกลงที่จะหาเงินมาให้ พร้อมกับพาเอาที่ดินของตนเอง 1 ไร่ 1 งาน และของสามี 4 ไร่ 3 งาน ไปจำนองไว้จำนวน 55,000 บาท และยอมให้สร้อยทอง 1 บาท และแหวน 1 สลึง ไปจำนำเพื่อเอาเงินมาให้นายทวีศักดิ์ และเงินค่าขายข้าวโพด เงินผู้สูงอายุก็โอนให้หมด รวมเป็นเงินส่วนตัวกว่า 250,000 บาท อีกทั้งยังไปหยิบยืมชาวบ้านในหมู่บ้านมาอีกหลายคนเป็นยอดกว่า 250,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 500,000 บาท จนเวลาผ่านมากว่า 5 เดือน จึงได้เอะใจว่าดำเนินกับธนาคารไม่แล้วเสร็จสักทีจึงรู้ตัวว่าโดนหลอกจากนั้นจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากไม่สามารถติดต่อนายทวีศักดิ์และภรรยาได้จึงได้ไปตามที่บ้านของนายทวีศักดิ์ที่จังหวัดกำแพงเพชรแต่ก็ไม่พบตัว พบแต่เพียงพี่ชายของนายทวีศักดิ์ที่เคยอ้างว่าพี่ชายก็เคยหาเงินมาให้และได้เงินคืนพร้อมค่าตอบแทนหลายบาทแล้ว พี่ชายของนายทวีศักดิ์ก็บอกว่านายทวีศักดิ์ไม่มีที่ดินตามที่กล่าวอ้างจริง

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบประวัติของนายทวีศักดิ์ก็พบว่านายทวีศักดิ์เคยมีคดีชิงทรัพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเลยทำการออกหมายเรียกไปทั้งหมด 2 ครั้งแต่ไม่ยอมมาตามหมาย จนล่าสุดออกหมายจับ ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านของภรรยานายทวีศักดิ์ที่อยู่หมู่บ้านใกล้เคียงก็ไม่พบกับนายทวีศักดิ์และภรรยาของนายทวีศักดิ์

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นตนเองก็ได้ไปบอกกับชาวบ้านในหมู่บ้านที่ตนเองเคยหยิบยืมเงินไปว่าตนเองนั้นถูกหลอก ชาวบ้านก็เข้าใจแต่ชาวบ้านก็ต้องการเงินคืนทำให้ตนเองนั้นทุกข์หนักไม่มีทางออกว่าจะทำอย่างไร จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวนายทวีศักดิ์และภรรยามาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง