ขอนแก่น หลานหลวงปู่แสง จวกหมอปลา! อย่าใช้ศาลเตี้ย ควรศึกษาให้ดีก่อนจะตัดสินใคร (มีคลิป)

หลานหลวงปู่แสง เผยหลักฐานทางการแพทย์บยืนยันอาการป่วยเป็นอัลไซเมอร์ของหลวงปู่ ที่รักษามานานหลายปีแล้ว พร้อมจวกหมอปลาควรศึกษาประวัติหลวงปู่ให้ดีก่อนที่จะตัดสินด้วยการใช้ศาลเตี้ย และขอตำหนิระบบจัดการในวัดควรดูแลหลวงปู่ให้ดีกว่านี้ เตรียมปรึกษากันในครอบครัวเรื่องกฎหมายเอาผิด


เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 12 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนางทักษิณา ดีหอม อายุ 52 ปี 165/284 หมู่บ้านพิมานชล 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำเอกสาร การเข้ารับการรักษาอาการอาพาธของหลวงปู่แสง ญาณวโร อายุ 98 ปี ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2562 ยืนยัน ว่าหลวงปู่ป่วยเป็นโรคสมองฟ่อ เป็นอัลไซเมอร์จริง เป็นหลักฐานที่ญาติของหลวงปู่แสง นำมายืนยัน และไม่เชื่อว่าหลวงปู่จะประพฤติตัวไม่เหมาะสม

นาง ทักษิณา ดีหอม หลานสาว (ลูกของน้องชายหลวงปู่แสง) กล่าวว่า หลังจากที่เห็นคลิปจากข่าวเมื่อวานที่ผ่านมารู้สึกตกใจอย่างมาก ดูคลิปอยู่หลายรอบ ตนเองเป็นลูกหลานติดตามหลวงปู่มาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่หลวงปู่บวชที่วัดศรีจันทร์ จ.ขอนแก่น ตอนอายุ 20 ปี จนตอนนี้อายุจะถึง 100 ปีแล้ว ความรู้สึกงงและสับสนว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร แต่เราก็เข้าใจอยู่แล้วเพราะหลวงปู่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ และก็มีเอกสารทางการแพทย์ยืนยัน และในสถานการณ์แบบนั้นผู้หญิงเข้าไปได้อย่างไร อีกทั้งยังมีการถ่ายคลิป ยิ่งทำให้หดหู่ใจสงสารหลวงปู่ หลังมีคลิปดังกล่าวออกมาก็มีการพูดคุยกันกับญาติๆหลายคนว่าเป็นไปได้อย่างไร ตอนนี้คือช่วงสุดท้ายของหลวงปู่ ลูกหลานทุกคนเกิดความไม่สบายใจ สิ่งที่เกิดขึ้นมองว่า หมอปลาและนักข่าวที่ไปมองว่าศึกษาข้อมูลน้อยไปหรือไม่ เหมือนเป็นการจาบจ้วงพระผู้มีศีล เพราะหลวงปู่บวชมากว่า 80 พรรษา

ภาพหมอปลาพร้อมสื่อมวลชนบุกวัดหลวงปู่แสง จ.ยโสธร
ภาพหมอปลาพร้อมสื่อมวลชนบุกวัดหลวงปู่แสง จ.ยโสธร

อาการป่วยอัลไซเมอร์ที่ป่วยนั้นทราบว่าเป็นมานานแล้ว จะเห็นได้ว่าตอนที่หมอปลาพานักข่าวเข้าไปนั้นหลวงปู่ยังหลงๆลืมๆถามว่า “พากันมาทำอะไร” และนั่งนิ่งไม่ทำอะไร ส่วนตัวไม่ได้ไปบ่อยนานๆจะไปหาที แต่เมื่อวานลูกหลานก็ไปอยู่หลายคน ตอนนี้มองว่า การจัดการระบบภายในวัดไม่ได้เรื่อง ควรจะมีระบบการดูแลพระผู้ใหญ่ที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าหาพระผู้ใหญ่ก็ได้ ควรจะมีขั้นมีตอนในการเข้าหาพระผู้ใหญ่ที่ดีกว่านี้ แล้วที่หลวงปู่ทำลงไปท่านไม่ได้รู้สึกตัวตามคลิปที่บอกว่าไปจับไปล้วงนั้น ท่านไม่ได้รู้สึกและไม่รู้ว่าจับอะไร และที่พระให้สัมภาษณ์นั้นก็เป็นการเวียนมาดูแล ไม่ได้มีการดูแลอย่างจริงจัง และมองว่าเรื่องนี้อาจจะมีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ตอนนี้ลูกหลานและญาติคนอื่นๆไม่สบายใจอย่างมาก ควรจะมีคนที่มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ตรงไปตรงมา เมื่อวานที่ผ่านมาพระที่ดูแลยังไม่ได้ตั้งตัว เป็นการจู่โจมและตัดสินหลวงปู่ไปแล้ว และพยายามจี้ถามให้ตอบ ทั้งที่ควรจะศึกษาข้อมูลให้ดีกว่านี้

ตอนนี้มองการทำงานของหมอปลาว่าแย่กว่าที่ผ่านมา อยากจะถามหมอปลาว่าเคยศึกษาข้อมูลประวัติของหลวงปู่หรือยัง ว่าที่ผ่านมาหลวงปู่สร้างอะไรเอาไว้บ้าง และสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็มองว่าเหมือนการจัดฉากกันขึ้นมา เพราะตลอดชั่วอายุของหลวงปู่ไม่เคยทำสิ่งที่ไม่ดี แต่ภาพที่เห็นเหมือนหลวงปู่เป็นตุ๊กตา ใครจับทำอะไรก็ทำหมดโดยไม่รู้สึกตัว อยากให้หมอปลาควรศึกษาให้ดี และไม่ได้ใช้คำพูดกับหลวงปู่นอบน้อมกับพระผู้ใหญ่ที่มีศีลเลยแม้แต่น้อย พูดข้ามหัวไปมา ในมุมมองไม่ได้โทษหลวงปู่แต่โทษการจัดการระบบในวัดที่ไม่มีการจัดการที่ดีกว่านี้ อีกทั้งผู้หญิงที่เข้าไปก็ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แม้แต่ลูกหลานที่เข้าไปประจำก็ไม่เคยขึ้นไปในจุดนั้น หลวงปู่ชราภาพไม่รู้สึกอะไรแล้ว อยากฝากในเรื่องนี้ให้หมอปลาได้ทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นตัดสินคนๆหนึ่งหรือพระรูปหนึ่งควรศึกษาประวัติให้ดี ควรคิดวิเคราะห์แยกแยะให้ดีว่ามันจะใช่หรือไม่ไม่ใช่เป็นศาลเตี้ยตัดสินคนเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ในฐานะของญาติ รู้สึกกังวลใจและตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่า มีเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากศรัทธาญาติธรรมที่มีต่อหลวงปู่ โดยเชื่อว่าจะมีเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากศรัทธา ที่มีต่อหลวงปู่แสง ซึ่งผู้ดูแลควรรอบครอบ และเคร่งครัดในข้อปฏิบัติ มากกว่านี้ โดยเฉพาะการอนุญาตให้สตรีขึ้นไปใกล้ชิดหลวงปู่ และที่สำคัญโยมไม่มีหน้าที่ไปตัดสินพระให้สึกทุกอย่างมีขั้นมีตอน มีพระผู้ใหญ่ดูแล พระท่านมีศีลมีธรรมที่สูง ถามกลับไปว่าคนเรามีศีลขนาดไหน

ประวัติ หลวงปู่แสง ญาณวโร

หลวงปู่แสง ญาณวโร เดิมชื่อนายแสง ดีหอม เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2467 อ.ฟ้าหยาด จ.อุบลราชธานี (17 เมษายน 2482 กระทรวงมหาดไทย เปลี่ยนชื่อ อ.ฟ้าหยาด เป็น อ.มหาชนะชัย และเมื่อ 1 มีนาคม 2515 อ.มหาชนะชัย ย้ายไปขึ้นกับ จ.ยโสธร จนถึงปัจจุบัน) หลวงปู่แสง อุปสมบทเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2490 ที่วัดศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ประวัติการจำพรรษาวิเวกธุดงค์และไปมาหาสู่กับพระรูปต่างๆ

  • ศึกษาหลักธรรมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร (ช่วงบั้นปลายของท่านอาจารย์มั่นที่อยู่บ้านหนองผือ)
  • หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ จ. เลย (พ.ศ. 2494-2496)
  • พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ได้ร่วมสร้างวัดถ้ำขาม (พ.ศ. 2497)
  • หลวงปู่เทศก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย (1 พรรษา)
  • หลวงปู่บัว สิริปุณโณ วัดราษฎร์สงเคราะห์ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี (20 พรรษา)
  • พระอาจารย์แบน ธนากโร ได้ร่วมสร้างกุฏิศาลาที่วัดธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร
  • หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์
  • หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี ได้ร่วมธุดงค์ที่ภูวัว
  • หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
  • หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย
  • หลวงปู่ศรี มหาวีโร ได้วิเวกธุดงค์ที่ภูเกล้า ภูเวียง จ.ขอนแก่น
  • หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ได้วิเวกธุดงค์ด้วยกันที่วัดดอยหินหมากเป้ง
  • หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร วัดป่านาสีดา จ.อุดรธานี ได้วิเวกธุดงค์ด้วยกันที่ อ.ผือ อ.สามพราน และ อ.น้ำโสม
  • พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ, พระอาจารย์วัน อุตตะโม, หลวงปู่หล้า เขมปัตโต และพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร ได้วิเวกธุดงค์ร่วมกันที่ถ้ำสาลิกา ภูสิงห์ ภูทอง ภูพานคำ และ ภูทอก ฯลฯ
  • หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร วัดป่าวังเลิง จ.มหาสารคาม ได้จำพรรษาด้วยกัน (พ.ศ. 2532-2533)

ตั้งแต่ พ.ศ. 2534-31 ธันวาคม 2551 จำพรรษาที่วัดป่าอรัญญาวิเวก บ้านไก่คำ จ.อำนาจเจริญ

31 ธันวาคม 2551-11 ตุลาคม 2552 จำพรรษาที่วัดป่าอิสิปตนมฤคทายวัน (เสนาสนป่าโคกค่าย) บ้านหนองไฮน้อย ต.หนองข่า อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ

11 ตุลาคม 2552 จำพรรษาที่วัดป่านาเกิ้งญาณวโร บ้านนาเกิ้ง อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ

21 พฤศจิกายน 2553 จำพรรษาที่วัดป่ามโนรมย์สมประสงค์ (สำนักสงฆ์ภูทิดสา) บ้านห้วยฆ้อง ตำบลหนองข่า อำเภอ ปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ

3 พฤศจิกายน 2556 สำนักสงฆ์บ้านเวินชัย อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร

ปัจจุบัน หลวงปู่แสง ญาณวโร จำพรรษาที่วัดป่าดงสว่างธรรม บ้านดงสว่าง ต.โคกนาโก อ. ป่าติ้ว จ.ยโสธร

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง