ขอนแก่น มือมีดแทงน้องตายไม่ให้ตำรวจทำแผน

เร่งสอบปากคำมือมีดแทงน้องตาย อ้างถูกทำร้ายถึงบ้านใช้มีดแทงสวน ไม่ขอทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผกก.เผยแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เตรียมส่งฟ้องศาลฝากขังผัดแรกพรุ่งนี้ ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านเผยเกลี้ยกล่อมด้วยเหล้า ด้านแม่ผู้ตายขอให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย คงทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นญาติพี่น้องกัน

ความคืบหน้ากรณีนายวิญญู ปลาเหลา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.5 ต.ท่าศาลา อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ถูกนายสุธน นาหอ อายุ 37 ปี ลูกพี่ลูกน้องใช้อาวุธมีดพับยาวประมาณ 15 ซม.แทงเข้าที่ กลางหน้าอกตัดขั้วหัวใจ 1 แผล ซี่โครงด้านขวาลึกถึงปอด 2 แผล เหนือรักแร้ด้านขวา 1 แผล และที่บริเวณกล้ามแขมขวา 1 แผล รวมทั้งหมด 5 แผล เสียชีวิตอยู่กลางถนนระหว่างบ้านผู้ตายกับบ้านคนก่อเหตุซึ่งอยู่ใกล้กัน โดย นาย สุธน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจหลังก่อเหตุโดยมีผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านช่วยกันเกลี้ยกล่อมเอาไว้

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 ก.พ.2565 ที่สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.รัตนทัต ศรีพล ผกก.สภ.มัญจาคีรี พร้อมด้วย ร.ต.อ.กฤติเดช จันทร์ลา รอง สว.(สอบสวน)สภ.มัญจาคีรี ร่วมกันสอบสวนนายสุธน นาหอ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 ม.5 ต.ท่าศาลา อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดพกแทงนายวิญญู ปาเหลา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.5 ต.ท่าศาลา อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันมีบ้านใกล้กันเสียชีวิตที่บริเวณถนนท้ายบ้านดงเค็ง เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติมโดยมีทนายความร่วมรับฟังการสอบสวนตามสิทธิของผู้ต้องหาด้วย ซึ่งนายสุนทร ผู้ต้องหารับสารภาพว่าใช้มีดแทงน้องจริง แต่ถูกน้องทำร้ายก่อนจึงใช้มีดแทงสวนจนเสียชีวิตดังกล่าว และไม่ขอไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากกลัวในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ให้ชี้ภาพของพนักงานสอบสวนที่ถ่ายเอาไว้ในวันเกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวนว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ก่อนจะคุมตัวไปคุมขังที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา สภ.มัญจาคีรี เตรียมส่งฟ้องศาลจังหวัดขอนแก่น ฝากขังผัดแรกในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามขั้นตอนในวันพรุ่งนี้

พ.ต.อ.รัตนทัต ศรีพล ผกก.สภ.มัญจาคีรี
พ.ต.อ.รัตนทัต ศรีพล ผกก.สภ.มัญจาคีรี

พ.ต.อ.รัตนทัต ศรีพล ผกก.สภ.มัญจาคีรี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงคดีดังกล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า มูลเหตุนั้นมีเรื่องกับผู้ตายซึ่งเป็นญาติผู้น้องในลักษณะที่ผู้ก่อเหตุจะโทษทางผู้ตายว่าเวลาเมาสุราหรือเมาอะไรสักอย่างจะด่าทอแม่ตัวเองด้วยคำหยาบคาย ซึ่งทางตำรวจก็สอบถามว่าทำไมถึงไปเดือดร้อนแทนแม่ของผู้ตาย ผู้ต้องหาบอกว่าหลักจากที่ผู้ตายด่าแม่ของตัวเองแล้ว ก็จะด่ากระทบมาทางฝั่งผู้ต้องหาทำให้รู้สึกว่าผู้ตายมีจุดประสงค์ที่จะด่าผู้ต้องหาด้วย รวมถึงบุพการีของผู้ก่อเหตุด้วย ซึ่งในช่วงกลางวันนั้น ทางผู้ก่อเหตุได้แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบที่บ้านของผู้ตายจึงเกิดความไม่พอใจ แต่ทางตำรวจตรวจสอบแล้วไม่มีอะไร ต่อมาช่วงเย็น ผู้ตายมีการตะโกนด่าว่าผู้ก่อเหตุเนื่องจากบ้านใกล้กัน ก่อนที่ผู้ตายจะขับรถจักรยานยนต์มาที่บ้านผู้ก่อเหตุแล้วชกต่อยผู้ก่อเหตุก่อน ทำให้ผู้ก่อเหตุชักเอามีดพับที่ติดตัวแทงสวนผู้ตาย โดยบอกว่าแทงไป 4 ครั้ง แล้วเข้าจุดสำคัญที่ชายโครงและลิ้นปี่ ทำให้คนตายวิ่งหนีและล้มลงทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต นอกจากนี้ผู้ต้องหายังให้การว่าเตะซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพราะอยู่ในอาการเมาสุรา พอเตะเสร็จก็กลับเข้าบ้าน ก่อนที่ชาวบ้านจะออกมาดูและช่วยกันเกลี้ยกล่อมเอาไว้จนตำรวจมาถึงแล้วคุมตัวมาที่โรงพักทันที

ส่วนที่ผู้ต้องหาให้การว่าถูกทำร้ายก่อนนั้น และมีบาดแผลตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุแล้วที่บริเวณใบหน้าเพราะโดนชาวบ้านในบริเวณนั้นดึงลากเอาไว้ ซึ่งในส่วนนี้ก็เป็นคำให้การของผู้ต้องในทางคดี ซึ่งทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานต่างๆ ที่ผ่านมานั้นสืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยังไม่เคยถูกจับ และการตรวจปัสสาวะวันนี้ก็ไม่พบมีสารเสพติดแต่อย่างใด ในส่วนการทำแผนนั้นไม่ประสงค์ที่จะไปเพราะเกรงเรื่องอันตราย และยินดีแสดงท่าทางประกอบสำนวนที่โรงพักซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยในวันพรุ่งนี้จะควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดขอนแก่น ฝากขังผัดแรกในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อไป

ด้าน นาย วิทยา แก้วลึก อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านดงเค็ง หมู่ 5 ที่เข้าไปเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุจนยอมมอบตัวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุนั้นหลังจากได้รับแจ้งจากลูกบ้านก็ออกมาดูพบว่าผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมา จึงได้เกลี้ยกล่อมให้ยอมมอบตัวและบอกจะเอาเหล้าให้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่มาควบคุมตัวเอาไว้ได้ ที่ผ่านมานั้นทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะกันในวงเหล้าเป็นประจำแต่ไม่ถึงขั้นรุนแรงที่จะใช้อาวุธฆ่ากัน ที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ทำงานรับจ้างเลี้ยงดูครอบครัวเหมือนบ้านอื่นๆ อาจมีปากเสียงกันบ้างเพราะเป็นพี่น้องกันก็ถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนสาเหตุจนเสียชีวิตครั้งนี้ก็เป็นเรื่องการทะเลาะวิวาท แต่มีการใช้อาวุธทำให้มีคนตายเกิดขึ้น โดยฝ่ายน้องที่ถูกมีแทงนั้นตนเองได้ตรวจสอบดูพร้อมกับเจ้าหน้าที่พบว่าถูกแทง 5 แผล กลางหน้าอก ซี่โครง และแขน แต่มีดแทงเข้าจุดสำคัญทำให้ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตตอนวิ่งหนีจะกหลับบ้าน

นาย วิทยา แก้วลึก อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านดงเค็ง หมู่ 5
นาย วิทยา แก้วลึก อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านดงเค็ง หมู่ 5

โดยนายสุธน ผู้ก่อเหตุบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุนั้น ช่วงกลางวันผู้ตายซึ่งเป็นน้องชายเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มีบ้านอยู่ใกล้กันมองเห็นกัน อาละวาดโวยวายด่าทอแม่ตัวเองอยู่ในบ้าน และยังตะโกนด่าตนเองด้วย ตนเองจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจกระทั่งตำรวจมาควบคุมตัวน้องไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพักก่อนจะปล่อยตัวมา กระทั่งก่อนเกิดเหตุตนเองกำลังกินข้าวอยู่หน้าบ้าน ตนเองเลยบอกน้องว่าอย่าว่าแม่ได้ไหม ทำไมต้องว่าแม่แบบนั้นแบบนี้ น้องชายเลยเรียกตนเองว่าถ้ามึงเก่งก็มาสิ มึงมาสิ ตนเองเลยบอกน้องไปว่าไม่ไปหรอก น้องชายจึงขับรถจักรยานยนต์มาหาตนเองที่บ้าน แล้วลงมาทำร้ายตนเองก่อน ตนเองจึงใช้มีดพับที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงแทงน้องไป อยากจะขอโทษแม่ของน้อง สงสารแม่น้องที่สูญเสียลูกไป

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของผู้ตาย ที่บ้านเลขที่ 32 ม.5 บ้านดงเค็ง ต.ท่าศาลา อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งมีเพื่อนบ้านและญาติผู้ตายช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา โดยในวันพรุ่งนี้จะทำการฌาปนกิจที่วัดบ้านดงเค็ง วัดประจำหมู่บ้านในช่วงบ่าย ซึ่งแม่ของผู้ตายเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ ลูกชายตนเองกำลังเตรียมตัวไปทำงาน ก็มีการร้องเพลงอยู่ในบ้าน จู่ๆก็มีการพูดใส่กันท้าทายกัน ฝ่ายพี่ชายเลยตะโกนหาน้องว่าไม่มึงก็กูแหละวันนี้ แม่เข้าใจว่าคงไม่เป็นอะไรหรอกเลยบอกลูกว่าไม่ต้องสนใจไม่ต้องคุยกับพี่เพราะพี่เมา ขับรถไปทำงานเลย พอขับรถจักรยานยนต์ไป แม่รู้สึกเป็นห่วงจึงเดินไปดูก็ได้ยินเสียงลูกชายหายใจโรยริน แต่ยังไม่เห็นลูก จึงเดินหากระทั่งเห็นลูกตาจะหลับจึงบอกลูกให้ทำใจดีดีไว้จะพาไปโรงพยาบาล กระทั้งชาวบ้านมาเห็นกพบว่าลูกชายตายแล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีการมะเลาะกันตามประสาพี่น้อง นั่งดื่มเหล้ากันก็มีทะเลาะบ้างแต่ไม่ถึงขั้นใช้อาวุธทำร้ายกัน ในส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของทางตำรวจ เพราะก็เป็นญาติพี่น้องกัน

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง