ขอนแก่น ป้าผวาถูกคนร้ายขับจยย.ประกบชิงทรัพย์ขณะไปรับหลาน (มีคลิป)

1

ป้าวัย 56 ปี ชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น วอนตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายขับรถจักรยายนต์มาประกบก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ขณะขับรถจักรยานยนต์ไปรับหลานหลังเลิกเรียน โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดเกือบ 1,000 บาทและโทรศัพท์มือถือหลบหนีลอยนวล เจ้าตัวเผยยังผวาไม่หายกลัวคนร้ายกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก

มีกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Tum Weerawat” โพสต์ภาพคนร้ายก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น โดยคนร้ายสวมหมวกกันน็อตเต็มใบปิดบังหน้ามิดชิด สวมเสื้อกันหนาวสีแดงทีมสโมสรฟุตบอลชื่อดัง กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าเป้สีดำ ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยระบุข้อความว่า “แจ้งเตือนภัย เหตุเกิดขึ้นนี้วันเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง โจรจี้ชิงทรัพย์ (แม่ผมเองกะลูกผมและหลาน) ท่านพบเห็นเบาะแส แจ้งทางผมทีคับ เป็นภัยต่อสังคม” ภายหลังผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวโพสต์ลงในโลกโซเชียลก็มีชาวเน็ตช่วยกันแชร์ออกไปเป็นจำนวนมากตามสื่อโซเชียลต่างๆเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งล่าตัวมาดำเนินคดีจะได้ไม่ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก

ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้โพสต์และลงพื้นที่ไปพบกับ นางตามนต์ เชิดชู อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 367 ม.1 บ้านหนองน้ำใส ต.หนองน้ำใส อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พาผู้สื่อข่าวดูจุดที่ถูกคนร้ายรายนี้จี้เอาทรัพย์สินได้เงินสดเกือบ 1 พันบาทและโทรศัพท์มือถือไป พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 28 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา ตนเองขับรถจักรยานยนต์มารับหลานชายวัย 2 ขวบ แลลหลานสาววัย 5 ขวบหลังเลิกเรียนตามปกติ โดยขณะที่ตนเองขับรถจักรยานยนต์ไปรับหลานนั้น เมื่อมาถึงช่วงชุมชนโนนสว่างจะขึ้นถนนใหญ่ทางเลี่ยงเมือง ตรงข้ามตลาดนัดคลองถมหนองน้ำใส มีคนร้ายรายดังกล่าวสวมหมวกกันน็อคเต็มใบขับรถจักรยานยนต์ตามมาประกบด้านข้างแล้วพยายามกระชากกระเป๋าของตนเองจนหูกระเป๋าขาดทำให้หลุดมือคนร้าย แต่คนร้ายไม่ยอมหยุดเลี้ยวรถกลับมาดักหน้าแล้วเอามือล้วงกระเป๋าเหมือนมีอาวุธอยู่ภายใน พร้อมกับพูดว่าให้ส่งกระเป๋ามา ตนเองด้วยความกลัวว่าจะถูกทำร้ายจึงยอมเปิดกระเป๋าให้คนร้ายหยิบทรัพย์สินไป โดยได้กระเป๋าใส่เงินและใส่บัตรไป 2 กระเป๋า มีเงินสดรวมอยู่ประมาณเกือบ 1,000 บาท พร้อมกับโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง เมื่อได้ทรัพย์สินตนเองไปคนร้ายก็ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทันที

โดยหลังเกิดเหตุก็ได้รีบขับรถไปรับหลานทั้ง 2 คนที่โรงเรียนและรีบกลับบ้านไปบอกลูกชาย ก่อนจะไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและนำมาเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านไผ่ เพื่อให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ตอนนี้ยังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลัวว่าจะเกิดเหตุซ้ำอีกหากตำรวจยังไม่สามารถจับคนร้ายรายนี้ได้ โชคดีที่ขณะเกิดเหตุหลานอีก 2 คนไม่ได้อยู่ด้วย เพราะหากอยู่อาจถูกคนร้ายรายนี้ทำร้ายร่างกายเพื่อข่มขู่ พร้อมกันนี้อยากจะฝากเตือนถึงคนเฒ่าคนแก่ หรือคนสูงอายุที่มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพต่างๆมากกว่าเพื่อน ให้ระมัดระวังในการขับขี่รถไปไหนมาไหน หากพบเจอคนน่าสงสัยว่าจะเป็นมิจฉาชีพให้พยายามขับไปหาจุดที่มีคนอยู่เยอะๆ เพื่อให้คนช่วย

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง