ขอนแก่น แก้วตกพื้น กลายเป็นชนวนเหตุนองเลือด ถูกมีดแทงตาย1บาดเจ็บอีก1

แก้วตกพื้นแตก ทำหนุ่มชนบทหัวร้อน พาเพื่อนบุกฟันแทงชาวบ้าน ตายคาที่ 1 คน บาดเจ็บอีก 1 คน ตำรวจติดตามรวบตัวได้ทันควัน ให้การมือมีดชวนออกจากบ้านมาข้างนอกแต่ไม่รู้ว่าจะมาก่อเหตุ ยืนยันไม่ได้ตั้งใจไปทำร้ายใคร

        เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 พ.ต.อ.ชาญศิลป์ นาสูงชน ผกก.สภ.ชนบท จ.ขอนแก่น ทำการสอบสวน นายกิตติพงษ์ จันทร์งาม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 /1 ม.1 บ้านชนบท ต.ชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายธวัชชัย บุญมีศิริกุล(นายโอเล่) อายุ 49 ปี จนเสียชีวิตที่หน้าร้านจ่าธรรมบาร์เบอร์ เลขที่ 42/1 ห้องแถวชั้นเดียวริมถนนชนบท ดอนดู่ ต.ชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อ เวลา 21.00 น.คืนวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา

        ผกก.สภ.ชนบท กล่าวภายหลังการสอบสวนผู้ต้องหาว่า จากการสอบสวน นายกิตติพงษ์ จันทร์งาม อายุ 26 ปี ให้การรับสารภาพว่า ช่วงหัวค่ำวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีเพื่อนรุ่นพี่ชื่อว่า นายก้องหรือนายนัฐวุธ นาตสถิต อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่110ม.3 ต.ศรีบุญเรือง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ขับขี่รถจักรยานยนต์มาหาที่บ้านแล้วบอกว่าให้ไปทำธุระเป็นเพื่อน จึงนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายก้อง ไปยังหน้าร้านเสริมสวย ที่อยู่ติดกับร้ายตัดผมชาย เมื่อไปถึงจุดดังกล่าว นายก้องก็ลงจากรถจักรยานยนต์ไปมีเรื่องกับนายโอเล่และเกิดการต่อสู้กัน โดยฝ่ายนายโอเล่นั้น มีเพื่อนอยู่ด้วย 2 คน และเพื่อนนายโอเล่ก็เข้าไปช่วยนายโอเล่ นายกิตติพงษ์จึงเข้าไปช่วยนายก้องที่กำลังสู้กับนายโอเล่ และชุลมุนที่หน้าร้านตัดผม กระทั่งเห็นนายโอเล่บาดเจ็บสาหัส นายก้องก็ถูกตีที่ศีรษะบาดเจ็บเช่นกัน จากนั้นก็มีพลเมืองดีแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพมารับคนเจ็บส่งรพ. จากนั้นนายกิตติพงษ์ ก็กลับบ้านพักผ่อน กระทั่งถูกตำรวจตามตัวมาสอบสวนดังกล่าว

        ผกก.สภ.ชนบท กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. นายโอเล่ คนตาย และนายต้อม ได้พากันมาหา จ่าสิบตรี บุญธรรม ใจตรงดี อายุ 59 ปี ที่ร้านจ่าธรรมบาร์เบอร์ จากนั้นทั้ง 3 คน ก็ซื้อสุรา อาหารมานั่งกินกันที่โต๊ะหินอ่อนหน้าร้าน ขณะทั้ง 3 คน นั่งรับประทานอาหารกันอยู่นั้น ทางด้านนายก้อง มือมีด มาหาแฟนสาวที่ร้านเสริมสวย ซึ่งอยู่ติดกับร้านตัดผมชาย และซื้อเบียร์มานั่งดื่มที่หน้าร้านเสริมสวย ซึ่งต่างคนต่างดื่ม แต่ไม่ได้พูดคุยกัน

        ต่อมานายต้อมที่นั่งกินกันอยู่ 3 คน ที่หน้าร้านตัดผมชาย เกิดทำแก้วตกแตก นายก้องที่นั่งดื่มคนเดียว หน้าร้านเสริมสวย ไม่พอใจ กล่าวหายฝ่ายกลุ่มคนตายว่า หาเรื่อง จนมีปากเสียงกัน จากนั้น นายก้องก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ประมาณ 10 นาที กลับมาพร้อมเพื่อนซึ่งก็คือนายกิตติพงษ์ จันทร์งาม อายุ 26 ปี มาจอดรถที่หน้าร้านเสริมสวย จากนั้นก็ถือมีดสปาต้าเข้าฟันแทงนายโอเล่ที่นั่งดื่มกินหน้าร้านตัดผมชาย โดยแทงที่หน้าท้อง 1 แผล ฟันต้นคอ 1 แผล ไหล่ซ้ายและขวาข้างละ1 แผล ฟันมือทั้ง 2 ข้าง จนบาดเจ็บสาหัส โดยช่วงชุลมุนกัน มีนายต้อมและนายบุญธรรมเจ้าของร้านตัดผมเข้าช่วยเหลือ แต่ช่วยไม่ได้ เพราะมีนายกิตติพงษ์ เพื่อนนายก้องใช้ท่อนไม้ทุบตี จนในที่สุดมีพลเมืองดี แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อตำรวจไปถึงพบเพียงรอยเลือดในจุดเกิดเหตุส่วนคนเจ็บส่งนำส่งที่รพ.ชนบทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนายโอเล่ก็เสียชีวิตที่ รพ.ส่วนนายก้อง มือมีด ที่พาเพื่อนมารุมทำร้ายฝ่ายนายโอเล่นั้น ถูกตีที่ศีรษะบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวในรพ. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวไว้และเมื่อรู้สึกตัว สามารถสอบปากคำได้ ก็จะแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

        ในขณะเดียวกัน จ่าสิบตรี บุญธรรม ใจตรงดี อายุ 59 ปี เจ้าของร้านจ่าธรรมบาร์เบอร์ ก็เดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชนบทด้วย และเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทั้งหมดน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดของนายก้อง มือมีดที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน อีกทั้งนายก้องก็ยังเคยมาตัดผมที่ร้าน ก็พูดคุยกันดี โดยก่อนเกิดเหตุนั้น ตนและน้องอีก 2 คน คือนายโอเล่และนายต้อม นั่งดื่มกินกันที่หน้าร้าน และคนชื่อต้อม ทำแก้วน้ำหลุดมือ ตกลงพื้นและแก้วก็แตก น่าจะเป็นชนวนที่นายก้องไม่พอใจ แล้วขับขี่รถกลับบ้านไปตามเพื่อนและเอามีดมาทำร้ายตนกับน้องๆ เป็นเหตุให้ตนถูกฟันที่ใบหน้า 1 แผลลึกประมาณ 1 ซม.เย็บ 9 เข็ม และนายโอเล่ก็ถูกฟัน ถูกแทงจนตาย ส่วนนายต้อมได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

        ทางด้าน นายกิตติพงษ์ จันทร์งาม อายุ 26 ปี เพื่อนของนายก้อง มือมีด กล่าวว่า นายก้องขี่รถจักรยานยนต์ไปรับที่บ้านและว่าให้ไปเป็นเพื่อน จึงนั่งซ้อนท้ายรถมาด้วย เมื่อมาถึงร้านเสริมสวย หลังจอดรถนายก้องก็เดินไปใช้มีดทำร้ายคู่กรณี ซึ่งขณะนั้นเห็นฝ่ายคนตายถือท่อนไม้ออกมาต่อสู้ ตนจึงเข้าไปแย่งท่อนไม้ออกมา เพื่อช่วยเพื่อน แต่สุดท้ายเพื่อนก็ถูกทำร้าย ส่วนคู่กรณีก็เสียชีวิต จึงขอยืนยันว่า มากับเพื่อนโดยที่ไม่รู้สาเหตุ กระทั่งมาพบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง