ขอนแก่น เร่งติดตามคนร้ายชิงทอง หลังพบเดินหนีกว่า 2 กม. (มีคลิป)

ตำรวจภูธรภาค4 เร่งไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและหาเบาะแสเพิ่มเติมในรัศมี 1 กิโลเมตรจากสถานีรถไฟขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดท้ายที่พบเบาะแสคนร้ายชิงทองคำรูปพรรณบนห้างเซ็นทรัล ขอนแก่น วิ่งผ่าน เพื่อนำมาตีกรอบพื้นที่ค้นหาตัวคนร้าย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 พ.ย.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค4 ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ใช้อาวุธปืน บุกเดี่ยวเข้าชิงทองคำรูปพรรณของห้างทองกีรติ บนชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น โดยคนร้ายได้ทองคำรูปพรรณ เป็นสร้อยข้อมือไป จำนวน 8 เส้น น้ำหนักรวม 24 บาท มูลค่า 7.2 แสนบาท

พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 กล่าวว่า จากการสอบสวนขณะนี้ พบว่าจุดสุดท้ายที่พบเบาะแสคนร้าย คืออยู่ในพื้นที่เมืองขอนแก่น และตอนนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนจากจุดสุดท้ายที่พบว่า มีการเคลื่อนไหวต่อไปอีกหรือไม่ โดยจุดสุดท้ายคือบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟ ขอนแก่น ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 – 3 กิโลเมตร โดยบริเวณนี้มีทางที่คนร้ายสามารถใช้เป็นเส้นทางหลบหนีออกไปได้หลายทาง ทั้งทางซ้าย (ถนนรื่นรมย์) ด้านขวา (อาคารพาณิชย์, ชุมชนหนองวัด) และหากตรงไปตามถนนดรุณสำราญ จะสามารถขึ้นไปทางถนนมิตรภาพก็ได้ ตอนนี้กำลังดูว่าจุดสุดท้ายของคนร้ายจริง ๆ คือตรงไหน จากนั้นจึงจะสามารถทำสโคปอีกที

รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและสอบสวน มีการดูในทุกอย่างในทุกมิติ ทั้งชุดที่คนร้ายใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ สำหรับเรื่องเสื้อที่คนร้ายสวมใส่นั้น ก็ได้มาทำการวิเคราะห์ทุกอย่าง มีการวิเคราะห์ไปถึงขั้นที่ว่าคนร้ายอาจจะเป็นคนที่ชอบดูหนัง อาจจะเป็นคนที่ชอบพวกยุทธวิธี หรือพวกอำพรางก็ได้ ซึ่งในแนวทางการสืบสวนสอบสวน สามารถคิดไปได้ทั้งหมด ทุกมิติ ซึ่งตอนนี้มีสโคปของคนร้ายอยู่ในใจ แล้ว มีอยู่หลายกลุ่มอยู่ แต่ว่าขอให้การสืบสวนและหาหลักฐานไปให้สุดจริงๆ ก่อน บอกได้เพียงว่า เวลานี้การสืบสวนเราดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็จะทำให้ดีที่สุด ทุกอย่างอาจจะช้า แต่มั่นคง มั่นใจ แล้วถ้าสมมติว่า ในที่สุดแล้วสามารถจับคนร้ายได้ ก็จะมีพยานหลักฐานในการพิสูจน์ ความผิดของคนร้ายได้อย่างแน่นอน และท้ายที่สุดเราต้องให้ได้หลักฐานอื่นๆ มาประกอบในความผิดของคนร้ายเมื่อถึงขั้นตอนในชั้นศาลด้วย

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง