ขอนแก่น เอาจริง ปราบเด็กแว้นรอบเมือง ยึด จยย.ดัดแปลงสภาพ เกือบ 2,000 คัน (มีคลิป)

ขอนแก่น เอาจริง ปราบเด็กแว้นรอบเมือง ยึด จยย.ดัดแปลงสภาพ เกือบ 2,000 คัน ท่อไอเสียดัดแปลงอื้อ “ไพศาล” สั่งทุกพื้นที่เปิดโรงเรียน เปิดโรงรถ จับปรับยึด รถดัดแปลงสภาพถึงโรงเรียน พร้อมสร้างสุภาพบุรุษไม่ซิ่ง เจเนอเรชั่นใหม่เท่ห์ได้โดยไม่ต้องซิ่ง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 พ.ย. 2564 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ. 4 ในฐานะ โฆษกตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ และท่อไอเสียดัดแปลงเสียงดัง ซึ่งว บช.ภ.4 และ ภ.จว.ขอนแก่น ได้ทำการกวดขันจับกุมกากรระทำความผิดดังกล่าว ในช่วงระหว่างวันที่ 11-20 พ.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ 26 อำเภอของ จ.ขอนแก่น โดยสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ท่อแต่งเสียงดัง ดัดแปลงสภาพ และรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รวมจำนวนทั้งหมด 1,985 คัน ท่อไอเสียดัดแปลงเสียงดัง จำนวน 462 ชิ้น

พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า เจ้าของรถทุกคันเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่าขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุด 10,000 บาท รวมทั้งข้อกล่าวหาเปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ (ดัดแปลงสภาพรถ) ตามอัตราโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท และขับรถโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ขณะที่ผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้เด็กหรือเยาวชนออกมากระทำความผิด ต้องมีส่วนรับผิดในข้อหา บิดา มารดาหรือผู้ปกครองสนับสนุนปล่อยปละละเลยให้เด็กหรือเยาวชนร่วมกลุ่มหรือมั่วสุมให้แข่งรถในทาง ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22 /2558 อัตราโทษ คือ ตักเตือน ทำทัณฑ์บน หรือให้วางเงินประกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหรือเยาวชนกระทำผิดอีกและหากเด็กหรือเยาวชนกระทำผิดซ้ำอีก บิดามารดา หรือผู้ปกครอง ต้องระวางจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท และริบเงินประกัน

” จะเห็นได้ว่าการบังคับใช้กฎหมาย ในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานตจอนบน ในความรับผิดชอบของ บช.ภ.4 นั้นทุกมาตรการเข้มงวดและจริงจัง ตามนโยบายของรัฐบาลและ สตช. ซึ่งการจับกุมที่เกิดขึ้นที่ถือเป็นการสร้างความเดือดร้อน รำคาญ สร้างค่านิยมที่ผิดๆของเด็กและเยาวชน สามารถแยกเป็นการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย จำนวน 25 ราย ว่ากล่าวตักเตือน บิดา มารดา ผู้ปกครอง ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/58 และ 46/58 จำนวน 115 ราย ตรวจค้นและประชาสัมพันธ์อู่ซ่อม ร้านค้าอะไหล่ จำนวน 3,223 ร้าน ดำเนินคดี 1 ร้าน ดำเนินการตามความผิด พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ และ พ.ร.บ.รถยนต์ จำนวน 7,059 ราย ตรวจพบท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐาน จำนวน 462 ราย ตรวจยึดรถยนต์ จำนวน 12 คัน และ รถจักรยานยนต์ จำนวน 1,985 คัน ขณะเดียวกันยังได้ดำเนินดคีตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จำนวน 12 ราย ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด จำนวน 2 ราย จัดทำประวัติผู้กระทำผิดและผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง จำนวน 607 ราย จับกุมผู้ต้องหาส่งฟ้องศาล และศาลมีคำสั่งริบของกลาง จำนวน 3 คัน”

พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวต่ออีกว่า ตำรวจภูธรภาค 4 ยังได้ดำเนินโครงการเปิดโรงเรียน เปิดโรงรถ เพื่อป้องปรามการแข่งรถในทาง รถซิ่ง เด็กแว้น โดยให้สถานีตำรวจ ทุกแห่ง เข้าดำเนินโครงการในโรงเรียนต่างๆ ตามาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น อย่างเข้มงวดและจะมีการขยายผลจัดอบรมโครงการ นักเรียนสุภาพบุรุษไม่ซิ่ง เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กแว้นต้นแบบ ไม่ซิ่ง ไม่แว้น ไม่ทำผิดกฎหมายจราจร และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องในภาพรวมในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนอย่างต่อเนื่องต่อไป

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง