ประชุม พปชร. ที่ขอนแก่น คึกคัก! แกนนำมาครบ “ประวิตร” นั่ง หัวหน้าพรรค พปชร.ต่อ “ธรรมนัส” นั่งเลขาฯ บอกเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้สส.มากกว่าเดิม (มีคลิป)

news2020_Facebook1

“ประวิตร” นั่ง หัวหน้าพรรค พปชร.ต่ออีกสมัย ขณะที่ “ธรรมนัส” นั่งเลขาฯ “นฤมล” นั่งเหรัญญิก พร้อมปรับลดกรรมการบริหารพรรค จาก 27 คนเป็น 26 คน ด้าน เลขาฯคนใหม่ มั่นใจเลือกตั้งครั้งต่อไปครองสัดส่วน ส.ส.มากที่สุดในประเทศ

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 มิ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น หรือ ไคซ์ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้กำหนดให้เป็นสถานที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2564 เหล่าบรรดาคณะกรรมการบริหารพรรค, สมาชิกพรรค, สส.พรรค และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ต่างทยอยเดินทางมาร่วมประชุมพรรคตามกำหนดการประชุมอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคฯ, นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคฯภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน, น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรี เขต.3 , นายวัฒนา ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 2 , นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี สส.ระบบบัญชีรายชื่อ,นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง วางกำลังโดยรอบสถานที่การประชุมเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเช่นกัน

ต่อมาเวลา 12.00 น.ภายหลังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งหนังสือลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อที่ประชุม และที่ประชุมมีมติรับทราบและรับรอง โดย ประธานในที่ประชุมคือ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้มีคำสั่งให้มีการเลือกตั้ง คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ทันทีตามระเบียบและขั้นตอนที่ กกต.กำหนด

ทั้งนี้ที่ประชุมได้เสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค,ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค,นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นเหรัญญิกพรรค และนายบุญสิงห์ เป็นนายทะเบียนพรรค โดยได้ให้สมาชิกในที่ประชุมได้ทำการเลือกตั้ง ซึ่งผลปรากฎว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต่ออีกสมัย ด้วยคะแนน 582 คะแนน และมีบัตรเสีย 12 คะแนน ,ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ด้วยคะแนน 556 คะแนน บัตรเสีย 14 คะแนน และไม่ลงคะแนน 23 คะแนน ,นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นเหรัญญิก และ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ เป็นนายทะเบียนพรรค

จากนั้นประธานการประชุมได้ขอมติที่ประชุมในการปรับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จาก 27 คนเป็น 26 คน ทั้งนี้ภายหลังการเลือกตั้งคณะกรรมการพรรคในส่วนต่างๆแล้วเสร็จ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ได้ออกมาแถลงข่าวรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการร่วมแสดงความยินดีของ สส.ของพรรค และสมาชิกพรรค ที่ต่างมามอบช่อดอกไม้และผูกผ้าขาวม้า ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิดทำให้การขับเคลื่อนพรรคไม่ต่อเนื่อง แต่หลังจากนี้คณะทำงานจะกำหนดให้ชัดเจนและเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ที่ผ่านมาอย่างที่ทุกท่านทราบว่าท่านมองว่าพรรคพลังประชารัฐคือพรรคเฉพาะกิจ แต่หลังจากมีความชัดเจนในเรื่องการกำหนดนโยบายของพรรค ที่เราจะเดินไปข้างหน้าโดยนโยบายเรามีอยู่แล้ว ความชัดเจนก็จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ว่าเราจะเดินไปอย่างไรและทิศทางไหน เพื่อแสดงให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีความเข้มแข็ง

“เรามีศูนย์รวมอยู่ที่หัวหน้าพรรคคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทุกเรื่องที่เราจะเดินไปข้างหน้าเราต้อง ปรึกษาท่านหัวหน้าและเดินไปด้วยกัน ดังนั้นเรื่องของการที่จะเกิดปัญหาต่างๆที่ เคยเกิดขึ้นในอดีตนั้นมั่นใจว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายใต้การบริหารพรรคของ พล.อ.ประวิตร จะไม่มีอีกต่อไป เพราะเรื่องของการบริหารพรรค กับตำแหน่งทางการเมืองนั้นคนละเรื่องกัน ผมอยู่ตรงนี้ก็พร้อมที่จะทำงานเป็นเลขาพรรค เพื่อนำพาพร้อมกับพี่น้องกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค เดินไปข้างหน้าส่วนตำแหน่งทางการเมือง ผมว่ามันคนละเรื่องกัน”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาที่มีการเลือกตั้งซ่อมพรรคพลังประชารัฐเราไม่เคยพลาด ทั้งการเลือกตั้งซ่อมและในอนาคต จึงมีความมั่นใจว่าภายใต้การนำของหัวหน้าพรรค จะสามารถเดินไปข้างหน้าได้ในภาพใหญ่และภาพรวมต่อไป และมีความมั่นใจว่าจะได้ สส. เป็นอันดับ 1 ของประเทศในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่งพรรคเราเป็นพรรคการเมืองใหญ่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเราก็มั่นใจว่าเราจะได้จำนวน สส.มากกว่านี้ และมีความมั่นใจว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ต่อไป

“งานแรกหลังจากที่ได้รับเป็นแม่บ้านของพรรค ต้องขอกลับไปคิดที่บ้านก่อน หลังจากนั้นจะมีการประชุมและต้องเดินไปด้วยกันให้หมด อย่างที่ประธานวิปรัฐบาลได้ชี้แจงไป ขณะที่พรรคเราถูกมองว่าเป็นพรรคที่มีความแตกแยกกันมาโดยตลอด ต่อไปนี้ภาพเหล่านั้นจะไม่มีเราจะเดินไปด้วยกัน เราจะเป็นครอบครัวเดียวกันที่มีเป้าหมาย ในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อพี่น้องประชาชน รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์”

 

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง