เจ้าของร้านค้าร้องสื่อขอนแก่น สูญเงิน5แสน ซื้อของจากห้างดังที่อุดรฯแต่ไม่ได้ของ

news2021_facebook_new

ร้านค้างง สั่งซื้อสินค้าจากห้างสรรพสินค้าชื่อดังรูดบัตรเครดิตไป 5 แสนแต่ไม่ได้รับของ ทวงถามไปเรื่องก็เงียบ พบผู้เสียหายเกือบ 10 ราย สูญเงินไปเกือบ 7 ล้านบาท วอนหน่วยงานที่รับผิดชอบเห็นใจพ่อค้า-แม่ค้า เพราะโควิดกระทบการค้าขายและยังมาถูกห้างดังไม่รับผิดชอบอีก

      เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 มิ.ย.2564 ที่ร้านกาแฟคอฟฟี่เดอลา สาขาโอโซนวิลเลจ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายธีระวัฒน์ นิมมาศุภวงศ์รัฐ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49-50 ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ผู้ประกอบการร้านค้าส่ง-ค้าปลีก รายใหญ่ในเขต จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี นำเอกสารหลักฐานการซื้อสินค้าจากห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ในเขต จ.อุดรธานี เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงสื่อถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบได้เข้ามาแก้ไขปัญหาและรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังสั่งซื้อสินค้ากับห้างสรรพสินค้าแห่งนี้แล้วไม่ได้รับสินค้า และเมื่อมีการทวงถามก็ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆอ้างเป็นการกระทำของพนักงานไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ โดยในเบื้องต้นพบว่ามีร้านค้าส่ง ค้าปลีก ถูกห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ยักยอกเงินไปรวม 9 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 6.9 ล้านบาท

      นายธีระวัฒน์ นิมมาศุภวงศ์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ร้านฯได้สั่งซื้อสินค้ากับห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี โดยมีผู้จัดการแผนกขายส่งสินค้าของห้างฯ มารับรายการและดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ในกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่เหตุเกิดผิดปกติเกิดขึ้น ครั้งแรกเมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ได้สั่งซื้อสินค้าประเภทนมโอเมก้า กาแฟกระป๋อง และโซดา โดยได้โอนเงินให้กับ พนักงานของห้างฯ ที่มารับรายการสินค้า ไปจำนวน 79,000 บาท โดยห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ทยอยส่งสินค้าให้ภายหลังได้โอนเงินไป ภายใน 7-15 วัน แต่ก็ส่งสินค้าไม่ครบ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายในครั้งแรกอยู่ประมาณ 25,200 บาท ซึ่งก็มีการติดตามทวงถามมาตลอด จากนั้นจึงได้ติดต่อทวงถามกับห้างสรรพสินค้า ที่สำนักงาน ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆแต่ด้วยการที่ไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างร้านกับห้างฯ ก็ยังไม่ติดใจ จนกระทั่งมาในวันที่ 27 มี.ค.ได้เข้าไปที่ห้างฯ ซื้อโซดา,น้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลัง ยอดรวม 145,500 บาท โดยทำการรูดบัตรเครดิตไปกับช่องชำระเงินของห้างฯแบบลูกค้าทั่วไป และห้างฯจะทำการจัดส่งแบบเดลิเวอรี่ให้ถึงร้าน แต่จนถึงขณะนี้สินค้าได้รับไม่ครบในกลุ่มของเครื่องดื่มชูกำลัง ที่สั่งซื้อไป 500 ลัง ได้รับสินค้าเพียง 300 ลัง อีก 200 ลัง ไม่ได้รับ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายในรอบที่ 2 นี้รวม 39,400 บาท

      “มาหนักที่สุดคือ ในวันที่ 5 เม.ย. ที่ร้านฯ ต้องเตรียมสินค้าไว้จำหน่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้เดินทางไปที่ห้างฯ เพื่อซื้อเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยได้ทำการรูดบัตรเครดิตไป 8 ครั้งที่ช่องชำระเงินปกติของห้างฯ ยอดเงินรวม 484,800 บาท ในกลุ่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แยกเป็นสุราขาวเล็ก 200 ลัง ได้รับสินค้าเพียง 37 ลัง และสุราขาวใหญ่ 200 ลังไม่ได้รับสินค้าเลย จึงได้ทวงถามมาอย่างต่อเนื่อง พนักงานก็บ่ายเบี่ยง จนกระทั่ง ช่วงสินเดือน เม.ย. จึงขอไปตรวจสอบเอกสารต่างๆกับห้างฯ ก็พบว่าสินค้าที่ร้านสั่งซื้อไปนั้น มีการชำระผ่านบัตรเครดิต ระหว่างร้านกับห้างฯ มีการลงรับเอกสารต่างๆเรียบร้อย และพบว่ามีการเบิกของ ทั้งหมดไปแล้ว ก็ของไม่ได้นำมาส่งทีร้าน ทั้งยังคงมีการปลอมลายมือชื่อ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของใครที่เซนต์รับของไป จึงท้วงติงกับห้างสรรพสินค้าดังกล่าวไปและขอให้มาแสดงความรับผิดชอบ เพราะร้านซื้อสินค้ากับห้างโดยตรงทำไมจึงมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น”

      นายธีระวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า จากการพูดคุยกันกับผู้ประกอบการในพื้นที่พบว่ามีร้านค้าที่ถูกห้าง และพนักงานของห้าง กระทำการในลักษณะเช่นนี้และได้เข้าแจ้งความแล้วรวม 9 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความรวม 6.9 ล้านบาท เฉพาะในส่วนร้านของตนเองนั้นเสียหายไปรวมกว่า 500,000 บาท จึงอยากให้ทางห้างฯได้มารับผิดชอบนำส่งสินค้าให้ครบ หรือคืนเงิน เพราะร้านซื้อสินค้ากับห้างโดยตรงและซื้อมานานกว่า 10 ปี ด้วยความเชื่อใจและเชื่อมั่นในความเป็นห้างใหญ่ โดย มีการชำระเงินกับทางห้างผ่านช่องทางชำระเงินที่ถูกต้อง มีเอกสารยืนยันการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตอย่างถูกต้อง มีใบเสร็จรับเงินจากห้างฯ อย่างถูกต้อง แต่ได้รับสินค้าไม่ครบ ทุกวันนี้การค้าขายก็ยากลำบากอยู่แล้วจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น กลับมาถูกห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ที่ใหญ่โต มีมาตรฐานระดับสากล กระทำการในลักษณะเช่นนี้ จึงอยากให้ห้าง ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งร้านก็รู้ว่าการต่อสู้ การเรียกร้องกับห้างขนาดใหญ่นั้นอาจจะเสียเปรียบเพราะเราเป็นร้านค้ารายย่อยเป็นร้านค้าในแถบชานเมือง แต่เงินกว่า 500,000 บาท ที่ต้องหายไปในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้หลอกว่าลำบากเพียงใด

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง