ตร.ขอนแก่นรวบโจรลักทรัพย์ก่อเหตุกว่า 100 ครั้ง

1x

ชุดสืบสวนเสือดาวพิฆาต ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น แกะรอยตามรวบโจรลักทรัพย์มืออาชีพ ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ตามหอพักทั่วเมืองขอนแก่น พบประวัติก่อเหตุโชกโชนไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง และเพิ่งพ้นโทษในคดีเสพยาเสพติดและลักทรัพย์ออก เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ปีที่ผ่านมา

         เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทีมเสือดาวพิฆาต ในสังกัดของตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เข้าจับกุมตัวนายเชาวลิตร หรือ เอก โทล่า อายุ 24 ปี ชาว ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร

         พร้อมด้วยของกลาง จำนวน 13 รายการ ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน, หมวกแก็ปสีดำ จำนวน 1 ใบ, เสื้อยืดสีแดง จำนวน 1 ตัว, กางเกงกีฬาขาสั้นสีกรมท่า จำนวน 1 ตัว, รองเท้าผ้าใบสีดำ จำนวน 1 คู่, กระเป๋าสะพายคาดเอวสีแดง จำนวน 1 ใบ, หมวกกันน็อค จำนวน 1 ใบ, จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อACER จำนวน 1 จอ, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ยี่ห้อคอมแพ็ค จำนวน 1 เครื่อง, ซีพียูคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะพร้อมสายไฟ จำนวน 1 เครื่อง, จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อHP พร้อมสายไฟ จำนวน 1 เครื่อง, แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ จำนวน 1 อัน และ เมาส์คอมพิวเตอร์ จำนวน 1 อัน

         โดยผู้ต้องหารายนี้ถูกตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น แกะรอยติดตามจับกุมตัวได้ ที่ลานจอดรถหอพักตากับยาย เลขที่ 124/13 ซอยเทพารักษ์2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก่อนจะพาตัวไปค้นห้องพักและพบของกลางที่ขโมยมา

         พ.ต.ต.พงศ์ภัค สิริพัฒนพงศ์ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และหัวหน้าชุดเสือดาวพิฆาต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการสืบสวนและวิเคราะห์อาชญากรรม กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เข้าไปทำการก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ห้องสำนักงานชั้น1 สวนแก้ว เรซซิเดนท์ เลขที่ 49/52 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 02.00 น. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของสำนักงานสวนแก้ว เรซซิเดนท์ฯ พบว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 8 ตุลาคม 2564 มีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 1 คน อายุประมาณ 20 – 30 ปี แต่งกายสวมเสื้อยืดสีแดง ที่หน้าอกเสื้อมีอักษรภาษาอังกฤษเขียนคำว่า PARIS สวมหมวกแก็ปสีดำ มีตัวอักษรสีขาวอยู่บนหมวกด้านหน้า สวมกางเกงขาสั้นสีทึบ สวมรองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าคาดเอวสีแดงมีตัวอักษรสีขาวอยู่ที่บนกระเป๋า และใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีตะแกรงหน้ารถ มีกระจกมองข้างลักษณะกลม มีตุ๊กตาขนาดเล็กห้อยอยู่ที่ปลายบังโคน เป็นยานพาหนะ เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ แล้วขับรถจักรยานยนต์หนีไป

         ต่อมา วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคบร้ายจะใช้ในการหลบหนี พบว่าคนร้ายได้ใช้เส้นทางออกจากที่เกิดเหตุขับรถเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพิมพิสุทธิ์ จากนั้นได้ขับมุ่งหน้าไปทางสี่แยกซอยเทพารักษ์ 2 จนทราบว่า คนร้ายน่าจะหลบอยู่บริเวณซอยเทพารักษ์2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณโดยรอบ เมื่อไปถึงบริเวณหอพักตากับยาย เลขที่ 124/13 ซอยเทพารักษ์2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดงดำ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน มีตะแกรงหน้ารถ มีกระจกมองข้างลักษณะกลมเล็กห้อยอยู่ที่ปลายบังโคน ลักษณะตรงตามที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุทุกประการ จอดอยู่ที่บริเวณลานจอดรถภายในหอพักตากับยาย โดยมีชายลักษณะคล้ายกับคนร้าย ยืนอยู่ที่รถคันดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัวและสอบถาม ทราบว่าชายคนดังกล่าวคือนายเชาวลิตร หรือ เอก โทล่า อายุ 24 ปี ที่ และนายเชาวลิตร หรือเอก ได้แสดงตัวเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวที่จอดอยู่ ตำรวจชุดจับกุมได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุให้นายเชาวลิตร ตรวจสอบดู และยอมรับว่าตนคือบุคคลคนเดียวกันในกล้องวงจรปิดกับคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุดังกล่าวจริง และรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวนายเชาวลิตร ก็ได้ใช้ยานพาหนะเข้าไปทำการก่อเหตุจริง

         จากการสอบสวน นายเชาวลิตรได้ให้การยอมรับว่า หลังก่อเหตุได้ใช้ให้แฟนสาว คือ น.ส.ปิยฉัตร จันนะศรี อายุ 30 ปี ชาว ต.ทองหลาง อ.บ้านนา จ.นครนายก นำซีพียูคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ พร้อมด้วยหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไปจำนำไว้ที่ร้านรับจำนำแห่งหนึ่ง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในราคา 2,000 บาท แล้วนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก,หมวกกันน็อค, หน้าจอคอมพิวเตอร์ และเสื้อผ้าและชุดที่ใช้ในวันก่อเหตุ ได้นำไปเก็บไว้ใน หอพักตากับยาย ซอยเทพารักษ์2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นห้องพักของแฟนจากนั้นนายเชาวลิตร ได้สมัครใจพาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดที่ได้จากการก่อเหตุ ก่อนจะคุมตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

         ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังพบว่า นายเชาวลิตร เพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2563 หลังถูกจับกุมดำเนินคดี เสพยาเสพติดให้โทษและลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยถูกจำคุก 1 ปี 4 เดือน 10 วัน และหลังพ้นโทษก็กลับออกมาก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก โดยจะตระเวนลักทรัพย์ตามหอพักต่างๆ ทั่วเมืองขอนแก่น ก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง