ขอนแก่น โจรขโมยถ่าน (มีคลิป)

news2021_Facebook10

วงจรปิดจับภาพคนร้ายเป็นชายขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านอาหารแล้วเข้าไปขโมยเอาถ่านหุงต้มที่ทางร้านเตรียมไว้สำหรับจำหน่ายลูกค้าหลบหนีไปอย่างลอยนวล เจ้าของร้านเผยก่อเหตุซ้ำหลายครั้งจนสุดท้ายเปิดกล้องเจอขโมย แต่ไม่ได้แจ้งความ ด้านตำรวจส่งทีมสืบสวนล่าตัวดำเนินคดี

          เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านทวีชัยโภชนา ซึ่งรับจัดโต๊ะจีนและรับทำอาหารกล่อง รวมถึงจำหน่ายแก๊ส และถ่านหุงต้ม เลขที่ 157/1 ม.1 บ้านหนองโก ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นร้านค้าที่ พลเมืองดี นำภาพคนร้าย ที่กล้องวงจรปิด บันทึกภาพขณะลงมือก่อเหตุขโมยเอากระสอบถ่าน ขึ้นรถจักรยานยนต์ หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งพบกับนางทิพย์สุดา ชวาลเจริญชัย อายุ 74 ปี เจ้าของร้าน

          นางทิพย์สุดา ชวาลเจริญชัย อายุ 74 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากโควิด-19 ระบาด การค้าขายอาหารก็ลำบากขึ้น จึงได้นำเอาถ่าน และแกส มาขาย เพื่อให้มีรายได้เข้ามา โดยได้นำกระสอบบรรจุถ่านประมาณ 20 กระสอบตั้งไว้ที่หน้าร้าน ซึ่งอยู่ภายในตลาดประชารัฐ บ้านหนองกุง ให้ลูกค้ามองเห็น กลางคืนก็ไม่ได้เก็บเข้าไปในบ้าน ที่ผ่านมามีกระสอบถ่านหายไป แต่คิดว่า สามีขายไป จึงไม่ได้คิดอะไร

นางทิพย์สุดา ชวาลเจริญชัย อายุ 74 ปี เจ้าของร้าน

          ต่อมาในคืนวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.00 น.ขณะที่กำลังนั่งดูทีวีในบ้าน เห็นคนร้ายเป็นชาย ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบสียี่ห้อและไม่ทราบทะเบียน ขับมาจอดหน้าร้านและอุ้มเอากระสอบบรรจุถ่านขึ้นรถจักรยานยนต์ ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

          “ยายวิ่งออกจากบ้านและตะโกนใส่คนร้าย แต่คนร้ายไม่หยุด เพราะเมื่อได้กระสอบถ่านแล้วก็รีบขับรถหนีไป ช่วงกลางวันจึงไปขอดูภาพจากกล้องงวงจรปิดที่เทศบาลหนองโก จึงพบภาพคนร้ายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาก่อเหตุเพียงคนเดียว ยายคิดว่าเป็นทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยราคาเพียง 170 บาท จึงไม่ได้แจ้งความ แต่พลเมืองดี ได้นำภาพจากวงจรปิดมาโพสในเฟซบุ๊กและโซเชียล”

          ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวเข้าพบ พ.ต.ท.ทินกร เถาหมอ รองผกก.สอบสวน สภ.กระนวน เพื่อสอบถามถึงกรณีพลเมืองดีเผยแพร่ภาพคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ในโซเชียล ว่าตำรวจมีการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายหรือไม่ รองผกก.สอบสวน สภ.กระนวน กล่าวว่า เหตุการณ์ตามที่พลเมืองดีโพสต์และแชร์ภาพในโซเชียลนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหาย แต่ในทางปฏิบัตินั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการลงพื้นที่สืบสวนหาตัวคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่พบเบาะแสว่าเป็นใคร จึงอยากให้ผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง