“ ปะจัน ”  โดย  “เขี้ยวจัน ”
ปีที่ 3 : ตามที่ใจสั่งมา……..

ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้   เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก”ตัวแทน”  ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น   และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม [ หน้ารวมบทความ ปะจัน]

ข่าวเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน คือ “โรงหมอ” ขาดทุน กับ “เจ้าอาวาส” วัดดังย่านนครปฐมโกงเงินวัด

ในยุคข่าวสารท่วมโลก ข่าวมาไว ไปไว เพราะมีข่าวอื่นเข้ามาถมๆ จนคนเสพข่าวลืมเลือน กับสภาพข่าวที่สร้างความตื่นเต้นได้ตลอดเวลา ข่าวใหญ่ ข่าวดัง มาก จนผู้คนชินชา

แต่ที่น่าฉุกใจคิดตาม คือ ข่าว โรงหมอขาดทุน กว่า 1,200 ล้านบาท ในขณะที่ เจ้าอาวาส โอนเงินหลักร้อยล้าน ให้ สีกาคนงาม…….วัดมีเงินมาก มากกว่าโรงพยาบาล

สะท้อนว่า ศรัทธามาร์เก็ตติ้ง ยังทำงานได้อย่างเข้มแข็ง ผู้คนยังเชื่อภพภูมิหน้า ด้วยการตั้งอธิฐานจิต ผ่านความเชื่อทางศาสนาถวายเงินตรา สิ่งอำนวยความสะดวก ให้พระสงฆ์ ให้วัด ประดับตกแต่ง เกินคำว่า “พอเพียง” สำหรับสมณะเพศ

เรามักเคยได้ยินว่า “พระสงฆ์” ยุคนี้ เป็นโรคภัย ที่เกี่ยวกับ ความเป็นอยู่ เพราะสาธุชนมักแสวงหา ของดี ของราคาแพง มาถวายพระ เพราะเชื่อว่า จะส่งผลให้ ตนเอง ลูกหลาน ร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง

หน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับ ดูแล คือ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี พอมีเรื่องราว ยังไม่พบว่า หน่วยงานนี้ ลุกขึ้นมาทำอะไร….อนิจจา….

กลับมา มอง ด้านโรงหมอ–โรงพยาบาลกันบ้าง….

โรงพยาบาลขอนแก่น ขาดทุนสะสม 1,237 ล้านบาท จนต้อง จัดทีมเฉพาะกิจ และใช้ 5 แผนในการเข้ามาแก้ไข ปัญหา ได้แก่

1 ทบทวนการวางแผน ทางการเงิน แสดงว่า ที่ผ่านมา แผน เป็นอย่างไรกัน ?

2 มีการวางแผนงาน การจัดเก็บรายได้ แสดงว่า ที่ผ่านมา หละหลวม กับการแสวงหารายได้ จนต้องมา กระชับพื้นที่ เรียกเก็บให้เป็นรายได้

3 ปรับกระบวนการ จัดซื้อ จัดจ้าง แสดงว่า มองเห็นประเด็นปัญหาข้อนี้ ทั้งที่เป็น หัวใจของรายจ่าย ที่อาจ รั่วไหลได้

4 ค่าตอบแทน ที่อาจต้องทบทวน พบว่า มีอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้น ร้อยละ 22 คนมาก แต่ประสิทธิภาพงาน อาจเดินสวนทางกัน

5 สื่อสารให้ ชัดเจน แสดงว่า ก่อนหน้าเป็นแดนสนธยา หรือไร ?

แผนทั้ง 5 ล้วนเป็นแผนงานพื้น ๆ ที่ผู้บริหารต้องเป็นผู้นำองค์กร ในการลงมือภาคปฎิบัติ และนำไปสู่เป้าหมายองค์กร เมียงๆมองๆ เบาหวิว จะแก้ไขวิกฤติได้ หรือไม่ ต้องติดตามกันนะ…

ยังมีอีกบางเสียง ของนักสังคมสงเคราะห์ ระบุว่า โรงพยาบาลของรัฐ จะมาพูดเรื่องกำไร ขาดทุน ไม่ได้นะ หาก เงินไม่พอ รัฐบาลต้องจัดสรรให้

ว่าแต่ว่า จังหวะนี้ รัฐบาลเองก็ เงินขอดแห้งมาก กู้ก็ชนเพดานแล้ว จึงต้องหาอีเว้นท์ มีการดึงเงินออกจากมือประชาชน แบบถูกจริต เช่น หวยผู้สูงอายุ, G-Token, กาสิโน เงินร้อนทั้งนั้น….

คุณล่ะ?….. บริจาคให้ “โรงหมอ” กับบริจาคให้ “วัด” ตัดสินใจ อย่างไร กันล่ะ ???