🔍 พบต่างด้าวลักลอบค้าประเวณี

📍 ตรวจค้นกลางหมู่บ้านพิมานชล 2

🕵️‍♂️ วางแผนใช้สายลับจับคาหนังคาเขา

🧾 ไม่มีใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง

👮‍♂️ แจ้งข้อหา-ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ เอนสาร ผกก.1 บก.ทท.2 พร้อมด้วย พ.ต.ท.รัฐปิติ ประเสริฐสม สวญ.ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.2 และ พ.ต.ท.โสรัจ วิชยสุทธิ์ สวญ.ตม.จว.ขอนแก่น สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง, กอ.รมน., ฝ่ายปกครอง และกรมการจัดหางาน เข้าตรวจสอบร้าน Secret Club ภายในหมู่บ้านพิมานชล 2 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบจ้างแรงงานต่างชาติโดยผิดกฎหมาย และอาจมีการกระทำผิดอื่นแอบแฝง

เจ้าหน้าที่ได้วางแผนเข้าตรวจสอบโดยใช้สายลับเข้าทำการใช้บริการภายในร้าน โดยสายลับได้นำธนบัตรชนิด 100 บาท จำนวน 10 ฉบับ และธนบัตร 500 บาท จำนวน 2 ฉบับ เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการให้บริการที่ผิดกฎหมาย พร้อมทั้งมีการติดต่อสื่อสารทางแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อให้สามารถเปิดฟังเสียงสนทนาเป็นหลักฐานได้

เมื่อสายลับส่งสัญญาณ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ และเข้าทำการตรวจค้นภายในห้องหมายเลข A1 พบชายชาวต่างชาติอยู่กับสายลับ โดยทั้งสองฝ่ายอยู่ในสภาพเปลือยกาย และบริเวณด้านข้างที่นอนพบถุงยางอนามัยยี่ห้อ SPICE จำนวน 2 ชิ้น โดยฉีกซองแล้ว 1 ชิ้น และเจลหล่อลื่นวางอยู่ในห้องดังกล่าว

จากการตรวจสอบทราบว่าบุคคลดังกล่าวคือ นายสิทธิ์ อายุ 22 ปี สัญชาติลาว เดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2568 แต่ไม่พบเอกสารอนุญาตทำงานแต่อย่างใด

พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ เอนสาร ผกก.1 บก.ทท.2 กล่าวว่า จากการสอบถาม นายสิทธิ์ ให้การว่าได้ทำงานภายในร้าน Secret Club มาแล้วประมาณ 1 เดือน โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 1,600 บาท และจะถูกหักเงินจำนวน 600 บาท เป็นค่าห้องพักและค่าบริการต่างๆ โดยมีนายวัชระ  เป็นเจ้าของร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นว่าเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน (นวด) ตามมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 และร่วมกันค้าประเวณี พร้อมทั้งแจ้งสิทธิและควบคุมตัวไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีต่อไป

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์