🥤 น้ำอัดลม-ไส้กรอก เสี่ยงฟอสฟอรัสเกิน
🧂 อาหารเค็ม-หมักดอง ทำไตพังช้าๆ
🍖 โปรตีนสูงเกิน-เนื้อแดง ทำไตล้า
เว็บไซต์ SOHA รายงานกรณีโปรแกรมเมอร์วัย 30 ปี ซึ่งพบว่าไตทำงานผิดปกติหลังเข้ารับการตรวจสุขภาพ ทั้งที่สุขภาพโดยรวมดูแข็งแรงดี เมื่อตรวจสอบพฤติกรรมพบว่าเขาดื่มน้ำอัดลมชนิดหนึ่งถึงวันละ 2 ขวดโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังทำร้ายไตอย่างต่อเนื่อง แพทย์เผยว่าอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดที่เราบริโภคในชีวิตประจำวัน อาจเป็น “ฆาตกรเงียบ” ของไตได้
หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ อาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง โดยเฉพาะอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม และเนื้อสัตว์แปรรูปที่มักเติมฟอสเฟต เพื่อเพิ่มความนุ่มลื่น ฟอสฟอรัสในรูปแบบอนินทรีย์เหล่านี้สามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้เกือบ 100% แต่หากได้รับเกินวันละ 800 มิลลิกรัม อาจส่งผลเสียต่อไตได้โดยไม่รู้ตัว
เครื่องดื่มอย่างน้ำอัดลม โดยเฉพาะ “โคล่า” มีฟอสฟอรัสในปริมาณสูง รวมถึงน้ำตาลจำนวนมากที่เพิ่มภาระให้กับไต ข้อมูลระบุว่าเพียง 1 กระป๋องก็ให้ฟอสฟอรัสเกือบ 1 ใน 3 ของที่ควรได้รับต่อวัน การดื่มเป็นประจำสามารถทำให้ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูงเกิน ซึ่งเป็นอันตรายต่อไต
อีกหนึ่งกับดักของผู้รักสุขภาพคือ ถั่วชนิดต่างๆ เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์และอัลมอนด์ ซึ่งแม้มีสารอาหารสูง แต่ในปริมาณ 100 กรัมกลับมีฟอสฟอรัสสูงกว่า 500 มิลลิกรัม ทำให้ผู้ที่มีปัญหาไตควรบริโภคอย่างระมัดระวัง
อาหารเค็มจัด ยังเป็นศัตรูตัวร้ายของไตเช่นกัน โดยอาหารหลักอย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมปัง หรืออาหารหมักดอง เช่น เบคอนและผักดอง มักมีโซเดียมสูงมาก ซึ่งโซเดียมที่เกินความจำเป็นจะทำให้เกิดภาวะบวมน้ำ ความดันโลหิตสูง และส่งผลเสียต่อการทำงานของไตในระยะยาว
เครื่องปรุงรสทั่วไป เช่น ซอสหอยนางรมและซีอิ๊ว ก็มีโซเดียมสูงมาก โดยเพียงแค่ 1 ช้อนโต๊ะ ก็ให้โซเดียมถึง 400 มิลลิกรัม คำแนะนำคือควรใช้เครื่องปรุงจากธรรมชาติ เช่น หอมใหญ่ ขิง หรือกระเทียม เพื่อเพิ่มกลิ่นรสแทน
กลุ่มสุดท้ายคือ อาหารโปรตีนสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ออกกำลังกายและนิยมเสริมผงโปรตีนแบบเข้มข้น โปรตีนส่วนเกินเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นยูเรีย ทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นกว่าปกติ โดยปริมาณโปรตีนที่แนะนำคือวันละ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
การบริโภคเนื้อสัตว์ในปริมาณมากเกินไป โดยเฉพาะเนื้อแดง ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงเพราะมีสารพิวรีนที่กระตุ้นให้เกิดกรดยูริกในร่างกาย จึงควรลดปริมาณการกินและหันไปเลือกผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทดแทน เช่น เต้าหู้ หรือถั่วหมัก
สำหรับอาหารทะเล โดยเฉพาะหอยนางรมและหอยเชลล์ ซึ่งมีสารพิวรีนสูง แม้จะบริโภคได้ในปริมาณน้อย แต่ไม่ควรกินเป็นประจำ
อาการที่อาจบ่งชี้ว่าไตกำลังส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ได้แก่ ตาบวมในตอนเช้า ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน และปัสสาวะมีฟอง ซึ่งอาจเป็นอาการเริ่มต้นของภาวะไตเสื่อม ดังนั้นจึงควรตรวจปัสสาวะเป็นประจำทุกปี และผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปี ควรเข้ารับการตรวจการทำงานของไตเพิ่มเติม
แนวทางง่ายๆ ในการดูแลสุขภาพไต ได้แก่ การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอวันละ 1,500–2,000 มิลลิลิตร ลดการบริโภคอาหารแปรรูปและอาหารที่มีโซเดียมสูง หลีกเลี่ยงน้ำอัดลม และหันมาเลือกใช้เครื่องปรุงจากสมุนไพรธรรมชาติในการปรุงอาหารแทน เพื่อถนอมการทำงานของไตให้อยู่กับเราไปนานๆ
#ไตวายไม่รู้ตัว
#อาหารทำลายไต
#น้ำอัดลมภัยเงียบ
#ลดเค็มลดเสี่ยง
#ดูแลไตด้วยอาหาร
ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์

Leave a Response