💊 ไมเกรนไม่หาย…ทำไมหมอให้ยาต้านเศร้า? เผยคำตอบจากงานวิจัย

_f47f03c2-2005-4733-9539-9b8e73775819

🧠 สารเคมีในสมองเชื่อมโยงไมเกรน-ซึมเศร้า
💉 ยา TCA ช่วยลดความไวของเส้นประสาท
📉 ลดความถี่-รุนแรงของไมเกรนเรื้อรัง
⚠️ มีผลข้างเคียง ต้องใช้ภายใต้แพทย์ดูแล
📋 ปรับการรักษาเฉพาะบุคคล หยุดยาเองอันตราย

หลายคนที่ไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการไมเกรน อาจแปลกใจเมื่อได้รับ “ยาต้านเศร้า” กลับมาแทนยาแก้ปวดทั่วไป ซึ่งสร้างความสงสัยไม่น้อยว่าเหตุใดหมอจึงใช้ยาประเภทนี้ ทั้งที่ผู้ป่วยไม่ได้มีภาวะซึมเศร้า

คำตอบคือ ยาต้านเศร้าบางชนิด โดยเฉพาะกลุ่ม ไตรไซคลิก (Tricyclic Antidepressants – TCA) อย่าง Amitriptyline นั้น ไม่ได้มีหน้าที่เฉพาะในเรื่องการรักษาภาวะซึมเศร้าเท่านั้น แต่ยังมี “ฤทธิ์ช่วยควบคุมการตอบสนองของสมองต่อความเจ็บปวด” ได้ด้วย ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการบรรเทาอาการของโรคไมเกรน

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่แพทย์เลือกใช้ยาต้านเศร้า คือความเชื่อมโยงของสารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) และ นอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine) ซึ่งมีบทบาทสำคัญทั้งในการควบคุมอารมณ์และการรับรู้ความเจ็บปวด หากสมดุลของสารเคมีเหล่านี้ผิดปกติ อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรือไมเกรนได้ทั้งคู่

ยาต้านเศร้าจะช่วย ปรับสมดุลของสารเคมีในสมอง ลดความไวของเส้นประสาท และลดการตอบสนองต่อความเจ็บปวด จึงสามารถใช้ “ป้องกันและลดความถี่ของการเกิดไมเกรน” โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการเรื้อรัง หรือมีอาการไมเกรนบ่อยครั้งจนกระทบคุณภาพชีวิต

อย่างไรก็ตาม ยาต้านเศร้าก็มีข้อควรระวังเช่นเดียวกัน เพราะอาจมีผลข้างเคียง ได้แก่

  • ง่วงนอนหรืออ่อนเพลีย
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้น
  • ปากแห้ง
  • เวียนศีรษะ

ดังนั้น การใช้ยานี้ควรอยู่ภายใต้ การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยแพทย์จะพิจารณาอย่างรอบคอบว่าเหมาะกับผู้ป่วยรายใด และควรใช้ขนาดใดจึงจะได้ผลดีและปลอดภัยที่สุด ห้ามหยุดยาเองหรือปรับขนาดยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิดได้

หากคุณกำลังเผชิญกับไมเกรนเรื้อรัง และกำลังอยู่ในแผนการรักษาด้วยยาต้านเศร้า การเข้าใจกลไกการทำงานของยาจะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้น และสามารถประเมินผลการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

#ไมเกรนเรื้อรัง
#ยาต้านเศร้ารักษาไมเกรน
#Amitriptylineช่วยไมเกรน
#ไมเกรนกับสมอง
#โรคปวดหัวต้องดูแล

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง