เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เวลา 07.24 น. กล้องวงจรปิดในหมู่บ้านนาโพธิ์ หมู่ 2 ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น บันทึกภาพรถกระบะคอกสีแดงเลือดหมูขับเข้าหมู่บ้านด้วยความเร็ว โดยมีชายคนหนึ่งยืนอยู่หลังกระบะและถีบกระสอบสีขาวจำนวน 10 กระสอบ ซึ่งภายในบรรจุยาไอซ์กระสอบละ 10 กิโลกรัม รวม 100 กิโลกรัม ลงกลางถนน ท่ามกลางชาวบ้านที่กำลังสัญจรไปทำงานยามเช้า

ต่อมาเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถติดตามและจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 คน พร้อมรถกระบะป้ายทะเบียนจังหวัดชัยนาท 2 คัน โดยเจ้าหน้าที่จากกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 2 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หน่วยข่าวกรองทางทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี สถานีตำรวจภูธรบ้านฝาง ตำรวจทางหลวง และฝ่ายปกครอง ได้นำผู้ต้องหามาชี้จุดที่ทิ้งกระสอบยาไอซ์ลงกลางถนน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปขยายผลต่อที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด

นายสมัย นิยมวัน อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้านนาโพธิ์ หมู่ 2 ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกระสอบบางอย่างตกอยู่กลางถนน เกรงว่าจะเป็นสารเคมี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เมื่อเห็นกระสอบยังไม่ทราบว่าเป็นยาไอซ์ คิดว่าอาจเป็นสารส้มหรือสารเคมีบางอย่าง กระทั่งประมาณ 5 นาทีต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถตามมาและตรวจยึดกระสอบดังกล่าว ซึ่งภายหลังทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าภายในบรรจุยาไอซ์

พ.ต.อ.กรภพ เนตรไธสง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านฝาง เปิดเผยว่า ยาไอซ์ที่ขบวนการดังกล่าวนำมาทิ้งในพื้นที่อำเภอบ้านฝาง เป็นผลจากการที่เจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดไล่ล่าติดตามมาตั้งแต่กลางคืนที่ผ่านมา โดยขบวนการค้ายาเสพติดลำเลียงยาไอซ์จากประเทศเพื่อนบ้านผ่านอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เข้าสู่พื้นที่อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น เมื่อรู้ตัวว่าถูกเจ้าหน้าที่ติดตาม จึงเร่งเครื่องหลบหนีเข้าพื้นที่อำเภอบ้านฝาง และทิ้งกระสอบบรรจุยาไอซ์จำนวน 10 กระสอบ กระสอบละ 10 กิโลกรัม รวม 100 กิโลกรัม ลงกลางถนนบริเวณเส้นทางระหว่างบ้านนาดอกไม้ – บ้านนาโพธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านฝาง ก่อนหลบหนีเข้าสู่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มุ่งหน้าไปยังจังหวัดอุดรธานี กระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับผู้ต้องหาได้ในพื้นที่ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี และได้นำตัวมาชี้จุดที่ทิ้งของกลางในหมู่บ้านดังกล่าว

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์