☕ ดื่มกาแฟแล้วไมเกรนหายหรือแย่ลง? ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

_dbfb70ee-494c-4245-84d0-63e7bff5c859

🧠 คาเฟอีนช่วยลดไมเกรนในบางคน
⚠️ บางคนไวต่อคาเฟอีน อาจทำให้อาการแย่ลง
🔄 ถอนคาเฟอีนอาจทำให้ปวดหัว
📅 แนะนำไม่ควรดื่มกาแฟทุกวัน
🩺 ต้องรู้จักร่างกายตัวเองก่อนดื่มกาแฟรักษาไมเกรน

หลายคนอาจเคยได้ยินว่า “กาแฟช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน” แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผลของกาแฟต่อไมเกรนไม่เหมือนกันในทุกคน บางคนดื่มแล้วอาการดีขึ้น ขณะที่บางคนกลับปวดหัวหนักขึ้น จากบทความที่เผยแพร่ล่าสุด ชี้ให้เห็นว่าความแตกต่างนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะทางร่างกายและความไวต่อคาเฟอีนของแต่ละบุคคล

ในกรณีของผู้ที่ดื่มกาแฟแล้วอาการไมเกรนดีขึ้น คาเฟอีนในกาแฟมีคุณสมบัติกระตุ้นให้หลอดเลือดในสมองหดตัว ซึ่งสามารถช่วยลดการขยายตัวของหลอดเลือดที่เป็นสาเหตุหนึ่งของไมเกรน การหดตัวนี้ทำให้ความดันในเส้นเลือดสมองลดลง จึงช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ โดยเฉพาะเมื่อนำมาใช้ร่วมกับยาแก้ปวดบางประเภท คาเฟอีนยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยาเหล่านั้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับผลดีแบบเดียวกัน จากข้อมูลในบทความ ระบุว่าในบางคนที่มีความไวต่อคาเฟอีนสูง คาเฟอีนอาจกระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือดแทน และนั่นอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนรุนแรงขึ้นหลังจากการดื่มกาแฟ นอกจากนี้ หากดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวัน ร่างกายอาจเกิดการปรับตัว และหากหยุดดื่มทันที อาจเกิดอาการ “ถอนคาเฟอีน” (Caffeine withdrawal) เช่น ปวดหัว อ่อนเพลีย หรืออารมณ์แปรปรวน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจกระตุ้นไมเกรนได้

สำหรับผู้ที่เป็นไมเกรนและยังต้องการดื่มกาแฟ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:

  • ไม่ควรดื่มกาแฟทุกวัน เพื่อป้องกันภาวะถอนคาเฟอีนและการพึ่งพาสารกระตุ้น
  • จำกัดการดื่มกาแฟไม่เกิน 3 วันต่อสัปดาห์
  • หากพบว่ากาแฟช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้ ก็สามารถใช้เป็นวิธีหนึ่งในการดูแลตนเอง
  • หากดื่มแล้วอาการแย่ลง ควรงดกาแฟทันที

บทสรุปสำคัญคือ กาแฟมีทั้งข้อดีและข้อเสียต่อผู้ที่เป็นไมเกรน จึงควรสังเกตร่างกายของตนเอง และปรับพฤติกรรมการบริโภคให้เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้กาแฟกลายเป็นตัวกระตุ้นไมเกรนมากกว่าที่จะเป็นการบรรเทาอาการ

#ไมเกรนกับกาแฟ
#คาเฟอีนดีหรือร้าย
#สุขภาพสมอง
#บรรเทาปวดหัวธรรมชาติ
#กาแฟควรดื่มอย่างไร

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง