เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) ประกาศยกเว้นการแต่งกายลูกเสือในสถานศึกษาสังกัดกระทรวง เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและอากาศในแต่ละพื้นที่ ทำให้เกิดความสับสนในกลุ่มผู้ปกครองว่าต้องซื้อชุดลูกเสือหรือไม่

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านจำหน่ายชุดนักเรียนบริเวณถนนศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าผู้ปกครองยังคงทยอยพาบุตรหลานมาเลือกซื้อชุดนักเรียนอย่างคึกคัก แต่หลายคนยังรอฟังประกาศจากทางโรงเรียนเกี่ยวกับการใส่ชุดลูกเสือ ขณะที่ผู้ประกอบการร้านค้าชุดนักเรียนโอดว่า สั่งชุดลูกเสือมาจำหน่ายไว้แล้วแต่กลับขายไม่ออก เพราะมีการยกเลิกกะทันหัน

นางน้ำอ้อย  ผู้ปกครองรายหนึ่งกล่าวว่า กำลังรอดูแนวทางจากโรงเรียน ถ้าหากยกเลิกจริงก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ แม้ว่าบางครอบครัวมีชุดลูกเสืออยู่แล้วเพียงแต่ต้องเปลี่ยนเครื่องหมายเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เธอมองว่าหากนักเรียนแต่งชุดลูกเสือเหมือนกันจะทำให้ดูเรียบร้อย แต่ก็เข้าใจว่าการยกเลิกจะเป็นผลดีกับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ซื้อชุด

ขณะที่ น.ส.สุภารัตน์ อายุ 39 ปี ผู้ปกครองอีกคนกล่าวว่า ครอบครัวของเธอยังไม่ได้ซื้อชุดลูกเสือ เนื่องจากมีความสับสนอยู่ และหากต้องซื้อชุดลูกเสือให้ลูกชายทั้งสองคนพร้อมกันจะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 600-900 บาทต่อชุด ดังนั้นการยกเลิกจะช่วยประหยัดเงินได้มาก รวมถึงลดความเสี่ยงด้านสุขภาพในสภาพอากาศร้อนจัดซึ่งอาจทำให้เด็กเป็นฮีทสโตรกได้

ด้านนายสมชัย แท่นวัฒนกุล อายุ 68 ปี เจ้าของร้าน “มีอาภรณ์” ร้านจำหน่ายชุดนักเรียนในพื้นที่ กล่าวว่า ปีนี้ยอดขายลดลงกว่า 40% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยทางร้านได้สั่งสินค้าเตรียมไว้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และมองว่ากระทรวงศึกษาธิการควรประกาศนโยบายล่วงหน้าเพื่อให้ร้านค้าและผู้ปกครองมีเวลาปรับตัว ไม่ใช่ออกประกาศกะทันหันเช่นนี้ซึ่งทำให้ได้รับผลกระทบหนัก

นายสมชัยยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ความสับสนในกลุ่มผู้ปกครองเกี่ยวกับการซื้อชุดลูกเสือ ทำให้การขายชุดนักเรียนปีนี้ตกต่ำอย่างมาก และหากมีการยกเลิกการใส่ชุดนักเรียนในอนาคต อาจทำให้ระบบการแต่งกายของนักเรียนขาดระเบียบเรียบร้อยซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์