แตงโมเป็นผลไม้ที่มีน้ำเยอะและรสชาติหวานฉ่ำ ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากช่วยเพิ่มความสดชื่นและมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก แต่การรับประทานแตงโมในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด ดังนั้น นี่คือคำแนะนำเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการกินแตงโม
-
- ช่วงเช้า
การกินแตงโมในช่วงเช้าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะร่างกายต้องการน้ำและพลังงานหลังจากการนอนหลับตลอดคืน แตงโมมีน้ำมากถึง 90% และมีคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย จึงช่วยเติมความชุ่มชื้นและเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ช่วยให้สดชื่นตลอดทั้งวัน - ก่อนออกกำลังกาย
แตงโมมีน้ำตาลธรรมชาติที่ให้พลังงานรวดเร็ว การกินแตงโมก่อนออกกำลังกายประมาณ 30 นาที จะช่วยเพิ่มพลังงาน และด้วยสารแอนติออกซิแดนท์ในแตงโม เช่น ไลโคปีนและวิตามินซี ยังช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้ดีอีกด้วย - หลังออกกำลังกาย
หลังจากออกกำลังกาย ร่างกายสูญเสียน้ำและแร่ธาตุ การกินแตงโมจะช่วยชดเชยน้ำที่สูญเสียไป และยังช่วยลดการอักเสบของกล้ามเนื้อจากการออกแรงหนัก - ช่วงบ่าย
เมื่อรู้สึกล้าหรือง่วงช่วงบ่าย แตงโมเป็นของว่างที่ดี เพราะมีน้ำมากและแคลอรีต่ำ ช่วยเพิ่มความสดชื่นและพลังงานอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก - หลีกเลี่ยงการกินก่อนนอน
การกินแตงโมก่อนนอนอาจทำให้ต้องตื่นมาปัสสาวะกลางดึก เนื่องจากมีน้ำเยอะ นอกจากนี้ การรับประทานน้ำตาลมากในช่วงเวลากลางคืนอาจทำให้ร่างกายไม่ได้เผาผลาญอย่างเหมาะสมและรบกวนการนอน
- ช่วงเช้า
ประโยชน์ของแตงโม
-
- ช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้น: แตงโมมีน้ำมาก จึงช่วยป้องกันการขาดน้ำ
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: วิตามินซีในแตงโมช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ลดการอักเสบ: ไลโคปีนในแตงโมเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบ
สรุป
การกินแตงโมในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น ช่วงเช้า ก่อนหรือหลังออกกำลังกาย และช่วงบ่าย จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารและประโยชน์สูงสุด แต่ควรหลีกเลี่ยงการกินก่อนนอน เพื่อไม่ให้รบกวนการนอนและการเผาผลาญของร่างกาย
Leave a Response