คนเสื้อแดงขอนแก่น พร้อมรับ “ทักษิณ” ที่โคราช นับเป็นการเดินทางมาภาคอีสานในรอบ 18 ปี

IMG_5004

คนเสื้อแดงขอนแก่น พร้อมรับ “ทักษิณ” พร้อมใจกันใส่เสื้อสีแดง ถือธงสีแดง มายืนรอรับคุณทักษิณ ประธานงานศพ “วิชัย ช่างเหล็ก” ที่โคราช 

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 15 พ.ค.2567 ที่ศูนย์ประสานงานเครือข่ายสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 111/1 หมู่บ้านเลคไซค์การ์เด้นวิลล์ ริมบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผศ.ดร.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานและอดีตแกนนำคนเสื้อแดงขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้คนเสื้อแดงในภาคอีสานตื่นเต้นและดีใจที่จะได้พบกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาภาคอีสานในรอบ 18 ปี ภายหลังจากที่มีความชัดเจนว่า นายทักษิณ นายกรัฐมนตรีในดวงใจ จะเดินทางมาเป็นประธานงานฌาปนกิจศพ นายวิชัย ช่างเหล็ก คนขับรถคู่ใจ ในงานฌาปนกิจศพในวันที่ 25 พ.ค.ที่วัดสังฆชินาราม ม.3 ต.โนทอง อ.สีดา จ.นครราชสีมา 

โดยขณะนี้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง,กลุ่มแนวร่วม นปช.แม้กระทั่งคนที่รักในตัวคุณทักษิณ มีการนัดหมายและพูดคุยถึงการเดินทางมาต้อนรับ ให้กำลังใจและพบปะกับคนที่ทุกคนรอคอยมานานกว่า 18 ปี โดยคาดการณ์คนเสื้อแดงทั้งภาคอีสานอย่างน้อยจังหวัดละ 1-2 คันรถตู้นับรวมกว่า 1,000 คนจะพร้อมใจกันใส่เสื้อสีแดง ถือธงสีแดง มายืนรอรับคุณทักษิณ ที่วัดตั้งแต่เวลา 12.00 น.ในวันที่ 25 พ.ค.ที่จะถึงนี้

 “ทุกวันนี้สังคมมองว่าทุกคนกำลังแกล้งพระเอก ใส่ร้ายพระเอก ซึ่งก็ทำให้คนไทยกว่า 10 ล้านคนที่ให้การสนับสนุนและรักในคุณทักษิณ นั้นเห็นใจและให้กำลังใจ วันที่ 25 พ.ค.ที่จะถึงนี้จะเป็นจุดที่แสดงให้เห็นว่าพลังรักและพลังศรัทธานั้นมีมากขนาดไหน ซึ่งโดยส่วนตัวได้มีการประสานท่านรัฐมนตรีและแกนนำในระดับพื้นที่ ในการร่วมติดธงสีแดงบริเวณโดยรอบหมู่บ้านและในจุดที่คุณทักษิณจะเดินทางไป และการพร้อมใจสวมใส่เสื้อสีแดงเพื่อแสดงพลังรัก พลังศรัทธาและแม้ว่าจะไม่ได้ใกล้ชิดแต่ก็จะพยายามยืนตั้งแถวในจุดที่ใกล้ที่สุด เพื่อให้ได้จับมือ และพูดคุยกับคุณทักษิณและแม้จะเข้าไม่ถึงคนเสื้อแดงเชื่อว่าเราทุกคนมองตาก็รู้ใจกันแล้ว”

ผศ.ดร.พรรณวดี ยังกล่าวถึงการตายของน.ส.เนติพร  เสน่ห์สังคม หรือบุ้งทะลุวัง ว่า โดยส่วนตัวเสียใจกับการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร  เสน่ห์สังคม หรือบุ้งทะลุวัง ซึ่งเสียชีวิตระหว่างอดอาหารประท้วงเรียกร้องสิทธิ์การประกันตัวของผู้ต้องหาคดีการเมือง ซึ่งยอมรับว่าน้องมีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ในการเรียกร้องสิทธิ์ในระบอบประชาธิปไตย แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าใครหนุนหลัง ใครส่งเสริม และใครสนับสนุน ดังนั้นคนที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้น้องบุ้งทำจนนำมาสู่การเสียชีวิตและการสูญเสียของคนในครอบครัว ก็ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือกระทำการใดๆให้กับครอบครัวน้อง เพื่อเป็นการเยียวยา ไม่ใช่นิ่งเงียบ เพราะเราทุกคนรู้ว่าการต่อสู้กันเพื่อเรียกร้องการได้มาซึ่งประชาธิปไตยนั้นเราผ่านอะไรกันมาแล้วบ้าง เป็นภาพจำที่ทุกคนนั้นไม่มีวันลืมเลือน

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง