รัฐธรรมนูญ กับ การแก้ไข ด้วยเงิน 3,200 ล้านบาท

IMG_3910

“ปะจัน” โดย “เขี้ยวจัน”

ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้ เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก “ตัวแทน” ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม…[ หน้ารวมบทความ ปะจัน ]

   กฎหมายสูงสุดที่ใช้ปกครองประเทศ คือ กฎหมายรัฐธรรมนูญ” ฉบับล่าสุดที่มีการประกาศใช้ คือ ฉบับที่ 20 เมื่อปี 2560

มาบัดนี้ คร.รัฐบาลชุดปัจจุบัน รัฐบาลเศรษฐามีมติให้มีการแก้ไข โดยอนุมัติเงิน จำนวน 3,200 ล้านบาท  ด้วยการทำประชามติ,การเลือกตั้ง สสร. ตามระยะเวลา ระบุว่าจะแลวเสร็จในสมัยวาระของรัฐบาลชุดนี้ คือ สุดสิ้นราว ปี 2570

กรอบของงาน ระบุ ไว้ว่า จะมีการออกแบบสอบถาม ประชาชนทั้งประเทศ ในเบื้องต้น อาทิ เห็นด้วยไหม ที่จะแก้ไข ในหมวดที่ 1, หมวดที่ 2 ซึ่ง คือ หมวดที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ มีการเลือกตั้ง สสร. และการมีทำประชามติ อีกรอบ ตามกรอบเวลา

มีคำถาม ตัวโต ว่า มีเหตุอันใด จึงต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการประกาศใช้ มาเพียง 7 ปี และต้องใช้เงินงบประมาณ ดังข้างต้น ทั้งที่ประเทศชาติต้องบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ การดังกลจะทำให้ พี่น้องประชาชน กินดี อยู่ดีขึ้น อย่างไร ?….

หรือเพียง “สมใจ” นักการเมือง เท่านั้น …. เพราะ สาระสำคัญ ประการหนึ่ง ในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 คือ การทุจริต คอร์รัปชั่น ของนักการเมือง จะไม่มีอายุความ และอ่านคำพิพากษา ลับหลังจำเลยได้ แม้จะหนีออกนอกประเทศก็ตาม

ด้วยเงินก้อนเดียวกัน คือ 3,200 ล้านบาท ลองนำมาเทียบเคียง กับงบประมาณแผ่นดินที่เพิ่มีการผ่านร่างงบประมาณแผ่นดิน ปี 2567 กันไป ว่า จำนวนเงินที่ใกล้เคียงกัน ได้มีการจัดสรรไปให้กับกระทรวงใดกันบ้าง

7 กระทรวง จาก 21 กระทรวง เรียงจากท้ายตาราง ที่ได้รับการจัดสรร น้อยสุด ไล่ขึ้นมา ได้แก่

กระทรวงพลังงาน  2,834 ล้านบาท
กระทรวงอุตสาหกรรม  4,559 ล้านบาท
กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา  5,591 ล้านบาท
กระรวงพาณิชย์   6,822 ล้านบาท
กระทรวงวัฒนธรรม  7,016 ล้านบาท
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  8,827 ล้านบาท
กระทรวงการต่างประเทศ  9,009 ล้านบาท

ตัวเลข เทียบเคียง ข้งต้น เราจะเห็น การใช้งบประมาณจากภาษีอากร ของพวกเรา ว่าใช้ไปเพื่อ ประโยชน์อันใดบ้าง ?

ความชาญฉลาด ของการใช้เงินบริหารประเทศ ที่มองการณ์ไกล เพื่อประเทศโดยส่วนรวม ย่อมแสดงถึง วิสัยทัศน์ของ ผู้บริหารประเทศ ที่คนไทยเทียบ “หมัดต่อหมัด” กับประเทศเพื่อนบ้านได้ หรือแม้กระทังจะมาเทียบเคียงกับภายในประเทศเอง

เช่น ท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นำมา เสนอแนะว่า เงิน 5 แสนล้าน หากจะนำมา สร้างบุคลากรทางการแพทย์ ได้ กว่า 130,000 คน และ ให้เด็กนักเรียน เรียนฟรี และสร้างทางรถไฟทางคู่ ได้ 10 สาย และสายสีน้ำเงิน อีก 2 สาย โอวววววว….

ประชาธิปไตย “กินได้” ต้องใช้เงิน 3,200 ล้านบาท แต่คนกินอาจไม่ใช่ ประชาชน เพราะการแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาแล้ว 19ฉบับ พี่น้องประชาชน ร่ำรวย ทำมาหากินกันคล่องปาก คล่องท้องขึ้น ไหม ? ถามกันได้ดังๆ ไม่ต้องทำประชามติ ….

………………

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง