ญาติติดใจ หญิงวัย 57 ปี ชาว อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พบเป็นศพกลางถนน ที่โคราช มีรอยยุบกลางหน้าผาก ถูกทุบด้วยของแข็ง สันนิษฐานสามีใหม่มีส่วนรู้เห็นการตาย พยายามโทรสอบถาม แต่โวยวายมีพิรุธ แถมมาให้ข่าวว่าไปเลี้ยงวัวทั้งที่บอกกับญาติว่าไปทำงาน ขณะที่หลานสาวเผย ยายบ่นตลอดว่าอยากกลับมาที่บ้านขอนแก่น แต่ไม่มีบ้านให้อยู่ และก่อนเสียชีวิตตลอด 1 สัปดาห์ทะเลาะกันหนักกับแฟนใหม่ทุกวัน
จากกรณีเมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 27 เมษายน 25567 กู้ภัยฮุก 31จุด ขามสะแกแสง รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย บริเวณถนนบ้านหนุก ตำบลขามสะแก อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา พอไปถึงที่เกิดเหตุตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนางศรัญญา สอนมณี อายุ 57 ปี แม่ค้าขายไก่ย่าง นอนเสียชีวิตจมกองเลือดลักษณะคว่ำหน้า มีบาดแผลยุบที่บริเวณหน้าผากขนาดใหญ่ ถัดมาพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายล้มอยู่ข้างศพ แต่ไม่มีร่องรอยการถูกเฉี่ยวชน ขณะที่นายวรโชติ มุ่งแฝงกลาง อายุ 42 ปี สามีผู้ตาย ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนเกิดเหตุไปเลี้ยงวัว ส่วนภรรยาขายของอยู่ที่ร้าน กลับมาที่บ้านอีกทีเห็นภรรยานอนเสียชีวิตอยู่ที่กลางถนน ไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ขณะเดียวกันพบผู้ต้องสงสัย เป็นน้องชายของสามีผู้ตายมีอาการคุ้มคลั่ง ซึ่งไม่ทราบว่าคุ้มค่าจากสาเหตุใด เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัวชายคลุ้มคลั่งส่ง รพ.ตรวจหาสารเสพติด พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง โดยอู่ระหว่างการสอบปากคำเพิ่มเติมของตำรวจว่าน้องสามีผู้เสียชีวิต มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตในครั้งนี้หรือไม่
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 80 บ้านทรายมูล หมู่ 2 ต.ทรายมูล อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของผู้เสียชีวิต โดยพบว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกยึดตามกฎหมายตกเป็นทรัพย์สินของบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.มด (นามสมมุติ ขอสงวนชื่อ-สกุล) หลานสาวผู้เสียชีวิต อายุ 22 พาผู้สื่อข่าวเดินดูบ้านของผู้ตาย พร้อมกับเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า บ้านหลังนี้เป็นของยาย เปิดเป็นร้านขายของตั้งแต่ตนเองเรียนอยุ่ชั้นประถมศึกษา แต่ก็ย้ายไปค้าขายที่สุรินทร์ ที่บ้านของลูกชาย ก่อนจะไปอยู่ที่โคราชกับแฟนใหม่ที่คบกันช่วงออกจากบ้านไปได้ 3 ปีและมีครอบครัวใหม่ ก่อนที่ยายจะเสียชีวิต ยายได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวให้ฟังตลอด เพราะปกติตนเองจะสนิทกันกับยายมีอะไรยายก็จะเล่าให้ฟัง ซึ่งยายเคยเล่าให้ฟังว่า แฟนใหม่ที่คบกันหลังจากแยกทางกับสามี มักมีปัญหาทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อยประจำ อาจเพราะช่วงอายุต่างกันมากเพราะยายอายุเกือบจะ 60 ปีแล้ว ส่วนแฟนใหม่ของยายเท่าที่ทราบอายุ 30 กว่าปีเท่านั้น
โดยหลายครั้งที่คุยกับยาย ยายจะพูดบ่อยๆว่าอยากกลับมาบ้าน แต่ไม่มีบ้านให้กลับแล้ว อยู่ที่โคราชก็ไม่มีใครดูแล เวลาป่วยไม่มีคนดูแลเลย และช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่ยายจะเสียชีวิต ยายได้เล่าให้ฟังว่าทะเลาะกันหนักตลอด 1 สัปดาห์ หลังจากที่ญาติทราบข่าวว่ายายเสียชีวิต ก็พยายามโทรสอบถามราละเอียดกับทางแฟนใหม่ของยาย แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไร แถมโดนตะคอกใส่ว่าโทรมาทำไมเป็นสิบสายร้อยสาย บอกแค่ไม่รู้ไม่เห็นไปทำงานที่อื่น ก่อนจะไปให้สัมภาษณ์ว่าเลี้ยยงวัวอยู่หลังบ้าน และเวลาที่ยายกลับมาเยี่ยมญาติๆที่ขอนแก่น หากแฟนใหม่มาด้วยจะไม่มีใครลงจากรถ จะแวะมาทักทายเอาของฝากมาให้แล้วก็กลับทันที จึงไม่มีใครได้เคยคุยหรือสัมผัสนิสัยใจคอแฟนใหม่ของยายเลย กระทั่งสุดท้ายยายเสียชีวิตดังกล่าว
ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นาย ธนูเดช ธรรมสงค์ หลานชายคนตาย อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.9 ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งระหว่างให้สัมภาษณ์กลั้นน้ำตาไม่อยู่เสียใจที่น้าสาวต้องมาเสียชีวิต และ นายสุนทร วอแพง อายุ 43 ปี 26 ม.6 ต.ทรายมูล อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หลานชายของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองทั้งสองคนและญาติๆที่ทราบข่าว ต่างติดใจสาเหตุการเสียชีวิตในเรื่องที่พบศพตามข่าว ก่อนที่จะทราบนั้นมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุโทรศัพท์กลับมาตามเบอร์โทรในสายล่าสุดที่ นางศรัญญา โทรหาเป็นญาติที่อยู่อีกหมู่บ้าน บอกว่าน้าศรัญญาเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดมาก บอกแค่ว่าเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดอุบัติหรือไม่ก็ถูกทำร้าย โดยมีญาติๆที่อยู่ กทม. รวมทั้งลูกชายและลูกสาว มาเดินเรื่องนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ในทางคดีทราบทางข่าวว่าน้องชายสามีใหม่ถูกจับไปแต่ไม่ทราบว่ารับสารภาพหรือไม่ทราบว่ายังอยู่ในอาการคลั่งอยู่
ประเด็นที่ติดใจนั้น ทำไมสามีไม่ทราบเรื่อง ทั้งที่จุดที่เลี้ยงวัวกับจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กัน แต่กลับบอกไม่รู้ไม่เห็น ญาติๆโทรไปก็บอกว่าโทรมาทำไมบ่อยครั้ง เดี๋ยวถ้าทราบเรื่องแล้วจะโทรมาบอก และมีทรัพย์สินหายไปคือสร้อคอทองคำและเงินสดแต่ไม่ทราบจำนวน รวมทั้งโทรศัพท์ผู้ตายและกระเป๋าสตางค์ไปอู่กับสามีได้อย่างไรหลังเกิดเหตุ แต่กลับบอกไม่รู้เรื่อง ญาติๆโทรไปหาก็ถูกโวยวายกลับจนทะเลาะกัน ที่เราโทรไปเราก็อยากจะรู้รายละเอียดของเหตุการณ์ พอทราบข่าวต่างคนก็ต่างเสียใจ ในส่วนของศพอยู่ระหว่างรับกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดวัดศรีบุญเรือง ในหมู่บ้าน โดยเผาในวันอังคารที่ 30 เม.ยย.2567นี้
ในส่วนประเด็นที่ติดใจอีกประเด็นคือ ลักษณะเหตุการณ์เหมือนการจัดฉาก เอนรถจักรยานยนต์ให้ล้มลงเหมือนว่าเกิดอุบัติเหตุ แต่สภาพนั้นจากข้อสันนิษฐานมองยังไงก็เหมือนจัดฉาก ทำไม่เนียนเอามาตะแคงไว้เฉยๆ และห่างจากศพหลายเมตร โดยศพอยู่กลางถนนติดกับร้านไก่ย่างที่น้าศรัญญาขาย และหลังร้านก็เป็นบ้านถัดไปเป็นจุดที่เลี้ยงวัว การสงสัยนั้นสงสัยว่าสามีมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะทีแรกบอกเราว่าทำงานอยู่ที่อู่ แต่มาให้ข่าวว่าเลี้ยงวัวอยู่ ซึ่งพูดไม่ตรงกัน ทำให้เกิดความสงสัยและตั้งข้อสันนิษฐานได้ว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ในส่วนของผู้ตายนั้นไปอยู่ต่างจังหวัดได้ 3 ปี ก็ได้มีครอบครัวใหม่ อาศัยอยู่กับสามีใหม่ แม่สามี น้องชายสามี และหลานสาวตัวเองวัยกำลังขึ้นชั้นป.1 และขายอาหารอีสานกับสามีใหม่ ก่อนจะเกิดเหตุ ที่ผ่านมาน้าจะมาร่วมงานบุญต่างๆในหมู่บ้านจะมากับหลานสาว หรือกับลูกๆ สามีใหม่จะไม่มา ด้วย กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว//////////////
Leave a Response