รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวน เร่งคลี่คลายคดีฆ่ารัดคอสาวยัดกระสอบปุ๋ยเอาเสื่อมาพันทิ้งในไร่มันสำปะหลัง และพบว่ารถจักรยานยนต์หายไป พ่อแม่คนตาย ขอให้จับคนร้ายได้โดยเร็วอยากจะถามว่าทำลูกสาวทำไม พร้อมเผยลูกสาวมาเข้าฝันญาติที่กทม.บอกถูกชายสามคนฆ่า และเข้าฝันแม่ยังห่วงลูกเล็กทั้งสอง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 เม.ย.67 ที่ ภ.จว.ขก. พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ รอง ผบก.ภ.จว.ขก. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประศาสตร์  แน่นอุดร ผกก.สภ.กระนวน พ.ต.ท.วงศกร วันชัย รอง ผกก.สส.สภ.กระนวน พ.ต.ท.สุพรรณ สุขพิไลกุล รอง ผกก.(สอบสวน) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระนวน ประชุมเร่งรัดคดีติดตามคนร้าย กรณีพบศพ นางสาวศศิธร บัวมาตย์ หรือหนุ่ย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.6 ต.หนองโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น สวมกางเกงยีนส์ขายาว ถูกพันกระสอบปุ๋ยและห่อพันด้วยเสื่อ ถูกทิ้งไว้ที่ริมไล่มันสำปะหลังทิศใต้บ้านน้ำสามวัง หมู่ 3 ตำบลหัวนาคำ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นและชุดสืบสวนสภ. กระนวน เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 116 บ้านศรีประชาใหม่ หมู่6 ต.หนองโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น บ้านของผู้เสียชีวิต และได้พบกับนายคำไส บัวมาตย์ อายุ 58 ปี และนาง สุคนธ์ บัวมาตย์ อายุ 55 ปี พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งยังคงต้องการให้ทางตำรวจช่วยเร่งติดตามคนร้ายที่ฆ่าลูกสาวอย่างโหดเหี้ยม พร้อมทั้งมีลูกๆของผู้เสียชีวิต โดยลูกสาวเรียนอยู่ ป.6และลูกชายเรียนอยู่ชั้น อนุบาล 3 พร้อมทั้งญาติพี่น้องต่างขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยพ่อกับแม่บอกว่า ทางคดีขณะนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างแกะรอยวงจรปิด ตามหารถจักรยานยนต์ที่ลูกสาวยืมเพื่อนไปก่อนหายตัวไป และพบเป็นศพสวมเสื้อผ้าชุดเดียวกันกับที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวในตัวอำเภอ เป็นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สปาร์ค 135 สีดำ-เทา หมายเลขทะเบียน งขร796ขอนแก่น ซึ่งยังไม่พบเบาะแส

นายคำไส บัวมาตย์ อายุ 58 ปี พ่อผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ตอนนี้ครอบครัวเผาศพลูกสาวไปแล้วเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ภายหลังพบศพเมื่อเย็นวันที่ 19 มีนาคม 2567 ที่ไร่มันสำปะหลังห่างจากถนน กระนวน – ท่าคันโท พื้นที่ หมู่ 3 บ้านน้ำสามวัง ต.หนองนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ปกติลูกสาวไม่ค่อยอยู่บ้าน หลังจากลูกสาวเลิกกับแฟนเก่า ก็ออกจากบ้านไปคบกับแฟนใหม่ได้ปีกว่า เป็นช่างซ่อมในตลาดหนองโน แต่ก็เลิกรากันไป แต่ก็ยังมีพูดคุยกันบ้าง ลูกสาวส่งเงินมาให้ลูก ช่วยค่าอยู่ค่ากินและค่าเรียนลูก แต่ก็ไม่ทราบว่าลูกไปไหนทำอะไรกับใคร มีแต่คุยกันทางโทรศัพท์ ว่าทำงานที่รีสอร์ทและพักที่รีสอร์ท และมีเพื่อนทำงานด้วยกันหลังจากเลิกรากับแฟนคนล่าสุด แต่เรื่องส่วนตัวไม่เคยทราบเลย 

กระทั่งผ่านไปนานไม่มีการติดต่อและพบศพที่ไร่มันสำปะหลังของเถ้าแก่ชาว อ.น้ำพอง พบเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 หลังจากพอถึงช่วงเก็บผลผลิตมัน เจ้าของไร่มันให้คนงานเข้าไปสำรวจเพื่อจะเก็บเกี่ยว ก็พบศพดังกล่าว ซึ่งมีกลิ่นขึ้นอืดแล้วถูกยัดใส่ในกระสอบปุ๋ย พันด้วยเสื่ออีกชั้นทิ้งในร่องน้ำในสวนมัน  โดยพบเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่บอกว่าตายมาประมาณ 48 ชม.แล้ว และเจ้าหน้าที่นำหลักฐานที่พบข้างศพเจอหมวกกันน็อค บัตรสินเชื่อที่พ่อส่งให้ ที่เป็นของลูกสาว ซึ่งยืนยันว่าเป็นลูกสาวของตนเอง

พ่ออยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุดถ้าประหารได้ก็อยากให้ประหาร มีคนมาเข้าฝันหลานที่ กทม ว่ามีคนมาฆ่า 3 คนเอาเลือกมารัดคอ เข้าฝันคนในบ้านหลายคนว่ามีคนมาฆ่า3คน ซึ่งฝันตรงกัน อยากให้ทางตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะเชื่อว่าไม่น่ายะลงมือคนเดียว อยากจะถามว่าทำลูกสาวทำไม และเรื่องหนี้สินก็ไม่เคยได้ยิน หรือมีใครมาทวงเงินแต่อย่างใด

ขณะที่นาง สุคนธ์ บัวมาตย์ อายุ 55 ปี แม่ของผู้ตาย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ปกติลูกสาวจะไม่ค่อยคุยปัญหาส่วนตัวให้ฟัง นานนานทีจะกลับมาบ้าน มาหาพ่อแม่มาเล่นกับลูก เอาเงินไว้ให้ลูก แล้วก็กลับไป โดยครั้งล่าสุดที่คุยกับลูกสาว วันที่ 8 มีนาคม 2567 การพูดคุยน้ำเสียงลูกอย่างปกติ ซึ่งที่บ้านมีงานบุญลูกสาวได้ถามอยากจะมากินขนมจีน ว่าเหลือไหมซึ่งตนเองก็บอกว่าไม่เหลือแล้วไม่ต้องมาหรอก ก่อนจะวางสายไป กระทั่งวันที่เก้าโทรหาลูกสาวไม่ติด ก่อนจะไม่สามารถติดต่อได้อีกเลยกระทั่งตำรวจมาที่บ้านบอกว่าลูกสาวเสียชีวิต ซึ่งก่อนที่จะทราบว่าลูกสาวเสียชีวิตนั้น ฝันว่าลูกสาวขับรถจักรยานยน์มาหาแม่ตอนเย็นที่บ้าน ตนเองก็ได้ถามว่ามาทำไมลูก ลูกบอกว่ามาหาเด็กๆพวกนี้แหละ ซึ่งในฝันแม่ยังได้ถามลูกว่า ทำไมคนอื่นถึงบอกว่าลูกตายแล้ว ซึ่งลูกสาวบอกตนเองในฝันว่าแม่อย่าพูดแรงอายคน ก่อนจะหยิบเงินออกมามีแบงก์พัน แบงก์500 และแบงก์100 เอาออกมา 3,000 บอกว่าเอาเงินไว้ให้ลูกๆ แล้วบอกว่าหนุ่ยไปก่อนนะเหมือนห่วงลูก แล้วก็ขับรถจักรยานยนต์กลับไป เหมือนปกติที่ลูกยังมีชีวิตอยู่

แม่บอกอีกว่า สาเหตุที่ลูกเสียชีวิตแม่ไม่ทราบเลยลูกไม่เคยพูดถึงปัญหาส่วนตัวให้ฟัง แต่เท่าที่เห็นก็ไม่เคยสร้างปัญหา ไม่เคยติดหนี้สินจนเจ้าหนี้มาทวงถึงบ้าน จึงไม่รู้ว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไรและหากตำรวจจับตัวคนร้ายได้ก็อยากจะถามว่าทำไมถึงทำลูกแม่โหดเหี้ยมอย่างนี้ และขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว/////////