คืบ ควันหลงสงกรานต์เดือด ตำรวจออกหมายเรียกส่วนร้านยำตั้งทนายเรียก1แสน

IMG_3353

คืบหน้าควันหลงสงกรานต์เดือดที่ อ.พล จ.ขอนแก่น พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก 2 วัยรุ่นไล่ทำร้ายนักท่องเที่ยวสงกรานต์คืนสุดท้าย เข้าหลบในร้านยำโดนลูกหลงชาวบ้านหัวแตกเย็บ 7 เข็ม ข้าวของในร้านเสียหาย เจ้าของร้านตั้งทนายเอาผิดเรียกค่าเสียหาย 1 แสนบาท วอนตำรวจเร่งติดตามจับกุมดำเนินคดี

ชมคลิป

ความคืบหน้ากรณีเจ้าของร้านยำ ในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานหลังกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คน ตามทำร้ายคู่อริที่วิ่งหนีตายเข้ามาหลบในร้าน แต่กลุ่มวัยรุ่นที่ไล่ตามไม่ยอมหยุดหยิบทุกอย่างที่ขวางหน้า ทั้งขวด โต๊ะ เก้าอี้ ป้ายร้าน ปาใส่จนลูกค้าในร้านโดนลูกหลงศีรษะแตกเย็บ 7 เข็ม คลานหนีตายขึ้นชั้นสองแต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่ยอมหยุด กระหน่ำปาขวดไม้ยั้งแตกกระจายเสียหายในร้าน จนสภาพเป็นอย่างในคลิป ข้าวของทุกอย่างกระจัดกระจาย ทรัพย์สินแตกเสียหาย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนสงกรานต์วันสุดท้าย เวลาประมาณ 22.50 น. วันที่ 15 เม.ย.2567 ซึ่งเจ้าของร้านได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พลเอาไว้แล้วภายหลังเกิดเหตุ

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 21 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้าน “มาลองยัง(ยำ)ละยี่” ที่เกิดเหตุวัยรุ่นปาขวดไล่ทำร้ายทะเลาะวิวาทกันเมื่อคืนวันสงกรานต์คืนสุดท้ายของอำเภอพล จังหวัดขอนแก่น โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิช 2 ชั้น เลขที่ 148/12 ถ.พลรัตน์ ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น โดยได้พบกับ นาง สมทรัพย์ อายุ 48 ปี ชาว ต.เก่างิ้ว อ.พล จ.ขอนแก่น และนางจารุวรรณ อายุ 49 ปี ชาวต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น ศีรษะแตกถูกขวดของกลุ่มวัยรุ่นปามาโดนลูกหลง เย็บ 7 เข็ม และถลอก ช้ำ ตามตัว ขณะที่เจ้าของร้านทำใจไม่ได้ การค้าขายต้องมาหยุดชะงักจากเหตุการณ์วัยรุ่นไล่ทำร้ายกัน ซึ่งจะไม่ขอเก็บจนกว่าจะมาชดใช้ค่าเสียหายในร้านเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท ซึ่งตอนนี้ได้ตั้งทนายดำเนินการตามกฎหมายแล้ว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมูลค่าทางจิตใจมันมากกว่ามูลค่าทรัพย์สินที่ถูกทำลาย และจะไม่เปิดร้านยำขายตรงนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะจะย้ายไปขายที่อื่น เพราะทำใจไม่ได้ 

 

โดยนายสมทรัพย์ และ นางจารุวรรณ ซึ่งนั่งรับประทานอาหารและเล่นสงกรานต์ที่หน้าร้านยำ พาผู้สื่อข่าวดูจุดเกิดเหตุ และเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณ 22.50 น. วันที่ 15 เม.ย.2567 ซึ่งเป็นสงกรานต์คืนสุดท้าย ทำให้มีคนมาเล่นน้ำสงกรานต์เต็มถนนพลรัตน์แห่งนี้ ขณะนั้นจู่ๆมีวัยรุ่นประมาณ 2-3 คน วิ่งเข้ามาในร้านโดยมีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มประมาณ 10 กว่าคน ตามมาติดๆ พร้อมทั้งปาขวดใส่โดยไม่สนใจว่าใครจะโดนลูกหลง ซึ่งนาง จารุวรรณ ได้ตะโกนบอกว่าอย่า แต่กลุ่มวัยรุ่นไม่ฟังกรูกันเข้าไปปาขวดใส่ พร้อมทั้งหยิบกระถางต้นไม้และป้ายร้านที่ตั้งอยู่หน้าร้านปาเข้าไปในร้าน โดยนางจารุวรรณ ถูกขวดปาเข้าที่ศีรษะจนแตกหมอเย็บ 7 เข็ม ต้องคลานเอาชีวิตรอด พยายามวิ่งหนีตามเพื่อนขึ้นไปที่ชั้นสอง โดยเจ้าของร้านและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆอีก 4 คน อยู่ในห้องครัวชั้น 1 ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นยังกระหน่ำปาขวดใส่โดยไม่สนว่าจะเป็นใครอยู่บ้างจนเสียงดังสนั่นไปทั่ว แล้วตามขึ้นไปถึงชั้น 2 แต่ไม่ขึ้นมาถึงบนห้อง ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวยังยืนปาขวชดใส่ไม่หยุด พร้อมทั้งตะโกนเรียกคู่อริว่า มึงออกมา มึงออกมา แต่ทุกคนพยายามเงียบและคอยดูลาดเลา โดยกลุ่มวัยรุ่นยังปาขวดปาขวดของใส่ คาดว่าจะตามหาคู่อริที่หลบขึ้นมาแตต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะอยู่ที่ชั้น 2 นั้นมีตนเอง 2 คน กับนักท่องเที่ยวที่มาเล่นสงกรานต์คนอื่นๆอีกรวม 10 คน  ซึ่งทุกคนพากันเงียบฟังประมาณ 10 นาทีได้ยินเสียงตำรวจมาจึงพากันส่องดูเห็นว่าสถานการณ์สงบแล้วจึงพากันลงมาหน้าร้าน โดยสภาพก็เป็นอย่างที่เห็นตั้งแต่คืนเกิดเหตุ ในเรื่องนี้อยากให้ทางตำรวจช่วยจัดการให้เด็ดขาด ติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นมาดำเนินคดีตามกฎหมายและชดใช้รับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น

ด้าน พ.ต.อ.พีระฉัตร สาขา ผกก.สภ.พล เปิดเผยว่า ในทางคดีภายหลังพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งก็ได้ประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสและทราบผู้ที่กระทำความผิดตามที่เจ้าของร้านแจ้งความ ก็ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกวัยรุ่นที่ปรากฎยืนยันชัดเจน 2 คน มารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหา บุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ และ ทำร้ายร่างกาย ซึ่งอยู่ระหว่างรอทั้ง 2 คนมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกและแจ้ง 3 ข้อหาในเบื้องต้น หากพบว่าใครมีส่วนกระทำความผิดอื่นๆก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย โดยขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ปรากฎในที่เกิดเหตุ หากไม่มาพบตามหมายเรียกทางพนักงานสอบสวนก็จะต้องออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ก่อนทำการออกหมายจับต่อไป

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง