ขอนแก่นพบวัตถุคาดเป็นอุกกาบาต แข็งมาก ขูดกระเบื้องและกระจกเป็นรอย วางใส่จานเซรามิคสีขาว สั่นตลอดเวลา

IMG_1593

ชมคลิป

เจ้าของบ้านกำลังกวาดหลังบ้าน พบก้อนบางอย่างสีดำตกอยู่ข้างโอ่ง นึกว่าขี้แมวกำลังจะกวาดทิ้ง ปรากฎว่าเป็นวัตถุสีดำเจ้าของบ้านเคยทำจิวเวอรี่เชื่อว่าเป็นอุกกาบาตจากนอกโลก ทดสอบความแข็งแล้วขูดกระเบื้องและกระจกเป็นรอยลึกอุกกาบาตก็ยังเฉย พร้อมให้พิสูจน์เพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ อาจะเป็นแร่ชนิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ปกติอุกกาบาตจะมีส่วนผสมของเหล็กแต่ใช้แม่เหล็กดูดไม่ติด

 

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นายไชยวัฒน์ ตันติศรีปรีชา อายุ 58 ปี เจ้าของร้านศรีทองไทย ขายส่งเส้นพลาสติกจักสาน อยู่บ้านเลขที่ 147-149 ม.9 เทศบาลตำบลดอนโมง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ให้ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบ วัตถุสีดำ ที่ตกอยู่หลังบ้าน เชื่อว่าจะเป็นอุกกาบาต อยากให้มีการเผยแพร่ออกไป เพื่อให้สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ หรือนักวิทยาศาสตร์ หรืออาจารย์ที่มีความรู้ นำไปตรวจพิสูจน์เพื่อเป็นความรู้ทางด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์

นายไชยวัฒน์  พาผู้สื่อข่าวเดินไปที่หลังบ้าน ซึ่งมีต้นมะม่วง ขึ้นอยู่จำนวนมาก พร้อมชี้ให้ดูที่พื้นปูนข้างโอ่งมังกร ที่มีรอยด่างสีขาว โดยยืนยันว่าจุดที่มีรอยด่างบนพื้นปูน คือจุดที่พบวัตถุสีดำก้อนดังกล่าว และรอยสีขาวนั้นเป็นลักษณะของการคลายความร้อน ในขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้วางวัตถุดังกล่าวใส่จานเซรามิคสีขาว ปรากฏว่าวัตถุสีดำ สั่นตลอดเวลา และเมื่อวางบนฝาปิดโอ่งมังกรที่เป็นฝาอลูมิเนียม วัตถุสีดำกลับนิ่ง และเมื่อนำเข้าในบ้าน และใช้ไฟฉายส่องที่วัตถุดังกล่าวกลับมีแสงระยิบสีขาว สีทอง สวยงาม

โดยนาย ไชยวัฒน์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตัวเองเปิดร้านขายส่งเส้นพลาสติกจักสาน แต่ไม่ได้พักอาศัยที่ร้านเพราะเช้ามาเปิดร้าน เย็นปิดร้านก็เดินทางกลับบ้านในเมืองขอนแก่น ก่อนจะพบวัตถุสีดำนั้น เป็นช่วงเช้าวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา เดินทางมาเปิดร้านตามปกติ จากนั้นก็เดินไปกวาดใบมะม่วงที่หลังบ้าน ก็พบวัตถุสีดำตกอยู่ข้างๆโอ่งมังกร ทีแรกนึกว่าขี้แมว เพราะแถวนี้จะมีแมวและมาขี้ไว้ประจำ แต่เมื่อดูดีดีพบว่าวัตถุดังกล่าวไม่เหมือนขี้แมว จึงใส่ถุงมือหยิบขึ้นมาดู จึงรู้ว่าเป็นวัตถุสีดำที่ไม่ใช่ขี้แมว เพราะตนเองเคยทำธุรกิจเกี่ยวกับจิวเวอรี่มาก่อน จึงพอจะมีความรู้และมั่นใจว่าวัตถุที่พบนั้น ไม่ใช่นิล ไม่ใช่พลอยหรือ แต่น่าจะเป็นวัตถุที่เรียกว่าอุกกามณี หรือชิ้นส่วนอุกกาบาตที่ตกลงมาจากท้องฟ้า 

และจากการตั้งขอสงสัยของตนเอง วิเคราะห์แล้วว่าไม่น่าจะมีเด็กมาปาหินใส่ เพราะข้างบ้านจะรู้จักกันหมดและมีแต่คนแก่ และมีร่องรอยของฝาบ้านแตก เป็นรอยเหมือนมีวัตถุแข็งตกกระทบแล้วรัศมีการกระเด็นมาตกที่โอ่งตรงนี้พอดี โดยมีรอยของการคลายความร้อนอยู่รอบข้าง จึงมั่นใจว่าต้องตกลงมาจากท้องฟ้าทำให้ยิ่งมั่นใจว่าคืออุกกาบาต จากนั้นก็นำไปชั่ง ได้น้ำหนัก 28 กรัม กว้าง 2 ซม. ยาว 4 ซม.พอเก็บวัตถุดังกล่าวไว้แล้ว ได้เดินไปถามร้านค้าข้างบ้าน ซึ่งทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 2-3 ทุ่มคืนวันที่ 11 มีนาคม 2567 มีเสียงดังคล้ายสิ่งของตกลงมากระทบหลังคาที่หลังบ้าน ทั้งที่อากาศก็นิ่งสงบ แต่เพื่อนบ้านไม่ได้มาดู เพราะเป็นช่วงกลางคืน  กระทั่งตนมาเปิดร้านและกวาดใบไม้ที่หลังบ้านจึงพบวัตถุก้อนสีดำดังกล่าว

นายไชยวัฒน์  กล่าวอีกว่า  ด้วยความเชื่อส่วนตัวว่าเป็นก้อนอุกกาบาต  แต่เพื่อความชัดเจนก็พร้อมที่จะให้อาจารย์หรือนักวิทยาศาสตร์ที่มีความรู้ นำไปตรวจพิสูจน์หรือผ่าพิสูจน์ดูว่า วัตถุดังกล่าวนั้นเป็นอะไร เป็นหิน หรือซิลิก้า หรือเหล็ก หรือนิเกิ้ล หรืออาจจะเป็นแร่ธาตุชนิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งตนเองได้นำมาขูดกับกระเบื้อง และกระจกเพื่อพิสูจน์ความแข็ง พบว่าแข็งมากไม่มีรอยแตก แต่กระเบื้องและกระจกเป็นรอยลึก พร้อมทั้งเอาแม่เหล็กมาทดสอบดูดดูเพราะลักษณะเหมือนมีเหล็กผสม แต่ก็ไม่มีความผิดปกติ แม่เหล็กไม่ดูด อาจจะเป็นวัตถุชนิดใหม่ที่มีความแข็งแรงสูงมาก และร่องรอยที่เป็นหลุมในอุกกาบาตนั้น ต้องเป็นความร้อนที่สูงมากจึงจะสามารถทำให้เป็นร่องรอยได้ จึงคิดว่าหากนำไปวิจัยและศึกษาหาความรู้ก็จะเป็นประโยชน์ทางด้านวิทยาศาสตร์ได้ โดยอาจารย์หรือนักวิทยาศาสตร์ที่สนใจจะนำไปตรวจพิสูจน์และศึกษา สามารถติดต่อมาได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0867744415

ทางด้าน นางพายัพ ตรีศิริรัตน์ อายุ 84 ปี เจ้าของร้านค้าที่อยู่ติดกัน  กล่าวว่า คืนวันที่ 11 มีนาคม 2567 อากาศโดยทั่วไปก็เป็นปกติดี ไม่มีลม ไม่มีฝน ช่วง 3 ทุ่ม ได้ยินเสียงดังโครมที่หลังบ้านของนายไชยวัฒน์  แต่ไม่ได้ออกไปดู  เพราะมืดมาก  กระทั่งเช้าวันที่ 12 มีนาคม นายไชยวัฒน์มาเปิดร้าน จึงพบวัตถุสีดำ ก้อนดังกล่าว ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร

 

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง