คืบหน้าฆ่าเจ้าอาวาสวัดอดุลแก้วมอดี ชาวบ้านตั้งศพเศร้าวันที่ 2 เล่าคุณงามความดีเตรียฉลองโบสถ์ซึ่งกำลังสร้างไปได้ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่มรณภาพเพราะคนคลั่ง ไหนว่ากัญชาเสพแล้วหัวเราะสนุกสนาน ทำไมถึงมีเหตุการณ์ฆ่าคน ขอฝากเป็นอุทาหรณ์ในสังคมยุคนี้ที่มีแต่คลั่งรายวัน
ความคืบหน้ากรณีนายสิทธิชัย สุนทรวิสัย อายุ 28 ชาว จ.อุดรธานี หรือนาย ปั๊บ คลุ้มคลั่งก่อเหตุใช้เสียมด้ามเหล็กไล่ทำร้ายคนในหอพักแห่งหนึ่ง ข้างซอยหลังวัดอดุลแก้วมอดี บ้านโนนม่วง หมู่ 19 ถนนโคลัมโบ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น และได้วิ่งเข้าไปที่วัดอดุลแก้วมอดี เข้าไปทำร้าย พระครูปลัดต่วน ชุตินฺธโร อายุ 77 ปี เจ้าอาวาสวัดฯ ในกุฎิ ก่อนจะลากร่างเจ้าอาวาสที่หายใจรวบรินมากลางทางหน้ากุฎิ และกระหน่ำใช้เสียมทุบตีที่ศีรษะจนกระโหลกยุบจนกระทั่งเสียชีวิต ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านจะช่วยกันควบคุมตัวเอาไว้ด้วยความยากลำบาก เพราะชายคลั่งมีแรงเยอะตำรวจ 5 คนก็เอาไม่อยู่ พร้อมทั้งต้องฉีดยาระงับอาการคลุ้มคลั่ง และยังไม่สามารถให้การได้อยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลศรีนครินทร์อย่างใกล้ชิด
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 มี.ค.2567 พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้นายสิทธิชัย ผู้ต้องหายังคงอยู่ที่ รพ.ศรีนครินทร์ ซึ่งทีมกู้ชีพได้ฉีดยาระงับอาการคลุ้มคลั่งไว้ หลังถูกจับกุมตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้ และทีมแพทย์ได้ทำการรักษาตัวให้กับผู้ต้องหา เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากกระจกบาดหลายจุด โดยเฉพาะที่บริเวณแขนขวา ถูกกระจกบาด จนทำให้เส้นเลือดใหญ่ฉีกขาดแพทย์ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และเมื่อแพทย์ลงความเห็นว่า สามารถออกจากโรงพยาบาลได้พนักงานสอบสวนจะได้ควบคุมตัวมาสอบคำปาก ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหา และส่งฝากขังผลัดแรกต่อไป ส่วนผลการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ยังไม่พบเสพติด ทั้งเมตเฟตามีนและเคตามีน ซึ่งในเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิต” และคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
ขณะที่วัดอดุลแก้วมอดี บ้านโนนม่วงหมู่ 19 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ญาติโยมและลูกศิษย์ลูกหายังคงทยอยเดินทางมาร่วมงานศพอย่างต่อเนื่องในบรรยากาศที่ยังคงโศกเศร้าและสะเทือนขวัญชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก ซึ่งลูกศิษย์ลูกหาญาติโยมได้ช่วยกันทำอาหารสำหรับพระสงฆ์ และญาติโยมที่มาร่วมงานในวันนี้ และยังคงมีการพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่หลายคนติดใจสงสัยทำไมต้องเจาะจงพระครูปลัดต่วน
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนางวาสนา ชาวบ้านในพื้นที่บ้านโนนม่วง หมู่ 19 ซึ่งเป็นเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของพระครูปลัดต่วนที่มาคอยช่วยเหลืองานวัดตลอดร่วมกับชาวบ้านอีกหลายคน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พระครูปลัดต่วนเป็นทั้งนักปฏิบัติและพระนักพัฒนา ตั้งแต่ตนเองมาอยู่ตั้งแค่ พ.ศ.2529 ก็เห็นหลวงตาตลอด และพัฒนาวัดจากไม่มีอะไรเลย ก็มีการสร้างโบสถ์ สร้างเมรุ จนกลายเป็นวัดมีตราตั้งจนถึงปัจจุบัน หลักคำสอนของหลวงตานั้น ทุกคนทราบดีท่านเป็นคนมีเมตตา มีแต่ให้ ชาวบ้านไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ ไฟตัด หลวงตาก็ช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน ทำให้ชาวบ้านทุกคนในพื้นที่และต่างพื้นที่ต่างเลื่อมใสศรัทธาหลวงตาเป็นอย่างมาก ความรู้สึกตอนนี้ทุกคนยังเสียใจ เพราะหลวงตาป่วยไม่สบายอยู่แล้ว แต่กลับมาถูกฆ่าตาย ทำให้ชาวบ้านโมโห ทำไมถึงไม่ให้คนก่อเหตุตายไปด้วย ปกติหลวงตาอยู่วัดลำพังจะไม่เปิดกุฏิออกมา ใครมาก็จะเห็นหลวงตาล็อคกุฏิตลอด จนกว่าพระลูกวัดจะกลับมา ปกติไม่เปิดกุฎิตอนเช้า แต่วันเกิดเหตุไม่ทราบว่าเพราะอะไรทำไมจึงเปิดหรือมีใครไปเรียกหรือไม่ เพราะปกติจะรดน้ำต้นไม้แต่ไม่เปิดกุฏิและออกมาเช้าขนาดนี้ แต่ตนเองก็ได้แค่สงสัยเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ หลังจากนี้ก็คุยกันอยากให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพราะที่วัดไม่มีสักตัว อยากให้มีกล้องเพื่อให้เห็นคนเข้าออกตลอดเวลา และอยากให้ตำรวจออกมาตรวจบ่อยๆ
นางวาสนาบอกอีกว่า อยากจะฝากถึงเด็กๆสมัยนี้ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด หรือกัญชาที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ไม่ใช่เสพจนมาฆ่าคนตาย ถ้าเลิกได้ก็เลิกซะ ถ้าว่าเสรีก็ปล่อยเสรีจนฆ่าคนตาย อีกสักหน่อยคงฆ่าพ่อฆ่าแม่ตัวเองตาย คำว่าเสรีแต่ปล่อยให้เด็กเสพเสรีจนฆ่าคนได้ขนาดนี้ สมัยก่อนได้ยินแต่ว่าเสพกัญชาแล้วจะหัวเราะเฮอา แต่ทำไมทุกวันนี้มีแต่เสพกัญชาแล้วฆ่าคนตาย หรือมีอย่างอื่นผสมเราก็ไม่ทราบ ซึ่งก่อนที่หลวงตาจะมรณภาพนั้น หลวงตาดำริไว้จะสร้างโบสถ์ให้เสร็จเตรียมฉลองโบสถ์ใหม่ เพราะหลวงตาเป็นเป็นผู้หาเงินมาสร้าง ทั้งจากผู้มีจิตศรัทธา และพระผู้ใหญ่ซึ่งสร้างไปได้แล้ว 80 เปอร์เซ็นต์เตรียมที่จะฉลองโบสถ์ใหม่ร่วมกับชาวบ้านแต่ก็มาถูกฆ่าก่อน
Leave a Response