เปิดตำนาน OTOP ขอนแก่น จ่ายปันผล 10% เป็นปีที่ 4 ถอดบทเรียน : มองส่วนรวม เป็นตัวตั้ง ไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน

เปิดตำนาน OTOP ขอนแก่น

OTOP ขอนแก่น จ่ายปันผล 10% เป็นปีที่ 4
ถอดบทเรียน : มองส่วนรวม เป็นตัวตั้ง ไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน

ตำนาน เมื่อ 21 ปี ก่อน

โครงการ สินค้า OTOP เกิดขึ้น เมื่อราว 21 ปีก่อน คือ 2546 จากนโยบายของรัฐบาลยุคนั้น ที่มองเห็นตัวอย่างต้นแบบ จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีความน่ารัก ละเมียด ละไม ของชุมชน  แต่พอแตกใบอ่อนในเมืองไทย ก็เพี้ยนไปอีกแนว ที่กลายเป็นทั้งเรื่องการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างความเข้มแข็ง ให้แก่ชุมชน ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์   แต่ขณะเดียวกัน ก็กลายเป็นภารกิจ ไม่รู้จบของรัฐบาล ที่ยังต้องอุ้ม และมีคำถามเรื่อง ความคุ้มค่า ความยั่งยืน ที่จะช่วยให้คนตัวเล็ก ตัวน้อย ยืนด้วยขาของตัวเองได้ (หรือไม่ ?)

ตำนาน ที่มา ของ “เทรดเดอร์”

เมื่อมีผู้ประกอบการสินค้า OTOP  คนเล็ก คนน้อย กระจายไปทั่วประเทศ มากกว่า 3 แสนราย มูลค่าการตลาดสินค้าที่พวกเขาผลิต และขายได้ มากกว่า 3 แสนล้านบาท ต่อปี

ปี 2561 กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย  มีนโยบาย สนับสนุนให้ผู้ประกอบการ OTOP รวมตัวกันจัดตั้ง หน่วยงานเสริมด้านการตลาด ด้วยแนวคิด คล้ายกับ การทำงานภาคเอกชน อย่าง หอการค้าไทย ที่มีหอการค้าทุกจังหวัด แล้วรวมกันเป็น ส่วนกลาง  เพราะเชื่อว่า ในแต่ละพื้นที่อาจมี บริบทที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรให้พวกเขา บริหารจัดการ ที่เห็นว่าเหมาะสมด้วยตัวเอง

กลายเป็นที่มาของ “เทรดเดอร์” 76 จังหวัด ใช้ชื่อนามสกุลเดียวกัน คือ คำว่า “OTOP อินเตอร์

เทรดเดอร์”  โดยมีชื่อนำหน้า เป็น ชื่อของแต่ละจังหวัด จึงเป็นที่มีของ “บริษัท ขอนแก่น โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ จำกัด “

บริษัท ขอนแก่น โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท

จดทะเบียน จดแจ้งเป็นบริษัทจำกัด เมื่อ ปลายปี 2563  ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มีผู้ถือหุ้น จำนวน 64 คน แต่ละคน ระดมทุน เพื่อช่วยสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน ในบ้านเกิดของตัวเอง คิดซะว่าเป็น “เงินบริจาค” ไม่คิดว่าจะได้คืน

เงินทุน 1 ล้านบาท นับว่ามีความหมาย เป็นเงินก้นถุง ก้อนแรก รองรังให้เป็นกำลังใจในการพลิกฟื้นเทรดเดอร์ขอนแก่น อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทุกประการ  หลังจากที่จดจ้องกันมาพักใหญ่ ทั้งเงินทุนและการบริหารจัดการ จากเดิมที่เป็นงาน “ขอแรง” และเคยเกิดกรณี การไม่ส่งมอบเงินกันตามที่ควรจะเป็น

เงินมา ทุนตาม บูรณาการขนานแท้

เมื่อมือกำเงินทุนได้สำเร็จ บันไดขั้นต่อมา คือ การปรับปรุงอาคารที่ทำการของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาสินค้า OTOP ขอนแก่น จากที่ทรุดโทรม ตามกาลเวลา กว่า 20 ปี

คุณสมเกียรติ ปันจันตา ประธานเครือข่าย OTOP ขอนแก่น ตัวหลักระดับจังหวัดที่ทำหน้าที่นี้มายาวนาน ด้วยบุคลิกอ่อนน้อม หนุ่มเมืองแพร่ เคยบวชเป็นพระภิกษุ ต่อมาเป็นฆราวาส จึงสุขุม ใจเย็น เขาเล่าว่า “งบประมาณ การปรับปรุงศูนย์ OTOP เคยได้รับอนุมัติ แต่พอถึงเวลาจริงๆ พบว่า เลยผ่าน ถูกแปรงบ ไปยังจุดอื่นๆ พวกเราจึงอยู่กันแบบนี้เรื่อยมา”

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาต้องดิ้นรน เดินร้องขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงาน แต่ไม่ประสบผล เพราะงบประมาณภาครัฐ คงจะไม่ง่าย ภาคเอกชนพอมีความหวัง แต่ต้องนำเสนอ อย่างเป็นมรรคผล ให้พวกเขาได้มองเห็นภาพ การช่วยเหลือคนตัวเล็ก อย่างเป็นรูปธรรม และมีแนวทางการบริหารงานอย่างยั่งยืน ซึ่งผู้ประกอบการ OTOP อย่างพวกเขา คงไม่ใช่เรื่องง่าย

กองทุน และกองงานการบริหาร

มีการจัดตั้ง “กองทุน” รับเงินบริจาคจากภาคเอกชน เพื่อเป็นเงินทุนในการปรับปรุงศูนย์ฯ  เมื่อมีการพูดคุยกัน เข้าใจในวัตถุประสงค์ทั่วกันแล้ว เงินกองทุนดังกล่าว มอบให้ มูลนิธิขอนแก่นทศวรรษหน้า” เป็นผู้ดูแล

งานนี้ได้รับความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ จาก “คนขอนแก่น” มากราย อาทิ คุณชาญณรงค์  บุริสตระกูล  ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น-คนปัจจุบัน แห่ง “พิมานกรุ๊ป” เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  รายต้น เบอร์ต้นของขอนแก่น เข้ามาช่วยกำกับงานการก่อสร้าง/ปรับปรุง ที่ทำการใหม่ของศูนย์ฯ  ซึ่งออกแบบ โดย ดร.ณรงค์วิทย์  อารีมิตร ชาวขอนแก่น แห่ง A49 สถาปนิกชื่อดัง ระดับประเทศ ด้วยว่า ขออุทิศกำลังสติปัญญาอันเป็นเลิศให้กับขอนแก่น-บ้านเกิด

เวลาเปิดทำการ ขายสินค้า ของศูนย์ฯ เดิม เป็นเวลาราชการ (เท่านั้น)  เมื่อมีการปรับปรุงศูนย์ฯ ควรเปิดขายได้ตลอด 7 วัน ต่อสัปดาห์ เพื่อต้อนรับลูกค้า นักท่องเที่ยว ที่เข้ามาแวะเยือนยามเมืองดอกคูนแห่งนี้ พร้อมของฝากติดมือ ที่เป็นเอกลักษณ์ ประทับใจผู้รับ

การจะเปิดทำการได้ ตลอด 7 วัน ต้องมีประตูอิสระจาก รั้วรอบของศาลากลาง จังหวัดขอนแก่น เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ถูกต้อง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ยุคนั้น-ดร.สมศักดิ์  จังตระกุล จึงมีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาเรื่องนี้ และขออนุญาต อย่างถูกต้อง ให้เปิดรั้ว ให้เป็นหน้าบ้านที่ทำการของศูนย์ฯ จึงเปิดทำการได้ทุกวัน ตามเป้าประสงค์ของการทำหน้าที่ส่งเสริมการตลาดให้กับสินค้า OTOP มาจนถึงวันนี้

10 พฤศจิกายน 2563 : Refresh  Opening

วันเปิดทำการ อีกครั้ง หลังเสร็จสิ้นการปรับปรุง โครงสร้าง แต่งหน้าทาปาก เป็นเรือนหลังงาม บนพื้นที่ขนาดเดิม ที่ผสมผสานกลิ่นไอ ของความเป็นศิลปินบ้านๆ เพดานยกสูงทรงจั่ว มีช่องทางเดินทะลุเข้าในบริเวณศาลากลาง ฯ ได้

วัสดุ อุปกรณ์ ก่อสร้าง สุขภัณฑ์ ได้รับความอนุเคราะห์ อนุมัติโดย คุณรุ่งโรจน์  รังสิโยภาส CEO ของปูนซีเมนต์ไทย, เครื่องปรับอากาศ “สตาร์แอร์” อนุเคราะห์ โดย คุณไพรัตน์  เอื้อชูยศ ชาวอำเภอบ้านแฮด ขอนแก่น  ตู้แช่เย็น-The  Cool  ที่เย็นเจี๊ยบ อนุเคราะห์ โดย คุณประชา  ประคุณศึกษาพันธ์ เลือดเนื้อเชื้อไข ชาวขอนแก่น, เฟอร์นิเจอร์  ให้การอนุเคราะห์ จาก Home Pro และอีกหลายองค์กร หลายท่าน ที่อาจกล่าวไปไม่ถึง ขอขอบคุณ ในน้ำใจ ไมตรี ให้เป็นเครื่องมือ ประกอบการทำงาน เพื่อผู้ประกอบการ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ทุกคน

วันเปิดทำการ (อีกครั้ง) จึงสวยงาม เป็นความหวัง เป็นความจริง และเป็นงานจิตอาสา จากคณะกรรมการ 9 ท่าน ที่ปรึกษา อีก 9 ท่าน

สินค้าดี  ผ่านการคัดเลือก มั่นใจในคุณภาพ

สินค้าจากผู้ประกอบการ ตัวเล็ก ตัวน้อย ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดขอนแก่น ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ เมื่อผ่านตามเกณฑ์ จะได้รับสิทธิวางจำหน่าย ภายในศูนย์ฯ ลูกค้า นักท่องเที่ยว วางใจในคุณภาพ และความเป็นเอกลักษณ์แห่งเมือง

ช่องทางการจัดจำหน่าย ออเดอร์ได้ ทางสื่อออนไลน์ มีบริการจัดส่งถึงหน้าบ้าน สินค้าทุกชิ้นสัมผัสได้ว่า มีการส่งผ่านไปยังชาวบ้าน ชุมชน ให้พวกเขามีรายได้ มีอาชีพ ดำรงไว้ซึ่งภูมิปัญญา ทำมาหากิน ด้วยสัมมาอาชีวะ

กระเช้า ปีใหม่   “ Khon  Kean  Select “

เทศกาลส่งความสุข ตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา เป็นกิจกรรม ที่ช่วยเสริมยอดขาย ให้สินค้าจากวิสาหกิจชุมชนคนขอนแก่น

มีการคัดเลือกสินค้า บรรจุลงกระเช้า ให้กับลูกค้า นำไปมอบให้กับมิตรสหาย ส่งความสุขถึงกัน และอีกมิติ คือ การมีรายได้ กระจายตัวลงไปสู่ชุมชน มากกว่า 500 ครอบครัว มากกว่านับพันคน ชีวิตหลายมิติ ที่มีความสุขร่วมกัน ระหว่างกัน  ปีละหน แต่เปี่ยมสุข เมื่อคิดถึง “รอยยิ้ม” ของพวกเขา

บริหารงาน แบบมืออาชีพ ที่มีตัวช่วยแบบเต็มใจ

กรรมการ และ ที่ปรึกษา ทำงานอุทิศแบบจิตอาสา หมายถึง ไม่มีค่าตอบแทน มีแต่ “ความสุขใจ” เป็นเครื่องตอบแทน ยอดขาย กระเช้าปีใหม่ จึงเป็นกำลังยอดขายสำคัญ ให้การบริหาร มีกำไร และจ่ายปันผล ให้กับผู้ถือหุ้นได้ 10 % ตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา

ความสำเร็จของงาน จึงเกิดจากความเสียสละ ที่อยากช่วยขับเคลื่อนส่วนรวม ให้เดินหน้าไป อย่างยั่งยืน และพร้อมที่จะส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไป………

ข้อมูล บันทึกไว้ในแผ่นดิน : สิริพร  จังตระกุล

………………………………………………………………………………………..

 

 

 

 

 

 

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง