คืบคลั่งฆ่าพระ ต้องฉีดยาระงับคลั่งให้การยังไม่ได้ ไม่พบเสพยาบ้า

IMG_1238

ชมคลิป

คืบหน้าหนุ่มเสพกัญชาคลั่งถือเสียมด้ามเหล็กไล่ทำร้ายชาวบ้านและพระจนมรณะภาพ 1 รูป ล่าสุด ผกก สภ.เมืองขอนแก่น เผย ต้องฉีดยาระงับความคลั่งยังไม่สามารถให้การได้ ภรรยาให้การก่อนเกิดเหตุถูกแฟนหนุ่มขู่ฆ่าหลังบอกเลิก ขณะที่ญาติติดใจสาเหตุการตายหวั่นมาจากปมพิพาทเรื่องขัดผลประโยชน์ขึ้นศาลเจ้าอาวาสชนะคดี เผยช่วงที่หลวงลุงกลับมาเยี่ยมบ้านเคยลั่นวาจาว่ามันไม่ยอมกู

ความคืบหน้ากรณีนายสิทธิชัย สุนทรวิสัย อายุ 28 ชาว จ.อุดรธานี หรือนาย ปั๊บ คลุ้มคลั่งก่อเหตุใช้เสียมด้ามเหล็กไล่ทำร้ายคนในหอพักแห่งหนึ่ง ข้างซอยหลังวัดอดุลแก้วมอดี บ้านโนนม่วง หมู่ 19 ถนนโคลัมโบ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น และได้วิ่งเข้าไปที่วัดอดุลแก้วมอดี เข้าไปทำร้าย พระครูปลัดต่วน ชุตินฺธโร อายุ 77 ปี เจ้าอาวาสวัดฯ ในกุฎิ ก่อนจะลากร่างเจ้าอาวาสที่หายใจรวบรินมากลางทางหน้ากุฎิ และกระหน่ำใช้เสียมทุบตีที่ศีรษะจนกระโหลกยุบจนกระทั่งเสียชีวิต ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านจะช่วยกันควบคุมตัวเอาไว้ด้วยความยากลำบาก เพราะชายคลั่งมีแรงเยอะตำรวจ 5 คนก็เอาไม่อยู่

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 มี.ค.2567 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายชัชชัย ธรรมเวียง อายุ43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่10 ต.แก่งเลิงจาน อ.เมือง จ.มหาสารคาม หลานชายของพระครูปลัดต่วน ชุตินฺธโร เจ้าอาวาสวัดอดุลแก้วมอดี เดินทางขอเข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.เมืองขอนแก่น เจ้าของคดี หลังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของหลวงลุง อยากให้ทางพนักงานสอบสวนช่วยสอบสวนลงลึกในประเด็นสาเหตุการเสียชีวิตที่ไม่น่าจะเกิดจากเพราะความคลั่ง

โดยนายชัชชัย ธรรมเวียง หลานชายของพระครูปลัดต่วน ชุตินฺธโร เจ้าอาวาสวัดอดุลแก้วมอดี บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ปกติวันพระท่านจะรับกิจนิมนต์ไปที่หมู่บ้านแถวชาญเมืองขอนแก่น แต่วันนี้ท่านไม่ไปตามปกติ ซึ่งไม่ทราบว่าท่านคิดอะไร แต่ท่านเป็นคนชอบต้นไม้ วันนี้จึงอยู่ที่กุฎิรดน้ำต้นไม้ตอนเช้า กระทั่งเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้นซึ่งมีคนเห็นเล่าให้ฟังอีกที ซึ่งที่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตนั้น เนื่องจากลักษณะการเสียชีวิต ทำไมต้องคลั่งตอนเช้า ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจแนวทางการคลั่งว่าทำไมต้องคลั่งตอนคนไม่อยู่ ไม่มีญาติโยม ไม่มีพระอยู่วัดออกไปบิณฑบาต ซึ่งคนก่อเหตุเพิ่งมาเช่าหอพักที่อยู่หลังวัดได้เพียง 2 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้มีปัญหาขึ้นในวัดแต่ไม่เคยก้าวล่วงเพราะเป็นเรื่องพิพาทในวัด สู้กันในชั้นศาลเหมือนจะชนะคดีกันแล้วจบแล้ว อาจจะเป็นมูลเหตุองค์ประกอบด้วยหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ แต่มันมีข้อสงสัยหลายอย่างว่าทำไมต้องเจาะจงไปที่กุฎิหลวงลุง ทั้งที่ในวัดมีหลายกุฎิและจะต้องผ่านไปถึงกุฎิเจ้าอาวาส และการก่อเหตุเหมือนมีการเตรียมยการ มีการเข็นรถเข็นศพมาด้วย โดยพระลูกวัดเห็นคนก่อเหตุกำลังจะอุ้มหลวงลุงขึ้นรถเข็นศพไปเผาหลวงลุงที่เมรุด้วย ซึ่งทำให้ตนเองมองว่ามันจะเชื่อมโยงกันไหม มันอาจจะมีอะไรเป็นสาเหตุในการฆ่าอย่างอื่นได้หรือไม่ก็ อยากให้ทางตำรวจสืบสวนสอบสวนลงลึกในประเด็นนี้ด้วย เพราะท่านเคยกลับบ้านไปที่ จ.มหาสารคาม คุยกับน้องสาว ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของตนเอง บอกว่า มันไม่ยอมกูหรอก ตอน 6 ทุ่มมีคนแอบมาเดินแถวนี้อยู่ มันไม่ยอมกูหรอก ก่อนที่ท่านจะลุกหนีไม่ยอมคุยต่อ ซึ่งเป็นข้อสงสัยว่าจะเชื่อมโยงและมีการเตรียมการกันหรือไม่

พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น

ด้านพ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่นในทางคดี เปิดเผยว่า ภายหลังจากตำรวจได้รับแจ้งเหตุ ผู้ก่อเหตุพักอยู่ที่หอพักหลังวัดอดุลแก้วมอดี ได้ถือเสียมด้ามเหล็กยาวประมาณ 2 เมตร เข้าไปทุบทำลายประตูห้องพัก โดยมีเจ้าของหอพักเข้าไปสอบถาม พอเห็นพอผู้ต้องหานั่งอยู่บนเตียง วางด้ามเสียมไว้ข้างๆ และบอกกับเจ้าของหอพักว่า ผมหายแล้ว ของออกไป แต่ผู้ต้องหาทำขึงขังผลักประตูใส่หน้า แล้วตะโกนใส่ว่าพวกมึงออกไป พร้อมกับหยิบเสียมด้ามเหล็กไล่ทำร้าย เจ้าของหอกับลูกชายจึงวิ่งหนีลงมาที่ชั้นล่าง ก่อนที่ลูกชายเจ้าของหอจะไปหยิบเอาอาวุธมีดออกมาขู่ไม่ให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาทำร้าย ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเห็นมีดแล้ววิ่งหนีออกทางประตูกระจกคีย์การ์ด โดยพุ่งชนกระจกแตกทำให้ผู้จ้องหาได้รับบาดเจ็บไปด้วย ก่อนจะถือเสียมด้านเหล็กวิ่งไปตามถนนหน้าหอพักแล้วเข้าไปทางด้านหลังวัดอดุลแก้วมอดี ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 10-20 เมตร โดยตลอดเส้นทางพบรอยเลือดเชื่อว่าเป็นของตัวผู้ต้องหาหยดตามถามเข้าไปในวัด

หลังจากนั้นผู้ต้องหาถืออาวุธเสียมด้ามเหล็กไปทางกุฎิเจ้าอาวาสพระครูปลัดต่วน ผู้ตายเห็นหลบหนีเข้าในห้อง ผู้ก่อเหตุทุบกระจกเข้าไปในห้อง เปิดประตูดึงร่างผู้ตายออกมาด้านนอก และทุบตีทำร้ายหน้ากุฎิจนมีโอ่งแตกและพระครูปลัดต่วนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุประมาณ ห่างจากด้านหน้ากุฎิประมาณ 5-10 เมตร สภาพศพใบหน้าและศีรษะแตกยุบ ซึ่งแพทย์เวรและพนักงานสอบสวนได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพไว้แล้ว หลังเกิดเหตุได้ควบคุมตัวและฉีดยาระงับความคลั่งลงก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล งไม่สามารถให้การได้ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็จะได้ทำการสอบปากคำก่อนแจ้งข้อหา ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย

เบื้องต้นจากการตรวจหาสารเสพติดในเลือดและปัสสาวะของผู้ต้องหาไม่พบเมทแอมเฟตามีน และเคตามีน ซึ่งไม่พบทั้งสองอย่าง และได้เข้าไปตรวจค้นภายในห้องพักที่ผู้ก่อเหตุพักอาศัยอยู่กับแฟนพบต้นกัญชา 3 ต้น พร้อมเขียงและต้นกัญชา สอบถามแฟนผู้ก่อเหตุทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นโรคซึมเศร้า รับยาจากโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์มากิน แต่ทานยามีอาการดีขึ้นแล้วมารดาผู้ต้องหาจึงไม่ได้พาไปพบแพทย์อีก กระทั่งมีการทะเลาะกันมีปากเสียงจนแฟนผู้ตาบอกเลิกและถูกผู้ก่อเหตุข่มขู่จะเอาชีวิต จนแฟนสาวหนีไปหลบกับเพื่อนอีกหอพักกระทั่งเกิดเหตุ ซึ่งหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะได้ต้องรอทางตัวผู้ก่อเหตุสามารถให้การได้ ก็จะทำการสอบปากคำและแจ้งข้อหาดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป และสืบสวนสอบสวนในประเด็นที่ญาติติดใจเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง