นักวิชาการ มทร.อีสาน ขอนแก่น!ระบุอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ไทยเงินสะพัดกว่า 4 แสนล้านบาทต่อปี แต่กระจุกกับนายทุนขนาดใหญ่

IMG_7289

นักวิชาการขอนแก่น ระบุอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ไทยเงินสะพัดกว่า 4 แสนล้านบาทต่อปี แต่กระจุกกับนายทุนขนาดใหญ่ ถึงเวลาที่สุราชุมชนจะสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างถูกกฎหมาย โดยรัฐให้การสนับสนุนด้านวิชาการที่ถูกต้อง

เมื่อเวลา 13.00 . วันที่ 11 มิ.. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ แหล่งเรียนรู้ด้านการผลิตเครื่องดื่มตะวันตก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น พูดคุยกับนักวิชาการการผลิตเครื่องดื่มตะวันตก หลังนโยบายสุราก้าวหน้า กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากในขณะนี้

ดร.ภูชิสส์  ตันวาณิชกุล  ผู้เชี่ยวชาญการผลิตเครื่องดื่มตะวันตก มทร.อีสาน วิทยาเขตขอนแก่น กล่าวว่า อุตสาหกรรมสุราแอลกอฮอล์ประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 4 แสนล้านบาทต่อปี แต่เม็ดเงินนี้ไม่ลงถึงชุมชนหรือคนระดับล่าง ทำให้แนวคิด พรบ.สุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล ที่ต้องการอยากจะยกระดับและเปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความสามารถได้ขึ้นมาอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ให้มากยิ่งขึ้น

การที่อยากจะแก้ไขกฎหมาย พรบ. กฎกระทรวงต่างๆ เพื่อเอื้ออำนวยให้กับผู้ประกอบการรายเล็กนั้นคือต้องการที่จะยกระดับ แต่ผลพวงตามมาในเรื่องวัตถุดิบ เรื่องของกรรมวิธีจะเกิดการพัฒนาในวงของการผลิตทั้งสุราและเบียร์ เพราะฉะนั้นนอกจากการแก้ปัญหา พรบ. จะเกิดลูกโซ่ของกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำถ้ามองในเรื่องเศรษฐกิจถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ชาวบ้านมีกลุ่มที่มีความรู้ความสามารถอยู่แล้วเพียงแต่นำเข้ามาสู่ระบบ หน่วยงานภาครัฐควรจะส่งเสริมให้ถูกต้องในกรรมวิธีเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการกิน เรื่องอาหาร มาตรฐานความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก

ดร.ภูชิสส์ กล่าวต่ออีกว่า ความรู้ทั้งหมดต้องถ่ายทอดลงไปให้เยอะที่สุดและให้เร็วที่สุดเพราะเรื่องเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องรอ เนื่องจากชาวบ้านหรือกลุ่มทุนใหม่ๆอยากจะเข้ามาอยู่ในธุรกิจนี้ควรต้องหาความรู้เพิ่มโดยที่ง่ายที่สุดคือหน่วยงานรัฐเป็นหน่วยงานวิชาการที่จะให้ความรู้ได้ต้องมีการผสานร่วมมือทั้ง 2 ฝ่าย ถึงจะผลักดันในเรื่องความสามารถ ความปลอดภัยในเรื่องอาหาร

ถ้าสุราชุมชนหรือการทำเบียร์คราฟขึ้นมาทำให้ถูกกฎหมายข้อดีข้อแรกคือเรื่องเศรษฐกิจถือว่าเป็นการขยายตัวของเศรษฐกิจทำให้องค์ความรู้วิชาการที่จะมีการพัฒนาโดยหน่วยงานรัฐ พัฒนาโดยชุมชนโดยผู้ผลิตเอง เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเวทมนต์แต่เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ และเป็นวิทยาศาสตร์ของการแปรรูปอาหาร เพราะเหล้าเบียร์ เป็นเครื่องดื่มที่มีมาหลายพันปีและมีทั่วทุกมุมโลกและ 1 ในกระบวนการนั้นคือกระบวนการทางวิทยาศาสตร์คือกระบวนการหมัก ซึ่งคือข้อดีทางด้านวิชาการ อย่างไรก็ตาม การขยายตัว การให้ความรู้ การทำให้ถูกต้อง จะทำให้มิติเชิงเศรษฐกิจที่จะทำให้เกิดเงินสะพัด และเมืองไทยผลไม้เยอะทั้งปี ก็จะเพิ่มมูลค่าได้อีกด้วย

ดร.ภูชิสส์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขอนแก่นมีมะม่วงน้ำดอกไม้บ้านแฮดที่จะได้รับเป็นพืชจีไอเร็วๆนี้ แต่ว่ายังมีมะม่วงลูกที่ตกเกรดไม่สวยถูกนำไปขายในตลาด 5 กก. 100 บาทถ้าหากว่านำมะม่วงตกเกรดเหล่านี้แปรรูปเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตเครื่องดื่มมูลค่าจะขึ้นมากกว่า 5-10 เท่า ซึ่งไม่จำเป็นต้องส่งออกจีน กก.ละ 300 บาท ซึ่งมีไม่กี่เปอร์เซนต์ผลไม้บ้านเรามีเยอะสามารถนำมาเป็นน้ำผลไม้ที่เป็นกระบวนการหมักได้ เพราะฉะนั้นเรื่องเศรษฐกิจดีแน่นอน แต่เรื่องที่จะตามมาคือเรื่องเสพสุราแล้วขับทุกวันนี้ก็ยังมีต้องหาวิธีอื่นจัดการแต่ว่าไม่ใช่ว่าทุกคนจะเข้าถึงได้ อย่างกรณี คราฟเบียร์ ไม่ใช่ราคาถูกๆ ราคาค่อนข้างแพงแก้วละ 100-200 บาท ซึ่งแพงกว่าเบียร์ขวดที่อยู่ตามร้านสะดวกซื้อพอราคาที่สูงจะคัดกรองลูกค้าที่จะเข้าถึง ถ้าจะมองว่าเมาแล้วมาขับ ต้องมองว่าเมาจากตรงไหนต้องแยกกันให้ชัดเจนประเด็นที่กังวลคือคนจะดื่มมากขึ้นหรือไม่ประเด็นนั้นยังไม่แน่ใจว่าจะมากขึ้นจริง แต่ประเด็นที่แน่ใจคือคนดื่มมีทางเลือกมากขึ้น

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง