โรงพักแทบแตก สมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อสม.อ.น้ำพอง จ.จขอนแก่น กว่า200 คน รวมตัวกันบุกโรงพักแจ้งความเอาผิดสมาคม เชิดเงินคนตายรวมกว่า 50 ล้านบาท ขณะที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีมติที่ประชุมออกคำสั่งให้คณะกรรมการของสมาคม 12 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 10 มิถุนายน 2566 ที่สภ.น้ำพอง  ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อาสาสมัคร สาธารณสุขประจำหมู่บ้านอำเภอน้ำพอง และญาติสมาชิก ที่เสียชีวิตแล้วยังไม่ได้เงิน จำนวน 200 คน จากพื้นที่ 12 ตำบลในอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น  พากันเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.น้ำพอง ให้ทำการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกับประธานสมาคมฯและคณะกรรมการจำนวน 12 คน

นางทิพวรรณ ศรีวิลัย  อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.11 บ้านดงเย็น ต.บัวเงิน อ.น้ำพองจ.ขอนแก่น  หนึ่งในญาติสมาชิกสมาคมฯที่ญาติเสียชีวิตแล้วยังไม่ได้เงินฌาปนกิจสงเคราะห์จำนวน 110,000 บาท เปิดเผยว่า บิดาเป็นสมาชิกสมาคมมาตั้งแต่เริ่มตั้งสมาคมฯมา และจ่ายเงินให้สมาคมมาเรื่อยๆ จนเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 18 กพ.2565  ตนในฐานะที่เป็นลูกสาว จึงเป็นแจ้งตาย และนำใบมรณะบัตรไปแจ้งที่สมาคมฯเพื่อเอาเงินมาจัดงานศพให้บิดา  แต่สมาคมฯให้มาเพียง 10,000 บาท พร้อมออกใบนัดให้รับเงินอีก 110,000 บาท ในวันที่ 21 เมษายน 2566  แต่ก่อนถึงวันนัดทางสมาคมฯโทรมาเลื่อนนัด และบอกว่ายังไม่มีเงินให้  ตนจึงเกิดความไม่พอใจจึงเดินทางไปที่สมาคมฯพบกับประธานสมาคมฯ จึงโวยวายว่า นัดแล้วไม่ได้เงิน ประธานจึงให้เงินมา 30,000 บาท แล้วย้ำว่า อย่าไปบอกใครว่าได้เงิน

นางทิพวรรณ กล่าวอีกว่า เมื่อจ่ายเงินเพิ่มให้ 30,000 บาท ประธานสมาคมฯให้เจ้าหน้าที่ ออกใบนัดมารับเงินออกไป เป็นวันที่ 3 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ แต่ไม่มั่นใจว่าจะได้หรือไม่  ซึ่งขณะนี้ไม่สนใจแล้วว่าจะได้หรือไม่ได้  เพราะคนที่ประสบปัญหาเดียวกันมีเพิ่มมากขึ้น เพราะญาติที่ตายไปจำนวน 500 คน ยังไม่มีใครได้เงินสักรายหนำซ้ำ เจ้าหน้าที่ในสมาคมฯยังบอกว่า คนที่นัดมาเอาเงิน ถึงวันนัดหากสมาชิกจ่ายเงินมาแค่ 10-20 คนก็เอาแค่นั้น

“เดินทางมาสภ.น้ำพอง เนื่องจากว่า มติที่ประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ผู้ที่เป็นสมาชิกและคนที่เป็นญาติคนตาย ที่ตายแล้วยังไม่ได้เงินให้มาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจสภ.น้ำพอง  ให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการสมาคมฯและประธานสมาคมฯ  เพราะถือว่าไม่ปฏิบัติตามกฏของสมาคมฯที่ตั้งขึ้นมา ชาวบ้านจึงพากันเดินทางมา  ซึ่งเมื่อชาวบ้านมาถึงตำรวจได้ให้ชาวบ้าน แต่งตั้งและมอบอำนาจให้ผู้แทน นำหลักฐานที่เป็นสมุดสมาชิกและใบนัดรับเงิน ใบมรณะบัตร บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน มอบอำนาจให้ตัวแทน นำเข้าแจ้งความ ซึ่งขณะนี้ตัวแทนที่รับมอบอำนาจจากชาวบ้าน 200 คน เจ้าแจ้งความเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

ขณะที่นายฉัตรชัย โลหะมาตย์  หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฯตายแล้วญาติพี่น้องไม่ได้เงิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาทำงานร่วมกับนายอำเภอและนายกเทศบาลตำบลวังชัยที่เป็นนายทะเบียน  ล่าสุดรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมติที่ประชุม ให้เทศบาลตำบลวังชัย ในฐานะนายทะเบียน ออกคำสั่งให้คณะกรรมการของสมาคมฯทั้ง  12 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้ตั้งคณะกรรมการสมาคมฯชุดใหม่ขึ้นมาบริหารเป็นการชั่วคราวชุดเดิมจนกว่าทุกอย่างจะสิ้นสุด  รวมทั้งให้ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกที่ยังมีชีวิตอยู่ รวมถึงญาติสมาชิกที่ตายแล้วมาแจ้งความกับตำรวจ เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย  นอกจากนี้ยังให้นายกเทศมนตรีเทซบางตำบลวังชัย  เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคณะกรรมการชุดเดิมที่ทำผิดระเบียบข้อบังคมการตั้งสมาคมฯ  ซึ่งขณะนี้เทศบาลตำบลวังชัยอยู่ระหว่างการดำเนินการ