คนขับรถนักเรียนยืนยันขอนแก่นไม่มีส่วย เพราะรถทุกคันขออนุญาตอย่างถูกต้อง และประสานการทำงานร่วมกับโรงเรียนและเจ้าหน้าที่ตลอด

ชมคลิป

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามผู้ให้บริการรถรับ-ส่งนักเรียนที่ให้บริการในเขต จ.ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง หลังโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆเผยแพร่เรื่องส่วยรถนักเรียนเช่นเดียวกันกับส่วยรถบรรทุกที่กำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้ ซึ่งจากการสอบถามพบว่าคนขับส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินเรื่องเก็บส่วยรถรับ-ส่งนักเรียนมากก่อน

นายคำพันธ์ งามเมือง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 ม.5 ต.โพนงาม อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ในฐานะคนขับรถรับ-ส่งนักเรียน ขอนแก่นไม่เคยมีเรื่องอะไรแบบนั้น ไม่เคยเสียส่วนแบ่งใดๆ ตามที่เป็นข่าวแบบจังหวัดอื่นๆ เพราะรถทุกคันจะต้องขออนุญาต ตรวจสภาพรถรับส่งนักเรียนต้องทำทุกปีไม่เคยเสียส่วยอะไรแม้แต่บาทเดียวเสียแค่ค่าภาษี 25 บาท เพราะทุกคันทำถูกต้อง ทุกข้อกฎหมายและทุกข้อระเบียบที่เกี่ยวข้อง

“ตั้งแต่วิ่งรถรับ-ส่งนักเรียนมา 20 ปี เส้นทาง ขอนแก่น-มหาสารคาม ไม่เคยโดนตำรวจเรียกเก็บส่วยหรือหน่วยงานอื่นๆมาขอเก็บส่วยอะไรแม้แต่ครั้งเดียว เพราะรถเราทำถูกกฎหมาย สติ๊กเกอร์เดียวที่ติดคือสติ๊กเกอร์ คำว่า รถรับส่งนักเรียน ที่ขนส่งบอกให้ติดเท่านั้น ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ขนส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาพูดคุยและแนะนำให้ทำให้ถูกกฎหมาย เจ้าหน้าที่กำชับเป็นพิเศษเรื่องการดูแลเด็กนักเรียน และกำชับเรื่องรถ ถ้าเป็นรถปิกอัพให้ทำหลังคา ทำบันไดและที่ปิดท้ายให้เรียบร้อย ติดไฟข้างบนหลังคา ติดสติ๊กเกอร์คำว่ารถรับส่งนักเรียนให้เรียบร้อยถึงจะออกใบอนุญาตขับรถรับส่งได้ เก็บค่าบริการ 1,000 กว่าบาท ต่อเดือน ตกวันละไม่กี่บาทเพราะเป็นลูกหลาน ส่งสารพ่อแม่ผู้ปกครองไม่มีเวลาไปรับส่ง เหลือนิดๆหน่อยๆพออยู่ได้ไม่ได้หวังอะไรมากมายเหลือจากค่าน้ำมัน”

ขณะที่ นายสมาน สีดาทวด อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 215 ม.18 บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า เรื่องส่วยรถรับส่งนักเรียนในเขตพื้นที่จังหวัดไม่มี เพราะเจ้าหน้าที่ขนส่งและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดมากเรื่องรถรับ-ส่งนักเรียน โดยจัดอบรมทุกปี ให้ติดป้ายสติ๊กเกอร์รถรับส่งนักเรียนและอุปกรณ์ส่วนควบให้เรียบร้อยและบางครั้งก็ลงพื้นที่มายังบริเวณที่จอดรอเพื่อพูดคุยกับคนขับโดยตรงและกำชับให้ทำให้ถูกกฎหมายทุกอย่าง

“วิ่งรถมา 20 ปี ยังไม่เคยได้ยินข่าวเรื่องส่วยรถรับ-ส่งนักเรียนส่วนใหญ่ถ้าเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรก็จะให้คำแนะนำ การวิ่งช่วงเร่งด่วน เช้าและเย็นมากกว่า ในฐานะที่เป็นคนขับรถรับส่งนักเรียนการเรียกเก็บส่วยแบบนี้ไม่เห็นด้วยเพราะเป็นการขูดรีดประชาชนเพราะรถรับส่งนักเรียนกว่าจะทำให้ถูกกฎหมายยากมากกว่าจะขออนุญาตผ่านถ้ามาเก็บส่วยแบบนี้จะเป็นการเพิ่มภาระให้คนขับอีก ไหนจะค่าน้ำมันทุกวันนี้น้ำมันแพงมาก ไป-กลับ วันละ 100 กว่า กม. ถ้าเจอส่วนอีกค่าใช้จ่ายคงไม่พอคงต้องได้เลิกขับถ้าเจอเรียกส่วยจริงๆ”