ลุงซาบซึ้งใจน้ำตาไหลพราก หลังได้รับวัวสองแม่ลูกจากวัดหนองแวงพระอารามหลวง ไถ่ชีวิตโค-กระบือ มอบให้กับผู้ยากไร้ ถวายเป็นพุทธบูชา ลุงเผยทั้งชีวิตไม่เคยมีอะไรเลยจนมีโอกาสมาทำบุญที่วัดและมีโครงการไถ่โค-กระบือจึงลงทะเบียนไว้ ตามหาหญ้ามาให้โคกินเป็นเดือน และได้รับความเมตตาได้โคสองแม่ลูกมาเลี้ยง

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 29 เม.ย.2566 ที่บริเวณหน้าพระมหาธาตุแก่นนคร หรือที่รู้จักกันว่าพระธาตุ 9 ชั้น ภายในวัดหนองแวงพระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พระครูปริยัติธรรมวงศ์ รศ.ดร.เจ้าอาวาสวัดหนองแวงพระอารามหลวง รองเจ้าคณะอำเภอพระยืน นำพุทธศาสนิกชนชาว จ.ขอนแก่น ร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูปและร่วมไถ่ชีวิตโค-กระบือ ประจำเดือน เม.ย.ตามที่วัดหนองแวงพระอารามหลวงได้กำหนดจัดกิจกรรมทำบุญร่วมกันชุมชนต่อเนื่องเป็นทุกเดือน โดยมีพุทธศาสนิกชนชาว จ.ขอนแก่น ร่วมในการประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาและร่วมพิธีไถ่ชีวิคโค-กระบือ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่นที่สองลุงป้า เจ้าของใหม่ป้ายแดงถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจและปลื้มใจที่ทุกคนมอบโอกาสให้ได้รับโคสองแม่ลูกไปเลี้ยง ซึ่งโยมอุปัฎฐากที่วัดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ลุงกับป้าคู่นี้เหมาะสมที่จะได้รับโคไปเลี้ยง เพราะลุงตามหาหญ้าสดริมทาง เก็บมาให้วัวกินอยู่เป็นเดือนจนมาถึงวันนี้

พระครูปริยัติเจตินานุกูล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนองแวงพระอารามหลวง กล่าวว่า พิธีทำบุญดังกล่าวคณะสงฆ์และญาติธรรมในชุมชนได้กำหนดจัดขึ้นในทุกเดือน หรือสัปดาห์สุดท้ายของแต่ละเดือน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและถวายแด่อดีตเจ้าอาวาสฯ ที่ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติสืบต่อกันมา

“การไถ่ชีวิตโค-กระบือ นั้นในเดือนนี้ เราได้ไถ่ชีวิตวัว แม่-ลูก มาจากโรงฆ่าสัตว์ในราคา 26,000 บาท ซึ่งญาติธรรมที่ทราบข่าวต่างร่วมด้วยช่วยกันสมทบปัจจัยร่วมกันทางวัดเพื่อส่งมอบให้กับผู้ยากไร้ ซึ่งการไถ่ชีวิตโค-กระบือนั้น ในแต่ละเดือน จะบอกไม่ได้ว่าวัดจะไถ่ชีวิตหรือมอบโคหรือกระบือให้กับผู้ที่จะมารับ และจะอยู่ในราคาไถ่เท่าใด แต่เมื่อทุกคนพร้อมใจและร่วมใจกันในการที่จะต่อชีวิตให้กับสัตว์โลก กิจกรรมนี้จึงจะดำเนินการต่อเนื่องต่อไป”

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนองแวงพระอารามหลวง กล่าวต่ออีกว่า วัดได้เปิดโอกาสให้กับผู้ยากไร้ หรือผู้ที่มีความประสงค์จะขอรับโค-กระบือ กับทางวัด ได้มาลงทะเบียนเพื่อจัดเรียงลำดับการรับและส่งมอบ จากท่านเจ้าอาวาสโดยไม่จำกัดว่าจะเป็นคนจังหวัดใด ซึ่งตัวแรกที่วัดดำเนินการนั้นมอบให้กับชาว จ.เลย ครั้งที่ 2 มอบให้กับชาว จ.อุดรธานี และในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 มอบให้กับชาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเกษตรกรที่รักในการเลี้ยงสัตว์ได้ประสานติดต่อเข้ามาแล้วในการขอรับมอบโคไปเลี้ยง ซึ่งทุกคนที่มาลงทะเบียนนั้นคณะกรรมการจะมีการตรวจสอบในรายละเอียดต่างๆอย่างรัดกุม และมีข้อแม้ว่า เมื่อได้รับไปแล้ว วัวแม่พันธุ์ หรือที่เรียกว่าวัวตัวแม่ จะต้องคงรักษาไว้ห้ามจำหน่ายอย่างเด็ดขาด โดยคณะทำงานจะตรวจติดตามวัวตัวแม่หรือวัวที่มอบให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามสำหรับพุทธศาสนิกชนที่สนใจร่วมทำบุญไถ่ชีวิตโค-กระบือ ร่วมกับทางวัด สามารถประสานงานมาที่วัดได้โดยตรง เพื่อที่จะอนุโมทนาบุญเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัวร่วมกันต่อไป

ทางด้านนาย โสภา จันโท อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 ม.7 ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ คนที่มารับวัวสองแม่ลูกที่ถูกไถ่ชีวิตในครั้งนี้ไปเลี้ยง กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเป็นคนไม่มีอะไรเลย ได้มาทำบุญที่วัดและทราบว่าทางวัดไถ่ชีวิตวัวสองแม่ลูก ให้เกษตรกรนำไปเลี้ยง จึงลงทะเบียน ขอรับวัวสองแม่ลูกไปเลี้ยงอยู่ที่ที่นาของตัวเอง ที่อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยตั้งชื่อวัวตัวแม่ว่า นางเหลือกิน ลูกชื่อ นางสาวเหลือใช้ และขอกราบขอบพระคุณทางวัดและคณะกรรมการทุกท่านที่กรุณามอบวัวคู่นี้ให้ไปเลี้ยง

ขณะที่นางวิไล สะอาดถิ่น โยมอุปัฏฐากวัดหนองแวง กล่าวว่า การไถ่ชีวิตโค กระบือนั้น ทางวัดทำมานานหลายปีแล้ว ตั้งแต่เจ้าอาวาสองค์เดิม เมื่อเจ้าอาวาสองค์เดิมมรณภาพลง ทางวัดก็ยังสืบสานต่อ บางปีก็มีการไถ่ชีวิตโคกระบือหลายตัว เพื่อมอบให้เกษตรกรนำไปเลี้ยง ให้ออกลูกแบ่งกันเลี้ยงต่อๆไป โดยไม่มีการฆ่าชำแหละเด็ดขาด ในปีนี้ก็ทำต่อเนื่องกันมาทุกเดือน และจะทำต่อไป