เจ้าของฟาร์มโคนมขอนแก่น ปลูกกล้วยด่างติดสวน ราคาสูงทะลุนับแสนบาท มีออเดอร์สั่งซื้อทุกวัน เจ้าตัวเผยเหตุเพราะรักงานด้านการเกษตร เรียนรู้ผ่านยูทูปและหลักวิชาการ รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเซียนไม้ด่างมานานกว่า 5 ปี ถึงเวลาขายต้องขาย ราคาขึ้นอยู่กับความพอใจ ทุกต้นเลี้ยงดีกว่าลูก ต้องเฝ้า 24 ชม.

        เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจตลาดกล้วยด่างที่กำลังเป็นที่นิยมและได้รับความชื่นชอบของผู้ที่ชื่นชอบกลุ่มไม้ด่างประดับที่มีการจำหน่ายในราคาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้ลงพื้นที่สำรวจที่ไอดินฟาร์ม ซึ่งตั้งอยู่ ที่ บ.ผักหนาม ต.หนองกุง อ.กระนวน จ.ขอนแก่น หลังพบว่าฟาร์มแห่งนี้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์กล้วยด่างที่ได้รับความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบกล้วยด่างและไม้พันธุ์ด่างอย่างมาก จนทำให้ราคากล้วยด่างบางต้นราคาสูงถึง 100,000 บาทและมียอดของการสั่งซื้อทุกวัน

        นายธวัชชัย ตองอ่อน เจ้าของไอดิม ฟาร์ม จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ฟาร์มจะเน้นการเลี้ยงโคนมเป็นหลักเพราะครอบครัวรักในวิถีเกษตรอินทรีย์ที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ขณะที่กล้วยด่าง นั้นยอมรับว่าเดิมปลูกติดสวนไว้ดูเล่น จากนั้นก็ทำสวน ทำนา ทำไร่ ทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ตามปกติ แต่ด้วยความชอบและต้องการที่จะเรียนรู้วิถีเกษตรที่เป็นกระแสในปัจจุบัน จึงได้สมัครเข้ากลุ่มคนรักกล้วยด่าง เพื่อเรียนรู้ และมีการซื้อขายกันตามปกติ ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมากล้วยด่างของฟาร์มขายได้ในราคาในราคาหลักร้อย แต่บางต้นที่ราคาขายหลักหมื่นตามความพอใจของลูกค้า และต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาการเล่นไม้ด่างนั้นจำกัดอยู่ในวงแคบจนกระทั่งมีดารา มาจับ มาถ่ายรูป มาเล่น เริ่มจากกลุ่มกล้วยด่างฟลอริด้า ราคาก็ปรับสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

        “พอคนเห็น มีคนเล่น มีคนนิยม มีคนที่มีความต้องการกลุ่มพันธุ์ไม้ด่าง โดยเฉพาะกล้วยด่างเยอะขึ้น แต่กล้วยด่างนั้นมีจำนวนจำกัด เป็นพันธุ์ไม้นำเข้า จึงยิ่งทำให้ราคาปรับพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเมื่อเป็นกระแส มีคนต้องการมาก กล้วยมีน้อยทำให้ราคาแพง ราคาขยับเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ผมศึกษาจากเพจ จากโลกโซเชียล ใครมีสายพันธุ์ใด มีเทคนิคใดๆก็จะนำมาถ่ายทอดและมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันภายในกลุ่ม จนมีการติดต่อขอซื้อมาเพื่อปลูก จนกระทั่งมีคนมาให้ราคาที่พอใจก็ขายออกไป อย่างต้นด่างแดงอินโดต้นนี้ ราคาเฉพาะต้น 100,000 บาท และมีลูกค้ามาติดต่อขอซื้อแล้ว และราคาเหมือนกับถูกหวยเพราะต้นกล้วยด่างแดงอินโดต้นนี้ได้ออกหน่อมาอย่างสวยงาม ซึ่งทางฟาร์มก็แถมให้เพราะการค้า-ขาย เราต้องซื่อสัตย์ และชัดเจนกับลูกค้า”

        นายธวัชชัย กล่าวต่ออีกว่า เมื่อขายออกไปฟาร์มก็รับตัวใหม่เข้ามาเลี้ยง เข้ามาปลูกและขายออกไป บางทีก็ทดลองเพาะเฉพาะแม่พันธุ์ เมื่อได้ลูกหรือหน่อก็มีการแลกเปลี่ยนและขายออกไป ซึ่งราคาขายอยู่ที่ความพึงพอใจไม่มีราคาตายตัว ขั้นต่ำทุกสายพันธ์ราคาวันนี้เกิน 10,000 บาทขึ้น ถ้าคนอยากเล่นมีเงิน 10,000 บาท วันนี้ไม่สามารถที่จะหาซื้อกล้วยด่างมาได้แล้ว อย่างต่ำๆราคาวันนี้อยู่ที่ 20,000-30,000 บาท โดยเฉพาะ กลุ่มกล้วยด่างฟลอริด้า, แดงอินโด, น้ำหว้าค่อม ที่ราคาปรับขึ้นแรงมาก เพราะเป็นพันธุ์ไม้ประดับที่มีการซื้อขายทุกวัน

        “นักเล่นทุกคนไม่สามารถตอบได้ว่าราคาจะแรงไปมากกว่านี้ หรือจะลดลงช่วงใด ขึ้นอยู่กับความนิยมและความสนใจของนักเล่นเฉพาะกลุ่ม คนที่กล้าซื้อคือกลุ่มนักสะสมพันธุ์ไม้ ซึ่งทุกคนนับเป็นเซียนและวิเคราะห์ได้ว่า ลวดลายแบบนี้ราคาเท่าใด ต้นนี้ราคาเท่าใด ซึ่งทุกคนจะมีความชำนาญและเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ยกเว้นมือใหม่ที่ไม่รู้จะไม่สามารถที่จะประเมินราคาได้ อย่างไรก็ดีฟาร์มของผมไม่กลัวว่าราคาจะลดลงหรือกระแสความนิยมจะหายไป เพราะที่ฟาร์มเลี้ยงมาตั้งแต่ราคาหลักร้อยบาท แต่มาโดนกระแสในช่วงนี้ถือว่าโชคดีอย่างมาก เพราะหากมองย้อนกลับไป 5 ปีที่ผ่านมา แต่ละต้นราคาหลักร้อยบาทเท่านั้น”

        เจ้าของไอดิน ฟาร์ม กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การเลี้ยงไม้ด่างทุกชนิดหรือกล้วยด่างทุกสายพันธุ์ ยอมรับว่าต้องดูแลเยอะขึ้น ต้องมีคนเฝ้าฟาร์มทั้งวัน คือไม่ห่างและไปไหนไม่ได้ เลี้ยงดีกว่าลูก เพราะการเลี้ยงต้องเลี้ยงแบบละเอียดอ่อนมาก เลี้ยงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกับการป้องกันเชื้อรา หากดูแลไม่ดี ชื้นเกินไป กล้วยติดเชื้อราก็จะทำให้เน่าและตายได้ สำคัญที่สุดคือใบ หากโดนลมแรง ใบเสียก็จะทำให้ราคาลดลง เวลาโดนลม โดนฝนก็ต้องเก็บเข้าร่มอย่างมิดชิด เวลาแดดจัดก็จะต้องเข้าร่มเช่นกันเพราะบางตัวเมื่อโดนแดดแรงใบจะไหม้ โดยเฉพาะกล้วยด่างสีขาวบางสายพันธุ์ จะโดนแดดไม่ได้ อย่างไรก็ตามนอกจากกล้วยด่างแล้ว กระแสที่มาแรงในระยะนี้ คือเสน่ห์จันทร์ด่าง, ชิโนก้านส้ม, กล้วยไข่ด่าง, กล้วยน้ำหว้าด่าง, แดงอินโด และไม้ใบพันธุ์ด่างทุกประเภทราคาแรงทั้งหมด”