เกษตรกรเลี้ยงจิ้งหรีดขอนแก่น ระบุอาหารสัตว์แพงมากต้องลดการเลี้ยงลงเพื่อลดต้นทุน (มีคลิป)

เกษตรกรเลี้ยงจิ้งหรีดขอนแก่น ระบุอาหารสัตว์แพงมากต้องลดการเลี้ยงลงเพื่อลดต้นทุน ขณะที่บางรายเตรียมหยุดเลี้ยงเร็วๆนี้เพราะต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ บ.หนองไฮ ม.11 ต.บ้านหัน อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น เพื่อพูดคุยกับเกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดในพื้นที่ หลังพบว่ากำลังประสบปัญหาอาหารสัตว์ที่แพงขึ้น จนทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหลายรายต้องลดกำลังการเลี้ยงจิ้งหรีดลง ขณะที่บางรายอาจจะต้องหยุดเลี้ยงในเร็วๆนี้

นายภูดิศ หาญสวัสดิ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 ม.11 ต.บ้านหัน อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น กล่าวว่า เดิมเลี้ยงจิ้งหรีด แบบพออยู่พอกินเหลือก็แจกจ่ายให้กับชาวบ้าน โดยปัจจุบันเลี้ยงจิ้งหรีดเข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว ซึ่ง ต.บ้านหันมีทั้งหมด 16 หมู่บ้าน โดยมีสมาชิกแปลงใหญ่ในการเลี้ยงจิ้งหรีดทั้งหมด 33 ราย ซึ่งโดยส่วนตัวยังคงมองว่าการทำการเกษตรในการเลี้ยงจิ้งหรีดนั้นเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าอย่างมาก

“ในอดีตในเรื่องของราคาซื้ออาจจะขึ้นลงคือบวกลบ 10 บาท หรืออยู่ที่ประมาณราคาประมาณกิโลกรัมละ 80 บาทซึ่งครอบครัวเลี้ยงจิ้งหรีดทั้งหมดในพื้นที่ 9 ไร่ รวม 35 บ่อ ซึ่ง 1 บ่อจะได้ผลผลิตประมาณ 22 กิโลกรัม ซึ่งจะมีรายได้รวมต่อเดือนประมาณ 30,000 บาท และจากการรวมกลุ่มสร้างเป็นแบบแผนและมีการทำงานร่วมกันของเกษตรกรในพื้นที่ทำให้ผลผลิตที่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น และขายได้ทั้งปี”

นายภูดิศ กล่าวต่ออีกว่า ในช่วงนี้ราคาอาหารสัตว์ขึ้นทุกประเภท ซึ่งก็ส่งผลต่ออาหารจิ้งหรีด ที่มีการปรับขึ้นราคาเช่นเดียวกัน ในเดือน ต.ค. 2564 หัวอาหารอยู่ที่กระสอบละ 450 บาท ปัจจุบันเดือน ก.ย.2565 หัวอาหารอยู่ที่กระสอบละ 570 บาท ขึ้นมา 120 บาท ในขณะที่ราคาขายจิ้งหรีดไม่ได้ขยับต่างจากเดิมมากนัก บางตลาดก็เพิ่มขึ้นมาแค่ 5 บาทต่อกิโลกรัม จนทำให้ในปัจจุบันหลายคนต้องพักการเลี้ยงลงเดิมเลี้ยง 10 บ่อ ก็ลดเหลือ 5 บ่อ เพราะแบกรับต้นทุนสภาวะหัวอาหารไม่ไหว

“ในอนาคตภาพรวมตลาดจิ้งหรีดกว้างและโตได้กว่านี้แน่นอนเพราะมีการขยายตัวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกนั้นขยายตัวแน่นอนเพราะว่าตลาดยังต้องการอีกเยอะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยและหลายภาคส่วนที่จะมาช่วยกัน จึงอยากให้หน่วยงานเข้ามาส่งเสริมและเข้ามาให้ทักษะทางวิชาการกับผู้เลี้ยงเพิ่มขึ้น เพราะจะช่วยเสริมการพัฒนาทั้งคุณภาพและปริมาณ รวมทั้งการส่งเสริมการตลาดการขาย ที่จะทำให้ภาพรวมของธุรกิจแมลงของไทยนั้นขยายตัวได้มากและโตขึ้นกว่านี้”

 

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง