หญิงวัย 37 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พล ถูกอดีตแฟนตามทำร้าย ทุบรถ ข่มขู่คุกคาม ล่าสุดตามมาหาไม่เจอคน เจอแต่รถจักรยานยนต์ ใช้มีดแทงยางรถต้องเปลี่ยนยางใหม่ กรีดเบาะ ทุบเฟรมรถ ไฟรถแตกเสียหายรอบคัน พร้อมจะทำร้ายชาวบ้านทุกคนที่เข้ามายุ่ง แถมขู่จะเผาร้านค้า วอนตำรวจเร่งล่าตัวดำเนินคดี

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 2 มิถุนายน 2565 ที่สภ.พล จ.ขอนแก่น นางสาว เจษฏาภรณ์หรือหญิง  อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 ม.2 ต.โนนข่า อ.พล จ.ขอนแก่น  นำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สกูปปี้ไอ สีแดง ทะเบียน 1 กอ-4036 ขอนแก่น ซึ่งมีสภาพบังโคลนหน้า ไฟหน้าแตกพังเสียหาย เบาะถูกกรีดจนขาด  พร้อมทั้งข้อความในแชทเฟสบุ๊ก ที่ถ่ายเอกสารไว้ เป็นหลักฐานเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เชาวรัฐ สิงห์โต สว.สอบสวนสภ.พล  เพื่อให้ทำการสืบสวนสอบสวนจับกุมนาย ณัฐพงษ์ พรมโสภา หรือป้อกอายุ 25 ปี ชาวบ้านหัวนา ต.โนนข่า อ.พล จ.ขอนแก่น  อดีตแฟนหนุ่มมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 หลังแจ้งความนางสาว เจษฏาภรณ์ อายุ 37 ปี พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุที่ริมถนนหลังที่ว่าการอำเภอพล ในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล พร้อมกับเปิดเผยว่า ตัวเองทำงานเป็นพนักงานประจำร้านขายคอมพิวเตอร์ในเมืองพล เคยมีสามีแต่เลิกกันไปนานหลายปีแล้ว ตนมีลูกติด 1 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 4 ขวบ ต่อมาได้คบหาเป็นแฟนกับนายป้อก คนในหมู่บ้านเดียวกันและทำงานเป็นพนักงานที่คาร์แคร์แห่งหนึ่งในเมืองพลอยู่ด้วยกันมาปีกว่า แต่หลังจากเห็นนายป้อกเสพยาบ้าในห้องพักหลายครั้ง และติดพนันสล็อตออนไลน์อย่างหนัก  และทำร้ายร่างกายมาหลายครั้ง ทั้งเตะทั้งต่อย แต่ก็ทนอยู่เพราะยังรัก แต่ขอร้องให้นายป้อเลิกเสพยาบ้าและเลิกเล่นพนันสล็อตไม่ได้ จึงบอกเลิกกับนายป้อก และก็กลับไปอยู่บ้านกับมารดาที่บ้าน นายป้อกตามง้อขอคืนดี แต่ตนไม่คืนดีด้วยและขอเลิกเด็ดขาดไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีก อีกทั้งมารดาก็ไม่พอใจให้คบหาอยู่กินกับนายป้อก เพราะมารดาไม่ชอบผู้ชายเสพยาเสพติดและเล่นพนัน

ตนเองยังต้องขับขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านมาทำงานในเมืองพล นายป้อกมาหาและมาขู่ฆ่า โดยบอกว่า อย่าให้เจอว่าอยู่กับผู้ชายจะฆ่าทิ้ง และยังขู่ฆ่าลูกสาววัย 4 ขวบ ซึ่งเป็นลูกติดของตนอีกด้วย ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ได้แจ้งให้ครอบครัวนายป้อกทราบเรื่องทุกอย่าง แต่ไม่มีใครมาช่วยเหลือ กระทั่งวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา หลังเลิกงาน จึงขับขี่รถจักรยานยนต์มาฝากไว้ที่หน้าร้านของพี่สาวที่รู้จักกัน แล้วก็ขี่รถไปกินข้าวที่บ้านเพื่อน ประมาณ สี่ทุ่มกลับมาเอารถจักรยารยนต์เพื่อจะขี่กลับบ้าน ปรากฏว่าเห็นรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ข้างถนน ล้อหน้าถูกของมีคมแทงจนยางรถขาด ล้อหลังถูกปล่อยลมออกหมด เบาะถูกกรีด บังโคลนถูกของแข็งทุบจนพัง พี่ที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวเห็นเหตุการณ์ โดยบอกว่า นายป้อกเป็นคนทำ ไม่มีใครกล้าห้าม เพราะกลัวนายป้อกทำร้าย จึงนำหลักฐานเป็นข้อความแชทที่ถูกนายป้อกข่มขู่ฆ่า และรถจักรยานยนต์ที่พังเสียหายมาแจ้งความ ให้ตำรวจจับนายป้อกเข้าคุก

ในขณะที่นางสาวนิตยา อายุ 39 ปี มีบ้านพักอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า น้องหญิงเคยมาช่วยงานที่ร้าน และเป็นช่วงที่คบหากับนายป้อกก็ถูกนายป้อกตามมาหึงหวงถึงที่ร้านและพาออกจากร้าน ถ้าน้องหญิงไม่ออกก็จะเผาร้าน พร้อมถือมีดพุ่งเข้ามาจะทำร้ายตนด้วย แต่ตนไม่อยากมีปัญหา จึงบอกให้น้องหญิงกลับไปอยู่กับนายป้องแฟนหนุ่มตนเองรู้เรื่องน้องหญิงกับนายป้อกมาตลอด เพราะน้องหญิงเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟังในขณะเดียวกันก็ทราบว่านายป้อกติดยาเสพติด ติดการพนันออนไลน์ และทำร้ายร่างกายน้องหญิงบ่อยๆ แต่น้องหญิงก็ทน เพราะรักแฟน  สุดท้ายนายป้อกอาการหนักทำร้ายร่างกายถึงขั้นจะฆ่าน้องหญิง อาจเป็นเพราะฤทธิ์ของยาเสพติดก็ได้ น้องหญิงจึงเลิกและกลับไปอยู่กับแม่ที่บ้าน

กระทั่งวันเกิดเหตุ หลังจากน้องหญิงมาฝากรถจักรยานยนต์ไว้ที่หน้าร้าน ช่วงหัวค่ำนายป้อกขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อมากับเพื่อน นายป้อกลงจากรถก็มาถามหาน้องหญิง จึงตอบว่าไม่รู้ไปไหน นายป้อกไม่พอใจ เอาเก้าอี้ปูนทุบทำลายรถจักรยานยนต์และใช้มีดปลายแหลมกรีดเบาะรถจักรยานยนต์ของน้องหญิง ทำลายจนพอใจก็ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนออกไป เมื่อน้องหญิงมาเอารถ จึงบอกรายละเอียดให้ทราบและน้องหญิงก็เข้าแจ้งความดังกล่าว