กลุ่มผู้ชุมนุมออกแถลงการณ์หลังศาล รธน.มีมติ 5 ต่อ4 ให้ “ประยุทธ” หยุดปฎิบัติหน้าที่ แกนนำระบุ 2 ป.พี่น้องกัน ทุกอย่างคงเป็นเหมือนเดิม พร้อมเตรียมชุมนุมใหญ่ในการประชุมเอเปค
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 24 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ริม ถ.ศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่นได้มีกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งประกอบด้วย กลุ่ม ดาวดิน, ขอนแก่นพอกันที ,พรรคปฏิวัติมอดินแดง ,ภาคีเครือข่ายนักเรียนkkc และคณะราษฎรขอนแก่น ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องของประธานรัฐสภา ที่ขอให้วินิจฉัยเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าสิ้นสุดในวันที่ 24 ส.ค.2565 มีมติ 5 ต่อ 4 เสียง สั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะต้องนั่งดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
นายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ หรือ ไนท์ ดาวดิน กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่แล้วให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่แทน แต่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัยว่าหมดวาระหรือยังไม่หมดวาระ ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ยังสามารถกลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกในอนาคต แต่ยังมีอีกตำแหน่งคือรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเพราะวาระไม่ได้ระบุอะไรไว้ สรุปว่ายังสามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีก
“ตอนนี้ก็ยังเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมได้อยู่ ในความรู้สึกยังมีความเลวร้ายเท่าเดิมเพราะว่าโดยทั่วไปทั้ง 2 คนนี้เป็นเหมือนพี่น้องกันซึ่งการดำเนินการ ความคิด แนวนโยบายทุกคนรู้ดีว่า พล.อ.ประวิตร อยู่เบื้องหน้า พล.อ.ประยุทธ์ เพราะว่ายังเป็นหัวเรือใหญ่ของรัฐบาลชุดนี้อยู่แค่เปลี่ยนหน้าเล่น ศาลรัฐธรรมนูญพักการปฏิบัติหน้าที่เพราะต้องการหยุดแรงต่อต้านของสังคม ยังไงก็ยังเลวร้ายเหมือนเดิมประเทศไทยก็ยังถูกกดขี่มีปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ปัญหามนุษยชนเหมือนเดิม เรายืนยันข้อเรียกร้องว่าประยุทธ์ จันโอชา ต้องลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ทั้งองคาพยพ ต้องมีการร่างกฎหมายใหม่หรือเขียนกฎหมายใหม่ และการเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์“
นายภาณุพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า ในเวทีประชุมเอเปคเราต้องการจะสื่อกับผู้นำทั่วประเทศว่าในสถานการณ์ในประเทศไทยมีความเลวร้ายขนาดไหนการร่วมกันลงทุน การร่วมกันแก้ปัญหาสิ่งแรกที่ผู้นำประเทศต้องได้รับรู้ความจริงในสังคมไทยไม่ใช่ข้อมูลฝ่ายรัฐบาลอย่างเดียวที่พยายามจะสื่อเข้าไปในวงประชุมแต่ผู้นำทั่วโลกต้องได้รับการรับรู้ส่วนการเตรียมพร้อมได้มีการพูดคุยกับนักกิจกรรมหลายๆกลุ่มในการเคลื่อนไหวเพื่อจะนำความจริงประเทศไทยสู่สายตาผู้นำทั่วโลก
Leave a Response